25661011pm--อย่าสร้างคุกให้ใจ
11 ต.ค. 66- อย่าสร้างคุกให้ใจ : เราเอากายมาเป็นฐานของใจ จะว่าไปก็เหมือนกับเอากายเป็นบ้านของใจ ใจมันต้องการบ้าน และบ้านของใจก็หมายถึงบ้านที่มีอิสระที่จะมาและจะไปได้ ถ้าบังคับใจให้อยู่ตรงนั้นตรงนี้ เช่นมาอยู่กับกาย กายก็จะไม่ใช่บ้านแล้วกลายเป็นคุก อย่าให้กายเป็นคุกของใจ เพราะถ้ากายเป็นคุกของใจ มันจะหนีมันจะแหก ถ้าเราบังคับจิตให้อยู่กับกาย นั่นคือกำลังทำให้กายเป็นคุกของใจ
แต่ถ้าเราทำให้กายเป็นบ้านของใจ ก็หมายความว่ามันมีอิสระที่จะมาและจะไปได้ ถ้าหากว่าใจรู้ว่ากายเป็นบ้าน และมีอิสระที่จะไปที่จะมา มันก็จะพอใจที่จะอยู่กับกาย
เหมือนกับเด็กวัยรุ่น ถ้าหากว่าเขารู้ว่าบ้านมันไม่ใช่คุก เขาก็อยากจะอยู่บ้าน แต่ถ้าเขารู้สึกว่าบ้านมันคือคุก เพราะพ่อแม่บังคับทุกอย่างเลย เขาก็อยากจะแหกออกจากคุก ไม่อยากกลับบ้าน จะกลับก็ต้องดึกๆ ดื่นๆ หรือไม่ก็หาเรื่องเที่ยวเตร่ 3-4-5 วันกลับที เพราะเขารู้สึกว่าที่นั่นไม่ใช่บ้านแต่คือคุก แต่ถ้าเขารู้สึกว่าบ้านเป็นที่ที่เขามีอิสระ เขาก็อยากจะอยู่
ใจก็เหมือนกัน ทำกายให้เป็นบ้านของใจ จะมาก็ได้จะไปก็ได้ แต่ว่าเราก็จะอาศัยสติมาเชื้อเชิญ มาชวนเกลี้ยกล่อมให้ใจกลั
05/12/2023 • 27 minutes 55 seconds 25661004pm--ลดตัวตนให้เบาบาง
4 ต.ค. 66 - ลดตัวตนให้เบาบาง : ถ้าเราลดตัวตนได้มากเท่าไหร่หรือว่าลดการยึดมั่นถือมั่นในตัวตนได้มากเท่าไหร่ ถึงเวลาที่มีความทุกข์ มันก็ทุกข์น้อย เวลามีใครมาตำหนิต่อว่าก็จะทุกข์น้อย ยิ่งไม่มีตัวตนเลยยิ่งไม่ทุกข์เลยนะ มันเหมือนกับกระจก ถ้าถูกก้อนหินตกลงมากระแทกก็แตก แต่ถ้ามีไม่มีกระจกเลย ก้อนหินตกลงมามันก็ไม่มีอะไรแตก ถ้าเป็นคนก็ไม่เจ็บ คนที่ไม่มีตัวตน มีอะไรมากระทบก็ไม่กระเทือน
อย่างที่เราสวดเมื่อสักครู่ บทมงคลสูตร ผู้ที่ฝึกจิตไว้ดีแล้ว จิตของผู้ใดอันโลกธรรมทั้งหลายถูกต้องแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหว ไม่เศร้าโศก ไร้ธุลีกิเลส มีตัวตนน้อย หรือว่ายึดมั่นถือมั่นในตัวตนน้อยมาก พอถึงเวลาปวด เวลาเจ็บ มันก็มีแต่ความเจ็บความปวด ไม่มีผู้ปวด ถ้ามีตัวตนเมื่อไหร่มันก็มีความเป็นผู้ปวด ผู้เจ็บ ผู้สูญเสีย ผู้โกรธ แต่ถ้ามีตัวตนน้อย มีความโกรธแต่ไม่มีผู้โกรธ มีความทุกข์แต่ไม่มีผู้ทุกข์ ถึงเวลาตายก็มีแต่ความตาย ไม่มีผู้ตาย มันจะช่วยลดความทุกข์ไปได้เยอะเลย
แต่ถ้ามีตัวตนหนาแน่นเมื่อไหร่ เวลามีความปวด ก็ไม่ได้มีแต่แค่ความปวด มีผู้ปวดด้วย และปวดมากด้วย เวลามีความโกรธก็มีผู้โกรธ โกรธมากด้วย เวลามีความทุกข์ ไ
05/12/2023 • 29 minutes 33 seconds 25661003pm--ดีใจได้แต่อย่าลืมตัว
3 ต.ค. 66 - ดีใจได้แต่อย่าลืมตัว : ความดีใจนี่ถ้าเราปล่อยใจหรือจมไปกับมัน มันไม่ใช่ดีนะ มันไม่ใช่แค่ทำให้เราลืมเนื้อลืมตัว หรือไม่รู้สึกตัว ตัวอย่างที่พูดไปสักครู่มันยังทำให้ถึงเวลาที่เราเสียใจ เราก็จะจมอยู่ในความเสียใจได้ง่าย ถ้าเพลินอยู่กับความดีใจมันก็จะจมอยู่กับความเสียใจได้ง่าย
เหมือนคนที่หัวเราะเสียงดังดีใจ ถึงเวลาเศร้าใจเขาก็จะร้องไห้เสียงดังเหมือนกัน ถ้าไม่อยากจมอยู่กับความทุกข์ความเสียใจก็อย่าไปเพลิน หรือหลงอยู่กับความดีใจ ฉะนั้นเวลาฝึกดูใจ ฝึกรู้เท่าทันอารมณ์ ไม่ใช่แค่รู้ทันเฉพาะเวลามีอารมณ์ฝ่ายลบ เช่นความโกรธ ความหงุดหงิด หรือว่าความเครียด แม้กระทั่งอารมณ์ที่เราเรียกว่าอิฏฐารมณ์ น่าพึงพอใจ ก็อย่าไปเพลินกับมันมาก ให้ตั้งสติ ตั้งการ์ดดู เห็นมันมาแล้วก็ไป
เพราะฉะนั้น ท่านจึงสอนว่าให้รู้จักวางใจให้ดี อย่าไปยินดียินร้าย บางคนสงสัย ยินร้ายน่ะเข้าใจแต่ทำไมไม่ต้องยินดีด้วย อยากจะปล่อยใจให้มันยินดีถ้าไม่อยากยินร้ายก็ต้องฝึกให้ไม่ยินดี หรือถึงแม้ยินดีก็รู้ทัน ถ้าไม่อยากเศร้าเวลาสูญเสีย ไม่อยากโกรธเวลาถูกต่อว่า
เช่นเดียวกัน เวลาได้ก็อย่าไปดีใจมาก หรือเวลาได้รับคำชมก็อย่
04/12/2023 • 28 minutes 29 seconds 25661002pm--อย่าซ้ำเติมตนด้วยความอยาก
2 ต.ค. 66 - อย่าซ้ำเติมตนด้วยความอยาก : แม้ว่าเราจะยังไม่มีปัญญาเห็นแจ่มแจ้งถึงความจริงว่า ทุกอย่างมันไม่เที่ยง พูดง่ายๆ คือไม่รู้ความจริง แต่อย่างน้อยถ้ารู้ทันความอยากที่มันเกิดขึ้น มันก็ช่วยได้เยอะ ไม่รู้สัจธรรม ไม่รู้ไตรลักษณ์ ก็ยังไม่เป็นไร แต่ถ้าหากว่าตราบใดที่ยังรู้ทันความอยากที่เกิดขึ้น นั่นก็คือมีสตินั่นเอง
พอมีสติ มันก็จะเห็นความอยากที่มาบงการจิต และไม่ต้องทำอะไรกับความอยาก แค่รู้เฉยๆ มันก็ค่อยๆ เลือนหายไปเอง ไม่ต้องไปอยากให้ไม่อยาก ซึ่งมันหนักเข้าไปใหญ่ เราเพียงแค่รู้ความอยาก เห็นความอยากก็พอ พอมันถูกรู้หรือถูกเห็นด้วยสติ มันก็ค่อยๆ จางคลายไป เพราะว่ามันเกิดขึ้นเนื่องจากความไม่รู้สึกตัว ความหลงนั่นเอง แต่พอมีสติ มีความรู้สึกตัว ความหลงหาย ความอยากก็ดับไป ไม่มีที่ตั้ง
เพราะฉะนั้นเวลาเรามีความทุกข์ขึ้นมา ก่อนที่จะไปจัดการกับอะไรต่ออะไรที่เราคิดว่ามันทำให้เราทุกข์ ลองกลับมาดูว่า เป็นเพราะความอยากของเราหรือเปล่า อย่างอาจารย์คนที่เล่าถึงนั้น เขาคิดว่าลูกชายทำให้ตัวเองทุกข์ เพราะลูกชายไม่ยอมเรียนหมอ แต่ที่จริงไม่ใช่หรอก ลูกชายไม่ได้ทำให้พ่อทุกข์ แต่ความอยากหรือความคาดหว
03/12/2023 • 27 minutes 55 seconds 25661001pm--ก้าวข้ามความสุขอย่างหยาบ
1 ต.ค. 66 - ก้าวข้ามความสุขอย่างหยาบ : ความอยากจะเอาชนะ อยากจะเป็นผู้ชนะ มันสนองอัตตาตัวตนเต็มที่ แล้วมันพร้อมที่จะผลักไสให้เราทำชั่วก็ได้ ทำร้ายคนอื่นก็ได้ เพื่อจะเป็นผู้ชนะ หรือถลำเข้าไปในวงจรของอบายมุขเพื่อจะได้เป็นผู้ชนะ แต่มันเป็นชัยชนะที่จอมปลอมและเป็นชัยชนะที่น่ากลัวมาก สู้ชัยชนะที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ชนะตนประเสริฐกว่าชนะผู้อื่นนับร้อยนับพันครั้ง”
และ ‘ชนะตน’ ในที่นี้ หมายถึงชนะกิเลสหรืออัตตาด้วย เพราะอัตตามันก็จะพยายามล่อหลอกเราให้สนองหรือปรนเปรอมัน สรรหาเหตุผลมาเพื่อที่จะล่อหลอกให้เราหลง แล้วเวลาที่เราจะชนะกิเลสพวกนี้ได้ มันต้องมีสติมากเลยนะ มีสติที่จะรู้เท่าทันอุบายของตัวอัตตาตัวกิเลสเหล่านี้ มันจะหลอกเรายังไง มันจะบอกว่า “ครั้งเดียวเท่านั้น” หรือ “ครั้งสุดท้ายแล้ว” เราก็ไม่เชื่อนะ ก็เพราะไม่เชื่อนี่แหละนะ จึงทำให้เราเป็นอิสระจากอำนาจของมันได้
02/12/2023 • 27 minutes 35 seconds 25660930pm--ถามไม่ถูก ออกจากทุกข์ไม่ได้
30 ก.ย. 66 - ถามไม่ถูก ออกจากทุกข์ไม่ได้ : บางทีถ้าหากว่าเราหมั่นถามสักหน่อยนะ แทนที่จะถามว่าใคร แต่ถามว่าอะไร เราก็จะเห็นความจริงได้ ความจริงที่จริงแท้ได้มากขึ้น แทนที่จะถามว่าใครเห็นก็ถามว่าอะไรเห็น แทนที่จะถามว่าใครเดินก็อะไรเดิน แทนที่จะถามว่าใครได้ยินก็ถามว่าอะไรได้ยิน ก็อาจจะพบว่ามันเป็นรูปที่เดิน มันเป็นจิตที่เห็น มันเป็นจิตที่ได้ยิน จึงมีคำว่าจักขุวิญญาณ โสตวิญญาณ วิญญาณคือการรับรู้ของจิตนั่นเอง
คนเราไปติดที่คำว่าใครๆๆ มันก็เลยเห็นแต่ความจริงในระดับสมมติสัจจะ พอมองว่าใครก็มีแต่เรากับเขา แต่ถ้ามองว่าอะไร มันก็จะเห็นรูปเห็นนาม แล้วต่อไปก็จะเห็นเป็นขันธ์ 5 แล้วถ้าเรามองอะไร แทนที่จะมองว่าใคร มันก็จะเห็นขันธ์ 5 หรือ รูป นาม กาย ใจ ซึ่งเป็นความจริงแท้ แต่ถ้าเราเอาแต่ถามว่าใครๆๆ มันก็จะเห็นความจริงระดับสมมุติสัจจะ ซึ่งมันก็พาเราไปสู่ความหลงได้ง่าย
แต่ในชีวิตจริงเราก็คงหนีไม่พ้นนะที่จะต้องถามว่าใครๆๆ แต่ถ้าถามว่าอะไรบ้างก็ดี โดยเฉพาะถามในลักษณะที่ทำให้สาวไปถึงเหตุ สาวไปถึงปัจจัย อย่างเช่น เวลาเราเห็นอุบัติเหตุ หรือว่าอาชญากรรม แทนที่เราจะถามว่าใครทำ เราถามว่า “อะไรเป็นเหตุ
01/12/2023 • 28 minutes 54 seconds 25660929pm--ทุกข์มาให้รู้
29 ก.ย. 66 - ทุกข์มาให้รู้ : พอเห็นว่าทุกอย่างเป็นทุกข์ ใจมันก็จะหน่าย ไม่อยากจะยึดแล้ว แต่ก่อนเห็นว่าอะไรๆ ก็เป็นสุข มันก็เลยยึด รวมทั้งร่างกายนี้ พอเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ให้ความสุขกับเรา แต่พอเห็นว่าเป็นตัวทุกข์ มันก็วาง นี่เรียกว่าเกิดปัญญาขึ้นมาเห็นความจริง พอรู้ว่าทุกอย่างเป็นทุกข์ จิตมันก็คลาย ไม่ยึดมั่นถือมั่น พอจิตไม่มั่นถือมั่นมันก็พ้นทุกข์ อย่างที่หลวงพ่อคำเขียนว่า “เห็นทุกข์ก็พ้นทุกข์”
เพราะฉะนั้นการรู้ทุกข์สำคัญนะ เราไม่ได้รู้ด้วยการท่องจำเอา ทีแรกรู้ด้วยสติ ต่อไปก็รู้ด้วยปัญญา แม้จะยังไม่ถึงขั้นเห็นทุกอย่างเป็นทุกข์ทั้งนั้น แต่อย่างน้อยเวลามันเกิดทุกข์ที่กาย ก็ไม่ไปยึดว่าฉันทุกข์ เวลามันมีความปวดที่กาย ก็ไม่ยึดมั่นสำคัญว่าฉันปวด เรียกว่าเห็นความปวดแต่ไม่มีผู้ปวด เวลามีความโศกความเศร้าเกิดขึ้น หรือความโกรธก็เห็นมัน เห็นความโกรธไม่เป็นผู้โกรธ แค่นี้ก็ช่วยได้เยอะแล้ว ถ้าเกิดว่าเราหมั่นฝึกรู้ทุกข์บ่อยๆ ด้วยการเอาสติมาดูกายดูใจอยู่เรื่อยๆ มันก็จะเห็นทุกข์ได้ไวขึ้น และเห็นทุกข์เมื่อไร มันก็ไม่เป็นทุกข์เมื่อนั้น
30/11/2023 • 29 minutes 23 seconds 25660928pm--มีชีวิตโดยไม่เสียใจกับสิ่งที่ผ่านมา
28 ก.ย. 66 - มีชีวิตโดยไม่เสียใจกับสิ่งที่ผ่านมา : มันมี 2 สิ่งนะที่คนส่วนใหญ่เสียใจ 1 ทำโดยไม่ได้คิด 2 ได้แต่คิดแต่ไม่ทำ” ทำโดยไม่คิดก็คือว่าจะทำด้วยอำนาจของกิเลสหรือด้วยอำนาจของราคะหรือโทสะเรียกว่าทำโดยไม่คิดเสร็จแล้วก็มาเสียใจว่าฉันไม่น่าเลย ไม่น่าพลั้งเผลอ รู้อย่างนี้ไม่ทำดีกว่าหรือ ประเภทที่ 2 ได้แต่คิดแต่ไม่ทำเพราะว่าอาจจะคิดว่าเดี๋ยวก็ทำวันหลังก็แล้วกันผัดผ่อนไปเรื่อยคิดว่ามีเวลาแต่ลืมไปว่าความตาย หรืออย่าว่าแต่ความตายเลย ความเจ็บป่วยไม่รอใคร ถึงแม้ไม่ตายแต่ความเจ็บป่วยก็ทำให้ไอ้สิ่งที่คิดและอยากจะทำสุดท้ายก็ไม่ได้ทำ
ฉะนั้นคนเราถ้าหากว่ามาถึงบั้นปลายของชีวิตแล้วถ้าเราไม่มีอะไรที่ต้องเสียใจหรือเสียดาย ก็ถือว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ได้อย่างหนึ่ง จะเรียกว่าโชคดีก็คงไม่ถูกเพราะเรื่องอย่างนี้มันไม่เกี่ยวกับโชค มันเกี่ยวกับเรื่องของการที่รู้จักวางแผนชีวิตอย่างมีสติ มีวิจารณญาณ เมื่อเรามาถึง ระยะท้ายของชีวิตแล้วถ้าเราไม่รู้สึกเสียดายหรือเสียใจกับสิ่งที่ทำ ไม่มีความปรารถนาที่จะย้อนเวลากลับไปเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ทำอยู่
ถ้าคนเรามาถึงตระหนักตรงนี้หรือมาพบว่าไม่
29/11/2023 • 22 minutes 30 seconds 25660927pm--สิ่งมีค่าที่ควรถนอมรักษา
27 ก.ย. 66 - สิ่งมีค่าที่ควรถนอมรักษา : เราใส่ใจกับเรื่องอะไร จิตของเราก็จะเป็นอย่างนั้น ถ้าเราอยากให้ใจเรามีความสุข มีความสงบ เราก็ต้องรู้จักที่จะใส่ใจ ซึ่งก็ได้แก่มารู้กายรู้ใจ มาใส่ใจกับกายเวลาเคลื่อนไหว มาสังเกตรู้ทันความคิดและอารมณ์ เมื่อมันมีสิ่งเหล่านี้ผุดขึ้นในใจ
ถ้าเราเห็นคุณค่าของความใส่ใจ ตระหนักว่ามันเป็นทรัพยากรที่มีค่า เราจะหวงแหน ทะนุถนอมว่าเราจะใส่ใจกับอะไร จะไม่มัวแต่ปล่อยให้ใส่ใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องราวของชาวบ้าน คำพูดคำจาที่ชวนให้หงุดหงิด ที่บางท่านเรียกว่าเป็นขยะที่หลุดจากปากของใครต่อใคร เป็นเพราะเราไม่รู้จักควบคุมความใส่ใจของเรา หรือไม่รู้จักสงวน ไม่รู้จักรักษาความใส่ใจ จิตใจเราจึงเต็มไปด้วยความทุกข์ เพราะว่ามัวไปจับไปฉวยเอาขยะ สิ่งที่ไม่เป็นสาระมาสุมไว้ในใจ แต่ถ้าเรารู้จักเลือกใส่ใจ เราก็จะรับเอาสิ่งดีๆ เข้ามา ทำให้จิตใจเราเบิกบานแจ่มใส เป็นกุศล และเจริญงอกงาม
28/11/2023 • 29 minutes 23 seconds 25660926pm--อะไรจะดีหรือไม่อยู่ที่ใจเรา
26 ก.ย. 66 - อะไรจะดีหรือไม่อยู่ที่ใจเรา : อย่างที่ครูบาอาจารย์หรือว่าพระอรหันต์หลายท่านก็ใช้ตัณหาละตัณหา ใช้มานะละมานะ เพราะฉะนั้นอะไรเกิดขึ้นกับเรานี่มันไม่สำคัญเท่ากับว่าเรามีท่าทีกับมันอย่างไร เราปฏิบัติกับมันอย่างไร คือรู้สึกกับมันอย่างไร หรือใช้ประโยชน์กับมันได้แค่ไหน หรือปล่อยให้มันเข้ามามีอำนาจครองใจเรา อันนี้ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา สิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา หรือสิ่งที่เกิดในใจของเรานะ มันก็เหมือนกันหมดนะ เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วจะดีหรือไม่อยู่ที่เรา จะดีหรือร้ายหรือไม่อยู่ที่เรา หรืออยู่ที่การปฏิบัติของเรา
ถ้าเราปฏิบัติได้ดี ปฏิบัติได้ถูกต้อง ของดีก็ทำให้เกิดประโยชน์ โชคลาภก็ทำให้เกิดประโยชน์ หรือแม้จะเป็นเคราะห์ ความยากลำบาก ความเจ็บป่วย หรือความทุกข์ มันก็กลายเป็นของดีได้นะ ถ้าหากว่าเรารู้จักใช้มัน และอันนี้แหละคือเคล็ดลับสำคัญนะในการที่คนเราจะเป็นอิสระจากความทุกข์ หรือว่าสามารถที่จะยกจิตยกใจอยู่เหนือสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้น ไม่ว่ารอบตัวเรา กับชีวิตของเรา หรือว่าในใจของเรา
27/11/2023 • 27 minutes 57 seconds 25660925pm--ความอยากที่ควรรู้ทัน
25 ก.ย. 66 - ความอยากที่ควรรู้ทัน : อารมณ์ที่เกิดขึ้นในใจของเราก็เหมือนกัน ถ้าเราไปรู้สึกลบกับมัน ไปโรมรันพันตูกับมัน อยากขับไสไล่ส่งมัน มันยิ่งดื้อด้าน แต่พอเราไม่มีอาการแบบนั้น จะอยู่ก็อยู่ไปฉันไม่ว่าอะไร พอเราวางใจแบบนี้ มันกลับค่อยๆ ล่าถอยไป อารมณ์ความคิดมันก็เป็นอย่างนี้
เพราะฉะนั้นเวลาเราปฏิบัติ ลองสอบถามหรือตรวจสอบใคร่ครวญดูว่าลึกๆ ในใจเรามีความรู้สึกอยากจะกำจัดความคิดและอารมณ์ต่างๆ ออกไปจากใจหรือเปล่า ลองใช้สติตรวจสอบ ก็อาจจะพบว่ามันมีความคิดนี้ซุกซ่อนอยู่ ที่มันคอยบงการอยู่เบื้องหลังการปฏิบัติของเรา ถ้าเห็นก็ไม่ต้องทำอะไรกับมัน ก็แค่รู้ว่ามันมีอยู่ เพียงแค่มันถูกรู้ถูกเห็น มันก็คลายพิษสงลงแล้ว มันก็จะไม่มาบงการจิตใจของเราต่อไป
แม้กระทั่งความอยากที่จะให้สิ่งต่างๆ หายไปหรืออยากจะกำจัดสิ่งต่างๆ ความอยากแบบนี้เราก็ไม่ควรจะอยากกำจัดให้มันหายไปจากใจเหมือนกัน อย่าไปอยากซ้อนอยาก ก็แค่รับรู้มันเฉยๆ แล้วก็รู้ว่ามันเป็นธรรมดา เดี๋ยวมันก็ค่อยๆ ล่าถอยไปเอง
26/11/2023 • 28 minutes 40 seconds 25660924pm--ขยันรู้ ขยันดู
24 ก.ย. 66 - ขยันรู้ ขยันดู : ธรรมชาติของคนเราสมัยนี้มันชอบไปบงการบังคับควบคุมจัดการกับอะไรต่ออะไรมากมาย ถึงเวลามาปฏิบัติก็มาพยายามบังคับควบคุมจัดการกับจิต แทนที่จะปล่อยให้จิตเป็นอิสระเป็นธรรมชาติ และหน้าที่ของเราคือให้สติได้มารู้มาเห็น ถ้าหากว่าเราปล่อยให้สติเขาทำงาน ใหม่ๆ อาจจะเงอะงะงุ่มง่าม ช้านะ เหมือนกับสมัยที่เราอยู่ ป.1 ป.2 เวลาท่องสูตรคูณ มันต้องนึกอยู่นาน 5x8 ได้เท่าไหร่ ต้องนึกอยู่นาน 9x8 ได้เท่าไหร่ ต้องนึกอยู่นาน แต่พอเราท่องบ่อยๆ หรือทำเลขบ่อยๆ มันออกมาเลยทันที 5x8=40 9x8=72 นั่นเพราะอะไร เพราะทำบ่อยๆ ทำซ้ำๆ แต่ใหม่ๆ มันงุ่มง่ามอยู่แล้ว มันจะนึกคำตอบนี่ช้ามาก เหมือนกับสติของเรา
จะให้มันรู้มันเห็นความคิดและอารมณ์ใหม่ๆ มันช้า แต่เราอย่าใจร้อน เราให้โอกาสเขา เพราะว่าเรื่องนี้มันต้องให้สติรู้เองเห็นเอง อย่าไปทำแทนสติ ต้องเปิดโอกาสให้สติได้ทำงาน สติก็จะเติบโต เมื่อสติเติบโตแล้วก็จะทำงานแทนเรา เวลาเผลอก็เผลอไม่นาน สติมาบอกเลยนะว่าตอนนี้กำลังฟุ้งแล้ว มันรู้ทัน มันเห็นความคิดและอารมณ์ได้ทันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจเลย หลักการเจริญสติที่นี่ไม่มีอะไรมาก ขยันรู้อย่างเดียวเลย รู้ตะพึ
25/11/2023 • 29 minutes 55 seconds 25660923pm--ทำบุญอย่าทิ้งธรรม
23 ก.ย. 66 - ทำบุญอย่าทิ้งธรรม : ธรรมะสามารถจะเข้าสู่ใจเราได้ ประการแรกด้วยการฟัง เรียกว่าสุตมยปัญญา การฟังแต่ฟังแล้วไม่พอจะต้องใคร่ครวญด้วย ใคร่ครวญจากประสบการณ์ของผู้คนมากมายที่เคยรุ่งแล้วก็ร่วง หรือว่าเคยสำเร็จแต่แล้วก็ล้มเหลว ชีวิตเคยขึ้นแต่แล้วก็ลง ถ้าเราคอยใคร่ครวญ แบบนี้เรียกว่าจินตามยปัญญา
หรือที่ดียิ่งกว่านั้นคือภาวนามยปัญญา คือปฏิบัติธรรม อันนี้ยิ่งเป็นเรื่องยากสำหรับชาวพุทธจำนวนมาก จะให้มาทำบุญน่ะได้ แต่จะให้มาปฏิบัติธรรมน่ะฉันไม่เอา มักจะพูดว่าฉันยังไม่ทุกข์จะปฏิบัติธรรมไปทำไม รอให้แก่ก่อน แต่ถึงเวลาแก่ก็เลี่ยงไปเรื่อยๆ
ภาวนามยปัญญาคือการเจริญสติ การทำสมาธิ การทำกรรมฐาน เป็นหนทางแห่งการเปิดใจให้เข้าถึงธรรม อนิจจังทุกขังอนัตตา ถ้าได้แต่เรียนรู้ผ่านการฟังเท่านั้นมันไม่ซาบซึ้งถึงใจนะ ถึงเวลาเกิดเหตุก็ลืม ลืมไปเลยนะเพราะว่ามันเป็นแค่สิ่งที่ได้ยินได้ฟังมา แต่ถ้าเราภาวนาจนเห็นรูปเห็นนาม โดยเฉพาะความคิดอารมณ์ที่มันไม่เที่ยง มันตกอยู่ภายใต้กฎไตรลักษณ์ ก็จะเข้าใจซาบซึ้ง
พอเข้าใจไตรลักษณ์แล้ว มันจะไม่ลืมหรือลืมยาก ถึงเวลาเกิดความผันผวนแปรปรวนขึ้นมาในชีวิต ก็ทำใจได้ ยอ
24/11/2023 • 28 minutes 44 seconds 25660922pm--ยิ่งอยากยิ่งไม่ได้
22 ก.ย. 66 - ยิ่งอยากยิ่งไม่ได้ : ความอยากนี้แปลกนะ ยิ่งอยากเท่าไหร่ยิ่งได้ผลตรงข้าม อยากเลิกเหล้ากลับกินเหล้าหนักขึ้น อยากหายป่วยกลับป่วยหนักขึ้น อยากให้มันสงบมันกลับจะฟุ้งหรือเคร ียดหนักขึ้น
ฉะนั้นเวลาปฏิบัติต้องกลับมาดูนะ มาตรวจสอบดูว่ามันมีความอยากไหม ถ้าเห็นความอยากอย่าไปกดข่มมัน ให้รู้สึกเป็นกลางกับมัน แค่รู้เฉยๆ มันก็มากพอที่จะทำให้มันไม่สามารถบงการจิตใจได้ อย่าประเภทว่า จะอยากให้ไม่อยากนะ ถ้าอยากให้ไม่อยาก มันจะยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เลย ก็แค่ดูมันเฉยๆ รู้ทันมันเฉยๆ ยอมรับว่ามันเกิดขึ้นแต่ไม่ไหลตามมัน เรียกว่ารู้ซื่อๆ มันก็จะไม่มาบงการจิตใจเรา ทำให้เกิดความเพี้ยนหรือว่าเกิดอาการเหวี่ยงวีน
23/11/2023 • 26 minutes 35 seconds 25660921pm--ทำกิจด้วยจิตปล่อยวาง
21 ก.ย. 66 - ทำกิจด้วยจิตปล่อยวาง : คำว่าทำเต็มที่แต่ไม่ซีเรียส ก็คือการทำกิจแล้วก็ทำจิต ทำเต็มที่คือขยันหมั่นเพียร ใส่ใจพิจารณาว่า อะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ แต่ขณะเดียวกันใจก็ไม่ยึดติดถือมั่นกับผลสำเร็จ ใจอยู่กับปัจจุบัน ไม่ไปชะเง้อมองอนาคตหรือผลที่มุ่งหวัง เพราะถ้าทำไปแต่ใจไปอยู่กับผลสำเร็จ หรือผลที่คาดหวัง มันทุกข์นะ
แม้แต่เพียงแค่เดินทางไปเที่ยวหลายคนก็ทุกข์แล้วเพราะว่าใจไปนึกแต่ว่าเมื่อไหร่จะถึง ทั้งที่ไปเที่ยวแท้ๆ แต่ใจทุกข์แล้วเพราะว่าใจไปอยู่ที่เป้าหมาย พอใจอยู่ที่เป้าหมายนั้นก็จะมีความรู้สึกว่าเมื่อไรจะถึง สักที ทำดีหรือทำอะไรเพื่อส่วนรวม หรือแม้กระทั่งทำการงานส่วนตัว หากว่าจิตมันไปอยู่ที่เป้าหมายอยูที่ความสำเร็จ มันก็จะทุกข์นะว่าเมื่อไหร่จะถึง แต่พอถอนจิตออกจากเป้าหมายที่มุงหวัง มาอยู่กับปัจจุบัน ก็ทำได้ด้วยใจที่ไม่ทุกข์เรียกว่าทำได้เต็มที่แต่ไม่ซีเรียส จะเรียกว่าทำด้วยจิตปล่อยวางก็ได้ หรือทำด้วยใจที่อยู่กับปัจจุบัน
เพราะฉะนั้นการทำกิจด้วยจิตปล่อยวาง มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ขัดแย้งกัน จึงเป็นสิ่งที่เป็นไปได้และควรทำด้วย และนี่คือสิ่งที่ตรงกับคำสอนของพุทธศาสนาที่ท่านสอ
22/11/2023 • 29 minutes 18 seconds 25660920pm--ทำดีเป็นหน้าที่ของเรา
20 ก.ย. 66 - ทำดีเป็นหน้าที่ของเรา : เราต้องรู้จักแยกแยะนะ ใครทำอะไรก็เป็นเรื่องของเขา อย่าเอามาเป็นปัญหาของเรา หรืออย่าเอามาเป็นเครื่องกีดขวางการทำความดีของเรา ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นพ่อแม่ เป็นผู้มีพระคุณ เป็นครูบาอาจารย์ หรือเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่ว่าเขาจะทำดีหรือไม่ มันเป็นเรื่องของเขา ส่วนหน้าที่ของเราคือทำความดีเท่าที่เราจะทำได้ เพราะความดีเป็นสิ่งที่ดีอยู่ในตัวอยู่แล้ว ใครทำคนนั้นก็ได้
เราไม่ควรจะทำดีเพียงเพราะว่าจะมีคนชื่นชมสรรเสริญ หรือเพียงเพราะว่าทำแล้วเขาจะเห็นความดีของเรา หรือทำแล้วเขาจะสำนึกในบุญคุณของเรา ถ้าเราทำดีโดยมีเงื่อนไข มันก็ไม่ใช่การทำดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ถ้าเราทำดีโดยที่ไม่สนว่าคนอื่นเขาจะว่าอย่างไร หรือไม่สนแม้กระทั่งว่าคนที่เราทำเขาจะมีกิริยาหรือพฤติกรรมอย่างไร
ตราบใดสิ่งที่เราทำมันเป็นความดี แล้วทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็ทำไปเถอะ แล้วอย่าทำให้พฤติกรรมของเขา มาเป็นเครื่องกีดขวางการทำดีของเรา พูดง่ายๆ คือว่า เขาทำอะไรก็เป็นเรื่องของเขา ส่วนเราไม่สน เรายังทำดีต่อไปเรื่อยๆ
21/11/2023 • 27 minutes 22 seconds 25660919pm--รักษาใจให้อยู่บนทางสายกลาง
19 ก.ย. 66 - รักษาใจให้อยู่บนทางสายกลาง : ที่ใจเป็นกลางได้เพราะอะไร เพราะว่ามีสติ สติจึงเป็นเหมือนกับยามที่รักษาใจไม่ให้ศัตรู หรืออารมณ์อกุศล และความทุกข์เข้ามาครอบงำทำร้ายจิตใจเราได้ ถ้าไม่ไปโรมรันพันตู ผลักไสอารมณ์พวกนี้ มันก็ไม่มีอำนาจเหนือใจเรา
ฉะนั้น การวางใจเป็นกลางต่ออารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ภายนอก คือรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัส หรืออารมณ์ภายในที่เรียกว่าธรรมารมณ์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นมาก ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อเรามีสติ มีความรู้สึกตัว
สติ ความรู้สึกตัวทำให้การรักษาใจให้เป็นกลางต่อสิ่งต่างๆ รวมทั้งให้อยู่ตรงกลางๆ ระหว่างนอกกับใน มันถึงเป็นไปได้ และช่วยทำให้ใจอยู่บนทางสายกลางได้ ไม่เผลอ แล้วก็ไม่เพ่ง ไม่ไหลไปตามกิเลส แล้วก็ไม่ไปต่อสู้ผลักไสกิเลส เป็นเรื่องเดียวกันหมดเลยนะ มันเชื่อมโยงกัน โดยมีสติ ความรู้สึกตัวเป็นตัวสำคัญ
เพราะฉะนั้น การเจริญสติจึงเป็นสิ่งสำคัญมากนะสำหรับการที่จะช่วยทำให้ใจเราอยู่บนทางสายกลาง ถ้าใจคนเราอยู่บนทางสายกลางแล้ว การมีชีวิตที่ดำเนินบนทางสายกลางก็เกิดขึ้นได้ง่าย และก็เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน เพราะฉะนั้นการเจริญสติจึงเป็นหัวใจสำคัญของการด
20/11/2023 • 25 minutes 18 seconds 25660918pm--ขัดใจให้ใสสะอาด
19 ก.ย. 66 - ขัดใจให้ใสสะอาด : ขัดใจมันมี 2 ความหมายนะ ขัดใจที่เรามักจะได้ยินก็คือ ขัดใจแล้วมันก็เกิดความขุ่นมัว เกิดความหงุดหงิด อย่างแบบนี้เป็นทุกข์ เป็นโทษ แต่มันสามารถจะเอามาขัดใจเราให้ใสสะอาดได้ อย่างหลวงพ่อพุธเป็นตัวอย่าง เจอเด็กพูดจาหยาบคายแบบนั้น ในช่วงหนึ่งมันก็ขัดใจ เป็นสิ่งขัดใจท่าน ทำให้ท่านขุ่นมัว แต่ท่านก็เอามาใช้ขัดใจให้ใสสะอาด ด้วยการเอามาเป็นเครื่องฝึกใจ เตือนใจ ให้เห็นว่าเรายังมีสิ่งที่ต้องจัดการอยู่
พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ สิ่งที่ขัดใจเราให้ขุ่นเคืองมันเป็นตัวกระตุ้นให้เราเห็นกิเลสที่บางครั้งก็ซุกซ่อนอยู่ การที่กิเลสผุดขึ้นมา เช่น ความโกรธ ความเกลียด มันก็มีประโยชน์เหมือนกันนะ ถ้าเรามองว่ามันคือการบ้านที่จะใช้ในการจัดการ เราจะไม่สามารถขัดใจให้สะอาดได้ ถ้าเราไม่รู้ว่าใจมันหม่นหมอง ใจมันสกปรก
บางคนไปคิดว่าใจของเราสะอาดผ่องแผ้ว ทั้งๆ ที่กิเลสก็เคลือบหนาเลย แต่พอเจอเหตุการณ์บางอย่างกระทบแล้วทำให้กิเลสมันชูคอ มันปรากฏตัวขึ้นมา ข้อดีก็คือเราได้รู้ว่าเรายังมีการบ้านที่ต้องทำ กิเลสมันก็ฉลาดนะ บางทีมันก็ซุกซ่อนได้อย่างแนบเนียนมาก จนกระทั่งคนบางคนคิดว่าตัวเองปฏิบัติด
19/11/2023 • 25 minutes 30 seconds 25660917pm--อย่าหลงเชื่อลูกไม้ของกิเลส
17 ก.ย. 66 - อย่าหลงเชื่อลูกไม้ของกิเลส : การที่เราเห็นความไม่ดี หรือกิเลสในใจ ก็เป็นเรื่องดีนะ แต่ถ้าไปยึดว่าเป็นเรา เป็นของเรา จนเกิดความเข้าใจว่าเราเลว เราแย่ แสดงว่ายังดูไม่ถูก ยังมองไม่เป็น แต่ที่แย่คือมองไม่เห็นเลยนะ เห็นแต่ความดี เห็นแต่ความประเสริฐของเรา ไม่ใช่เห็นแค่ความดีเฉย ๆ แต่เห็นว่าเป็นเราด้วย ก็เลยเกิดการพอกพูนอัตตาหนาแน่นมากขึ้น เวลาทำอะไรผิดพลาด เวลาทำอะไรด้วยความเห็นแก่ตัวก็มีข้ออ้าง กิเลสมันสรรหาเหตุผลข้ออ้างให้เราเชื่อว่า เราดี มันเป็นกลไกปกป้องอัตตา เป็นกลไกปกป้องกิเลสแบบหนึ่งที่เราต้องระมัดระวัง
เพราะฉะนั้นถ้าหากว่ามองตนจริง ๆ มันก็จะไม่ใช่ว่าไปหลงใหลหลงปลื้มในตัวเอง แต่จะมีท่าทีของการวิจารณ์ซึ่งช่วยทำให้เราได้รู้เท่าทันกิเลสมากขึ้น ยิ่งเห็นความโกรธ ยิ่งเห็นความโลภก็ยิ่งดี ทำให้รู้ว่าจะต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างไร
อย่างเช่นที่หลวงพ่อเทียนตอนที่ท่านเห็นความโกรธที่เกิดจากการทักท้วงของภรรยา มันทำให้ท่านเห็นเลยนะว่า ที่เราทำบุญ รักษาศีล มันยังไม่พอ เพราะทำแล้วยังมีความโกรธอยู่ อย่างนี้ต้องไปภาวนาให้หนัก แล้วก็ทำให้ท่านถึงกับเลิกทำการค้าขายเลย สะสางงานการเพื่อ
18/11/2023 • 28 minutes 20 seconds 25660916pm--อย่าเอาทุกข์มาทำร้ายใจ
16 ก.ย. 66 - อย่าเอาทุกข์มาทำร้ายใจ : อารมณ์อกุศลนะ มันเกิดขึ้นจากการกระทบ แต่ไม่ใช่ว่ามันจะทำร้ายจิตใจเราได้ทันที ถ้าเรามีสติ ก็แค่เห็นมัน มันก็คงอยู่ตรงนั้นแหละ แต่เป็นเพราะเราเข้าไปจับ ไปฉวย ไปยึดมัน หรือที่หลวงพ่อคำเขียนพูดว่า เป็นผู้เป็น มันจึงเกิดความทุกข์ เรามักจะเผลอไปจับไปฉวยอารมณ์อกุศล รวมทั้งความทรงจำที่เจ็บปวดนั้นมาทำร้ายจิตใจของเราอยู่เสมอ
แต่ถ้าเรามีสติ มีความรู้สึกตัว เราจะไม่ทำอย่างนั้นนะ แม้มันจะมีความคิดหรือความทรงจำบางอย่างประทับอยู่ในใจเรา แต่มันไม่อาจทำร้ายจิตใจเราได้ถ้ามีสติ อารมณ์อกุศลแม้เกิดขึ้นในใจก็ไม่ใช่ว่ามันจะทำร้ายจิตใจเราได้ทันทีนะ ถ้าหากว่าเราเห็นมัน หรือวางระยะห่างจากมัน
ก็เหมือนกับที่มีคนเปรียบว่า เรือมันไม่จมนะ เพราะน้ำที่อยู่รอบๆ เรือ มันจะจมก็ต่อเมื่อน้ำเข้าไปในเรือ ตราบใดที่ความคิดและอารมณ์ มันยังอยู่รอบนอกของใจ มันก็ไม่ทำให้ใจเป็นทุกข์นะ แต่ถ้าเกิดว่าปล่อยให้มันเข้ามาในใจ มาทำร้ายจิตใจ นั่นแหละจึงจะเกิดทุกข์ และที่มันเข้ามาทำร้ายจิตใจได้เพราะไม่มีสติ สติเหมือนกับเป็นยามที่รักษาใจให้ปลอดภัย ไม่ให้อารมณ์อกุศลเข้ามาทำร้ายจิตใจ แต่ถ้าไม่มี
14/11/2023 • 27 minutes 16 seconds 25660914pm--โลกเป็นอย่างไรอยู่ที่ใจเรา
14 ก.ย. 66 - โลกเป็นอย่างไรอยู่ที่ใจเรา : เราเลือกมองอะไรหรือรับรู้อะไร มันก็มีผลต่อใจของเรา ตื่นเช้าขึ้นมาถ้าหากว่าเอาใจมาอยู่กับลมหายใจหรือว่าสวดมนต์ จิตใจเราก็พลอยเป็นกุศล แต่ตื่นเช้าขึ้นมาเปิดดูโทรศัพท์มือถือ เปิดดูโซเชียลมีเดีย หรือว่าเปิดดูเรื่องราวที่มันแย่ๆ ในทางการเมือง จิตใจก็ห่อเหี่ยว ฉะนั้นการรับรู้มันก็มีผลต่อใจของเรา เราก็ต้องรู้จักรับรู้หรือเลือกรับรู้ เพื่อให้สิ่งที่รับรู้ที่เป็นสิ่งดีงามมันกล่อมเกลาใจเราให้ดีงามไปด้วย
แต่ถ้าเราฝึกสติมีความรู้สึกตัวอยู่เสมอ ถ้าจิตใจเราปลอดโปร่ง ผ่องใส เบิกบาน หรือมีความรู้ตัว แม้จะรับรู้สิ่งที่แย่ๆ แม้จะได้ยินคนตำหนิ ใจเราก็ไม่จำเป็นต้องทุกข์ก็ได้ มันไม่ใช่ว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร ใจเราก็จะต้องเป็นอย่างนั้น
บางทีโลกภายนอกมันแย่ หรือว่าเจอคำตำหนิคำต่อว่า แต่ถ้าใจเรามีสติ มันก็ไม่ได้แปลว่าใจเราก็จะหม่นหมองตามไปด้วย คนพูดไม่ดีกับเรา แต่ใจเราไม่ไปใส่ใจด้วย หรือมองเขาด้วยความเข้าอกเข้าใจ มันก็ไม่มีความโกรธความเกลียด อันนี้ก็อยู่ที่ใจเราว่าเราฝึกดีหรือเปล่า ถ้าใจเราฝึกดี ไม่ว่าสิ่งรอบตัวเราจะเป็นอย่างไร แม้จะเป็นลบ แต่ใจเราก็เป็นกล
13/11/2023 • 31 minutes 30 seconds 25660912pm--เจอสิ่งเร้า ใจไม่เอาด้วย
12 ก.ย. 66 - เจอสิ่งเร้า ใจไม่เอาด้วย : ความคิดซึ่งอาจจะเคยทำให้เราทุกข์ เพราะคิดลบคิดร้ายหรือชอบนึกถึงเรื่องเก่าๆ ทำให้เจ็บปวด บางคนบอกว่าคิดเมื่อไหร่ก็ทุกเมื่อนั้น มันไม่ใช่นะ คิดแล้วไม่ทุกข์ก็ได้ ถ้าหากว่ามีสติเห็นมัน มีความโกรธเกิดขึ้นแล้วไม่ทุกข์ก็ได้ ถ้ามีสติเห็นมัน เห็นความโกรธ รู้ทันมัน นี่คือสิ่งที่เราจะพบได้จากการเจริญสติ นั่นคือการตระหนักว่า ไม่ว่าจะมีสิ่งกระทบหรือสิ่งเร้าจากภายนอกหรือภายใน แต่ใจเราไม่ทุกข์ก็ได้ เพราะเรามีสติเป็นเครื่องรักษาใจ
เราไม่ได้ปฏิบัติเพื่อควบคุมความคิด แต่เราปฏิบัติเพื่อไม่ให้ความคิดมาควบคุมเรา ถ้าเราปฏิบัติเพื่อควบคุมความคิด ก็จะพยายามบังคับจิตไม่ให้คิด ฝึกจิตให้มั่นนิ่งเอาไว้ แต่ถ้าเราปฏิบัติเพื่อไม่ให้ความคิดมาควบคุมเรา ก็หมายความว่ามีความคิดเกิดขึ้นก็ได้ แต่มันทำอะไรเราไม่ได้ทำอะไรใจไม่ได้ เพราะใจมีสติเป็นเครื่องป้องกัน หน้าที่ของสติที่จะป้องกันใจไม่ให้ทุกข์ก็คือการรู้ทันเห็นมันได้ไวๆ จนกระทั่งไม่ปล่อยให้มันเข้ามาบงการจิตใจ
12/11/2023 • 26 minutes 12 seconds 25660911pm--ถ้ารักตนก็อย่าเบียดเบียนตน
11 ก.ย. 66 - ถ้ารักตนก็อย่าเบียดเบียนตน : 'ประโยชน์ตน’ กับ ‘ความเห็นแก่ตัว’ มันต่างกันนะ ความเห็นแก่ตัวส่วนใหญ่มันจะคำนึงถึงความถูกใจ ส่วนประโยชน์ตนจะเป็นไปเพื่อความถูกต้อง
‘ถูกต้อง’ กับ ‘ถูกใจ’ มันต่างกันนะ ส่วนใหญ่เราสนใจหรือคำนึงแต่ความถูกใจ ที่อยากร่ำอยากรวย อยากมีโชคมีลาภ หรือว่าอยากกินของอร่อยโดยที่ไม่คำนึงถึงสุขภาพ หรือว่าติดเกม ติดการพนัน ติดเหล้าบุหรี่ พวกนี้มันล้วนแล้วแต่เป็นเพราะมุ่งแต่ความถูกใจ ถ้ามุ่งถึงความถูกต้อง สิ่งที่ว่ามาเราก็จะไม่สนใจ เพราะอะไร เพราะมันไม่ถูกต้อง เพราะมันเป็นเป็นโทษต่อสุขภาพ เพราะมันเป็นอันตรายต่อจิตใจ
ทำอะไรที่คำนึงถึงความถูกใจ ส่วนใหญ่มันก็เป็นไปเพื่อส่งเสริมกิเลสซึ่งทำให้เกิดความเห็นแก่ตัว หนักขึ้น แต่ถ้าทำอะไรเพื่อความถูกต้อง มันก็จะไปก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตน ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกายสุขภาพใจ ไม่ว่าจะเป็นการมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ไม่ฝืดเคือง ไม่ยากจน การทำอะไรเพื่อความถูกใจต่างหากที่มันทำลายประโยชน์ตนหรือเป็นการเบียดเบียนตน ซึ่งคนส่วนใหญ่ ไม่เข้าใจมองไม่เห็น
11/11/2023 • 29 minutes 46 seconds 25660910pm--นึกถึงธรรมแม้ในยามสุข
10 ก.ย. 66 - นึกถึงธรรมแม้ในยามสุข : ในยามนี้ ธรรมะมันจะช่วยเราได้ ให้อยู่กับความทุกข์ ด้วยใจที่ไม่ทุกข์ โดยเฉพาะถ้าเรายังมีสติ มีสติก็ทำให้ความทุกข์เกิดขึ้นกับกาย แต่ว่ามันจะช่วยรักษาใจ ไม่ให้ทุกข์ ไม่ให้ป่วยไปด้วย มันช่วยให้เราสามารถจะรับมือกับทุกข์เวทนา ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นได้
และจะทำอย่างนั้นได้ มันต้องมาฝึก ต้องมาสะสม ต้องมาสร้างกันตั้งแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ คือตั้งแต่ตอนที่ยังมีสุขภาพดี ตอนที่ยังมีกำลังวังชา ตอนที่บ้านเมืองยังปกติสุขอยู่ จึงบอกว่า เวลามันไม่ใช่แค่ในยามทุกข์เท่านั้นที่เราควรจะนึกถึงธรรม ในยามสุข หรือแม้กระทั่งในยามที่ชีวิตอยู่ในช่วงขาขึ้น ก็ต้องนึกถึงธรรม
และนึกถึงอย่างเดียวไม่พอ ต้องปฏิบัติ อย่าไปเพลินกับความสำเร็จ หรือความปกติสุข จนกระทั่งลืม ตระหนักถึงความจริงว่า ไอ้สิ่งที่มีอยู่ มันเป็นของชั่วคราวเท่านั้นแหละ ดังนั้นหากเรานึกถึงธรรมะเอาไว้ มันจะทำให้เราเกิดความขวนขวาย เกิดความกระตือรือร้น และทำให้เราเร่งปฏิบัติธรรม ทำความเพียร ซึ่งมันจะให้ผลที่คุ้มค่ามาก วันนี้เรารักษาธรรมนะ ต่อไปธรรมก็จะรักษาเรา อันนี้คือสัจจธรรมความจริงอย่างหนึ่งที่ไม่ควรม
10/11/2023 • 26 minutes 42 seconds 25660909pm--เข้าถึงสุขที่ประเสริฐกว่ากามสุข
9 ก.ย. 66 - เข้าถึงสุขที่ประเสริฐกว่ากามสุข : คนที่ขยันทำงาน มีความสุขกับการทำงาน เขาก็จะไม่ให้ความสำคัญกับเงินทองมาก การที่จะไปคอรัปชั่นเพื่อที่จะได้มีเงินไปซื้ออะไรมาปรนเปรอตนก็น้อย เพราะเขามีความสุขจากการทำงานอยู่แล้ว หรือความสุขจากการที่ได้ทำประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่น มันก็ทำให้คลายความยึดติดในสิ่งเสพ ยิ่งความสุขจากสมาธิภาวนาหรือความสงบในใจนี้ มันก็ยิ่งทำให้หันหลังให้กับความสุขจากสิ่งเสพได้เลย
อย่างครูบาอาจารย์หรือว่าพระที่ท่านพบกับความสงบในจิตใจนี้ จากการทำกรรมฐาน นั้นเพียงแค่บริขาร 8 ท่านก็อยู่ได้อย่างมีความสุขนะ นั้นคนบางคนสงสัยทำไมพระอยู่ได้ยังไงนะ หลวงพ่อหลวงตาท่านไม่ได้มีอะไรเลยนะ แต่ทำไมท่านอยู่ได้ เพราะว่าท่านมีความสุขจากสมาธิภาวนา ใจก็เลยไม่ตกเป็นทาสของวัตถุสิ่งเสพ จิตใจมันปล่อยมันวางในวัตถุในทรัพย์เอง เพราะว่าได้พบสิ่งที่ประเสริฐกว่า
ฉะนั้นถ้าเราพยายามที่จะเข้าถึงความสุขที่ประณีต เริ่มจากความสุขจากการทำสิ่งที่ดี ใฝ่รู้ใฝ่ธรรม ขยันทำงาน มีความสุขกับการทำงาน มีฉันทะในการทำงาน อันนี้ก็ถือว่าเรามีของดีที่จะช่วยทำให้ใจเราเป็นอิสระจากวัตถุสิ่งเสพได้มากขึ้น
ยิ่งถ้า
09/11/2023 • 28 minutes 41 seconds 25660908pm--ฝึกจิตให้เป็นมิตรที่ประเสริฐ
8 ก.ย. 66 - ฝึกจิตให้เป็นมิตรที่ประเสริฐ : มันสุดแท้แต่ว่าเราจะฝึกจิตแบบไหน ถ้าเราฝึกไปในทางที่ดี จิตก็จะเป็นมิตรที่ประเสริฐที่สุดของเรา ถึงเวลาเกิดอุปสรรคเกิดความวิกฤตอะไรต่างๆ สติก็ดี ความรู้สึกตัวก็ดี เมตตาก็ดี มันก็จะเข้ามาช่วยรักษานะให้ผ่านพ้นจากวิกฤตได้
ฉะนั้นมันอยู่ที่การเลือกของเรา เราจะเลือกฝึกจิตให้เป็นมิตรที่ประเสริฐที่สุดของเรา หรือจะฝึกจิตให้เป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของเราก็ได้ ฉะนั้นการที่เราฝึกสติ ถ้าเราฝึกสติบ่อยๆ สร้างความรู้สึกตัวบ่อยๆ แน่นอนเลยว่ามันจะช่วยทำให้จิตของเราเป็นจิตที่ประเสริฐ เป็นจิตที่พร้อมที่จะพาเราผ่านพ้นอุปสรรค ผ่านพ้นวิกฤตต่างๆ ไปได้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม
การสวดมนต์บ่อยๆ การเจริญสติบ่อยๆ การทำความรู้สึกตัวอยู่เรื่อยๆ พวกนี้ไม่มีคำว่าสูญเปล่า ไม่มีคำว่าไร้ประโยชน์ มันจะมีประโยชน์เกื้อกูลเราไม่วันนี้ก็วันหน้า เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าเราพยายามทำสิ่งนี้ซ้ำๆ กัน ทำบ่อยๆ ทำบ่อยๆ เราจะได้ที่พึ่งที่หาได้ยาก
08/11/2023 • 28 minutes 10 seconds 25660907pm--หาประโยชน์จากทุกข์ให้เจอ
7 ก.ย. 66 - หาประโยชน์จากทุกข์ให้เจอ : หลวงพ่อคำเขียนจึงบอกว่า “เห็นทุกข์ก็พ้นทุกข์” ซึ่งท่านเขียนไว้ในช่วงท้ายๆของชีวิต ทีแรกก็เห็นทุกข์ด้วยสติก่อน คือเห็นอารมณ์ที่มันทำให้ทุกข์ และยกจิตหรือพาจิตออกจากอารมณ์เหล่านั้น อันนี้เรียกว่าไม่เข้าไปเป็นผู้ทุกข์ เพราะเห็นทุกข์ เห็นอารมณ์ที่ทำให้ทุกข์ แต่ต่อไปก็เห็นว่าทุกอย่างเป็นทุกข์ทั้งนั้นแหล่ะ อันนี้เป็นสัจธรรมที่ลึกซึ้งมาก เมื่อเห็นทุกอย่างเป็นตัวทุกข์ เมื่อเห็นว่าทุกอย่างล้วนแต่ไม่เที่ยง เป็นเหมือนของหนักที่แบกเมื่อไหร่ก็หนักเมื่อนั้น เป็นเหมือนของร้อนที่จับเมื่อไหร่ก็ลวกมือเมื่อนั้น เป็นเหมือนของแหลมที่ถูกเมื่อไหร่ก็เจ็บเมื่อนั้น
ฉะนั้นอย่างเดียวที่ควรทำคือ วางมันลงซะหรือไม่เกี่ยวข้องกับมันเกี่ยวข้องแบบไม่ยึด เรียกว่าไม่ยึดมั่นถือมั่น พวกนี้ทำให้พ้นทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง ลองพิจารณาดูดีๆความทุกข์แม้ว่าเราจะยังไม่เห็นว่าทุกข์คือสัจธรรม แต่อย่างน้อยไม่ว่ามันจะเป็นความเจ็บความป่วย ไม่ว่าจะเป็นความสูญเสียพลัดพราก มันก็ล้วนแล้วแต่มีประโยชน์รู้จัก ถ้าเรารู้จักหาประโยชน์จากมัน
08/11/2023 • 26 minutes 55 seconds 25660906pm--รักษาใจในยามป่วย
6 ก.ย. 66 - รักษาใจในยามป่วย : พอเกิดทางความปวดทางกาย แล้วจิตมันโวยวายตีโพยตีพาย มันเกิดอาการต่อสู้ผลักไส ไม่ยอมรับ ตรงนี้คือตัวเพิ่มทุกข์ เป็นตัวซ้ำเติมความทุกข์ให้กับจิต แต่ถ้าเกิดว่าแม้เราจะไม่มีสติไวพอที่จะเห็นเวทนา ไปดูเวทนาทีไร มันเข้าไปเป็นผู้ปวดทุกที แต่ว่าสามารถที่จะเอาสติมาดูจิตได้ ดูจิตเห็นอารมณ์ที่เกิดขึ้น เห็นอาการที่ไม่ปกติของจิต ที่มันโวยวายตีโพยตีพาย เห็นอาการของจิตที่มันเกิดความหงุดหงิด
อาการพวกนี้พอมันถูกเห็นด้วยสติ มันก็จะสงบ มันก็จะกลับมาเป็นปกติขึ้นมา ที่เคยปฏิเสธไม่ยอมรับ ที่เคยผลักไส มันก็จะสงบ มันก็จะนิ่ง มันก็จะเป็นการทำให้ความทุกข์ของใจมันลดลง ก็คือมีสติมาเห็นจิต มีสติมาดูจิต แม้ว่าสติยังไม่ไวพอ แข็งแรงพอที่จะมาดูเวทนา
เรื่องพวกนี้พูดไปก็อาจจะเข้าใจยาก แต่ถ้าเราได้ลองทำดู ลองฝึกดู เวลามดกัดยุงกัด เวลาแดดเผา เราก็มาฝึกดูเวทนา หรือไม่ก็ฝึกดูจิต ดูอาการของจิตที่มันโวยวายตีโพยตีพาย ผลักไส ไม่ยอมรับ ไม่ไหวแล้วๆ มีสติเห็นจิตก่อน พอมีสติเห็นจิตได้ไว ต่อไปมันก็จะมีสติดูเวทนา แต่ก่อนก็เห็น ไม่เข้าไปเป็นผู้โกรธ ผู้หงุดหงิด ต่อไปมันก็จะเห็นความปวดแต่ไม่มีผู้ป
05/11/2023 • 30 minutes 47 seconds 25660905pm--เมินให้เป็นก็เย็นได้
5 ก.ย. 66 - เมินให้เป็นก็เย็นได้ : สติ ถือว่าเป็นเครื่องคุ้มกันจิต ไม่ให้ความคิดและอารมณ์เหล่านี้มาครอบงำ เราห้ามมันไม่ได้ ห้ามมันไม่ให้เกิดขึ้นไม่ได้ แต่แม้มันเกิดขึ้นแล้วมันทำอะไรจิตใจเราไม่ได้ เพราะเรามีสติ มีความรู้สึกตัว หรือเรามีความรู้ตัว
ที่เรามาฝึกสติกันก็อย่างนี้แหละ เพื่อที่เราสามารถที่จะเมิน หรือว่าวางความคิดหรือและอารมณ์ต่างๆ ที่เป็นอกุศล รวมทั้งเราสามารถที่จะเมินความพร่องความไม่สมบูรณ์ รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา มันเกิดขึ้นแต่ถ้าเราไปใส่ใจกับมันมาก เราก็ยิ่งทุกข์ เราไม่ใช่แค่ทุกข์กายแต่ทุกข์ใจด้วย
แล้วพอมีความเจ็บป่วยก็เกิดทุกข์ก็เวทนาขึ้นมา ทุกขเวทนานี้แหละคือสิ่งที่เราสามารถที่จะเมินมันได้เหมือนกัน อย่าไปจดจ่อใส่ใจกับมันมาก แต่ธรรมดาพอเกิดทุกขเวทนาความเจ็บความปวดเกิดขึ้น ยิ่งไม่ชอบยิ่งจดจ่อ ยิ่งไม่ชอบยิ่งจดจ่อ ความคิดลบคิดร้ายยิ่งไม่ชอบยิ่งผุดยิ่งโผล่
แล้วถ้าเรายิ่งปฏิบัติต่อมันไม่ถูกต้อง เช่นไปกดข่มมันเอาไว้ มันก็ยิ่งอาละวาดหนัก ความเจ็บความปวดที่เราพยายามผลักไสมัน มันยิ่งรบกวนรังควานจิตใจ แต่ถ้าเรารู้จักรู้ทันมัน เราก็สามารถที่จะเมินได
04/11/2023 • 27 minutes 21 seconds 25660904pm--เจอทุกข์แต่ใจสงบ
4 ก.ย. 66 - เจอทุกข์แต่ใจสงบ : ไม่ใช่แค่ฝึกจิตเพื่อจะให้พบกับความสงบและความสุข มันไม่พอ มันต้องฝึกเพื่อสามารถจะอยู่ความไม่สงบและความทุกข์ได้ด้วยใจที่ไม่ทุกข์ เพราะชีวิตของเรามันหนีเรื่องพวกนี้ไม่พ้น ความไม่สงบในจิต ความเจ็บปวดทางกาย ความสูญเสียความพลัดพราก พวกนี้เรียกว่าทุกข์หรือว่าอนิฏฐารมณ์ แต่ว่าเกิดขึ้นแล้วใจไม่ทุกข์ก็ได้ เพราะสามารถจะอยู่กับมันได้
ถ้าหากเราฝึกมาถึงตรงนี้ได้ ก็พอจะมีหลักประกันว่า เมื่อเจอความผันผวนปรวนแปรในชีวิตแล้ว เราก็จะไม่ทุกข์ไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่ากับกาย หรือกับความคิดและอารมณ์ภายใน ไม่ใช่ว่าเราคิดแต่จะหนีทุกข์ หวังแต่จะเจอความสงบอย่างเดียว ซึ่งมันไม่พอ เราต้องเจอความไม่สงบ เสียงดัง เจอคนรอบข้างทำตัวไม่น่ารัก เจอความเจ็บความป่วย เจอความสูญเสีย แล้วอยู่กับมันได้ด้วยใจที่ไม่ทุกข์ อันนี้จะเป็นการฝึกจิตขั้นที่สูงขึ้นไปอีก
ตราบใดที่เรายังฝึกจิตเพียงแค่ว่าหวังความสงบและความสุข ยังถือว่าไม่ดีพอ ไม่มีหลักประกันเพียงพอ เพราะความสงบหรือความสุขที่แม้จะบรรลุแต่มันก็ไม่เที่ยง และถ้ามันกลายเป็นความไม่สงบ กลายเป็นความทุกข์ ถ้าเราไม่เรียนรู้ที่จะอยู่กับม
03/11/2023 • 26 minutes 36 seconds 25660903pm--อะไรที่เกิดขึ้นล้วนดีทั้งนั้น
3 ก.ย. 66 - อะไรที่เกิดขึ้นล้วนดีทั้งนั้น : ถ้าเรามองว่า เรามีหน้าที่ฝึกตนให้สมกับเป็นชาวพุทธ การที่เราจะมองอะไรว่า อะไรๆ ก็ตามที่เกิดขึ้นกับเรา ดีทั้งนั้น ก็เป็นเรื่องง่าย คนที่มองว่าเรามีหน้าที่ฝึกตน ฝึกจากทุกอย่าง ทุกเหตุการณ์ ทุกประสบการณ์ที่เกิดขึ้น คนที่คิดแบบนี้จะมีข้อได้เปรียบก็คือว่า สามารถที่จะเรียนรู้จากทุกสิ่งได้ แม้จะเป็นสิ่งที่มันไม่ถูกใจเรา สามารถที่จะมองว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเราดีทั้งนั้น คำต่อว่าด่าทอ รถติด หรือว่า ความเจ็บ ความป่วย ความแก่ชรา พวกนี้มันดีทั้งนั้น มันมาสอนธรรมให้กับเรา แม้ว่ามันจะทำให้เกิดทุกขเวทนา แต่มันก็เป็นแบบฝึกหัดให้กับใจเรา เพื่อยกจิตให้อยู่เหนือทุกขเวทนาก็ได้
คนเราถ้าคิดว่าชีวิตนี้มันเป็นไปไม่ใช่เพื่อหาความสบาย แต่เพื่อการฝึกฝนตน มันต่างกันมาก เพราะการเกิดมามีชีวิตเพื่อหาความสบายมันก็จะทนไม่ได้กับสิ่งเหล่านี้แหละ แต่คนเราถ้าหากว่าชีวิตนี้เกิดมาเพื่อฝึกฝนตน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเรา ย่อมดีทั้งนั้นแม้มันจะเป็นอนิฏฐารมณ์ก็ตาม
02/11/2023 • 25 minutes 5 seconds 25660902pm--อย่าเอาถูกเอาผิดจนลืมตัว
2 ก.ย. 66 - อย่าเอาถูกเอาผิดจนลืมตัว : พอยึดมั่นในความถูกต้องใครที่ไม่ถูกก็กลายเป็นคนละฝ่ายคนละพวก เกิดความโกรธ เกิดความเกลียดชังกัน ทั้งๆ ที่ก็เป็นสามีภรรยา เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูก หรือเป็นเพื่อนก็สามารถจะเกลียดชังกันได้ เพราะว่าไปยึดมั่นถือมั่นในความถูกต้องจนกระทั่งเห็นอีกฝ่ายหนึ่งเป็นศัตรูไป ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่าคนเราเวลามีการต่อว่ากัน เวลามีการโจมตีกัน อีกฝ่ายหนึ่งย่อมเกิดความรู้สึกเจ็บปวด แล้วก็ต้องตอบโต้ฉันปวดมากเท่าไหร่ ฉันต้องทำให้เธอปวดมากกว่านั้น อันนี้เป็นเพราะเกิดความลืมตัว พอลืมตัวแล้ว มันก็ลืมหมดว่าคนนี้เป็นเพื่อน คนนี้เป็นสามี คนนี้เป็นภรรยา คนนี้เป็นพ่อ คนนี้เป็นลูก มันลืมหมด
ที่ลืมตัวก็เพราะว่า สิ่งที่ตัวเองยึดมั่นเอาไว้ คือยึดว่าเป็นตัวกูของกูมันถูกกระทบ พอตัวกูถูกกระทบ อัตตาก็เข้ามาครองใจ แล้วเมื่ออัตตาเข้ามาครองใจ ก็ลืมหมดว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรควรอะไรไม่ควร ก็กลายเป็นว่าพอยึดมั่นในความถูกต้อง แทนที่จะเกิดความถูกต้อง มันจะเกิดความไม่ถูกต้องขึ้นมาในที่สุด
เพราะฉะนั้น ต้องตระหนักว่า การที่คนเราดำเนินชีวิตบนความถูกต้อง ดี แต่ว่าต้องระมัดระวังในก
01/11/2023 • 25 minutes 9 seconds 25660901pm--เรียนรู้ทุกครั้งที่เจอทุกข์
1 ก.ย. 66 - เรียนรู้ทุกครั้งที่เจอทุกข์ : ถ้าเกิดว่าเราได้คิดได้ตระหนักว่า ทำยังไงเมื่อเจอความทุกข์แล้วก็อย่าทุกข์ฟรี เมื่อเจอความกลัวก็อย่ากลัวฟรีๆ เมื่อเจอความโศกเศร้าก็อย่าโศกเศร้าฟรีๆ ให้เรียนรู้ว่ามันเกิดเพราะอะไร แล้วตรงนั้นแหละนะที่มันจะทำให้เกิดปัญญาขึ้นมา
อย่างที่บอก “เจอทุกข์ จึงจะเห็นธรรม” แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เจอทุกข์แล้วจะเห็นธรรมเสมอไป ส่วนน้อยที่เจอทุกข์แล้วเห็นธรรม ส่วนใหญ่เจอทุกข์แล้วก็คร่ำครวญ หลง เพราะไม่คิดที่จะใคร่ครวญ ทบทวนชีวิตจิตใจของตัว อันนี้ต่างหากคือสิ่งที่น่ากลัว
ถ้าเกิดว่าเราตระหนักเช่นนี้นี่ เมื่อไหร่ก็ตามที่เจอความทุกข์ ก็ให้กลับมาตั้งสติ แล้วก็มาใคร่ครวญว่าเราได้เรียนรู้อะไรบ้าง เพราะว่าความเจ็บปวดทุกครั้ง หรือความทุกข์แต่ละครั้งๆ มันสามารถจะให้บทเรียนแก่เราได้ ถ้าเรารู้ว่ามันทุกข์เพราะอะไร นี้คือเหตุผลที่พระพุทธเจ้าสอนเรา “เมื่อเจอทุกข์ ก็ให้รู้ทุกข์ ให้เห็นทุกข์ เพราะถ้ารู้ทุกข์ เห็นทุกข์ มันก็จะเห็นสมุทัย แล้วถ้าเห็นสมุทัยหรือเหตุแห่งทุกข์แล้ว หนทางแห่งการพ้นทุกข์หรือดับทุกข์ก็เกิดขึ้นได้” นี่คือการเรียนรู้ที่สำคัญ
สรุปก็คือว่า อย่าไ
31/10/2023 • 27 minutes 2 seconds 25660831pm--ฝึกใจให้พร้อมรับความเจ็บป่วย
31 ส.ค. 66 - ฝึกใจให้พร้อมรับความเจ็บป่วย : เราก็จะสามารถที่จะเรียนรู้จากความเจ็บป่วยนี้ได้ แล้วก็จะมีความพร้อมมากขึ้นในการที่จะรับมือกับความเจ็บป่วยในวันหน้าซึ่งก็รักษาไม่หาย คนเราแม้ว่าจะเจอความเจ็บความป่วยมากมาย อาจจะรักษาหายได้ แต่สุดท้ายมันจะมีความเจ็บความป่วยชนิดหนึ่งที่รักษาไม่หาย แล้วก็ยืดเยื้อเรื้อรัง และสุดท้ายมันก็ทำให้เราหมดลม
ฉะนั้น ต้องเตรียมตัวรับมือกับพวกนี้เอาไว้ ด้วยการฝึกจิตใจอยู่เสมอ คาถาอาคมต่างๆ ที่เรียนมา หรือที่มาใช้ในการหาบริษัทบริวาร หรือแม้แต่อำนาจที่มีในฐานะที่เป็นเจ้าอาวาส เจ้าคุณ ก็ไม่ได้ช่วยเลย แต่ว่าธรรมะโดยเฉพาะสติ ความรู้สึกตัว สมาธิ ปัญญา มันจะช่วยเราได้คือ “ทุกข์กาย แต่ใจไม่ทุกข์” หรือว่า “มีทุกข์ แต่ไม่มีผู้ทุกข์” แล้วพวกนี้มันต้องฝึก อย่าฟังแต่ธรรมะอย่างเดียว ไม่พอ อ่านธรรมะเท่าไรมันก็ไม่ช่วย จนกว่าจะได้ฝึก
และไม่ได้ฝึกจากอะไร ก็ฝึกจากความทุกข์นี่แหละ ฝึกจากสิ่งที่ไม่ถูกใจนี่แหละ ฝึกจากอนิฏฐารมณ์นี่แหละ ต้องฝึกจากสิ่งเหล่านี้เท่านั้น ใจเราจึงจะพร้อมในการที่จะรับมือกับความเจ็บป่วยและความผันผวนปรวนแปรในวันข้างหน้าได้
30/10/2023 • 28 minutes 56 seconds 25660830pm--รู้ใจช่วยให้ชีวิตปลอดภัย
30 ส.ค. 66 - รู้ใจช่วยให้ชีวิตปลอดภัย : รู้จักเติมสุขให้ใจ มันเป็นประโยชน์ที่มีคุณค่ามาก และที่จริงก็เป็นประโยชน์แค่เสี้ยวเดียวของการ “รู้ใจ” เพราะถ้าเรารู้ใจไปเรื่อยๆ มันก็จะทำให้เราเข้าใจความจริงของใจ แล้วก็ทำให้เราสามารถจะไม่ไปยึดติดถือมั่นกับความคิดและอารมณ์ใดๆ ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นความรู้ที่สำคัญมาก ซึ่งมันช่วยเสริมความรู้ที่เรียกว่าวิชาชีวิต เพราะในตัววิชาชีวิตมันไม่ได้เกิดจากการปฏิบัติจากการสังเกตดูใจ มันจะไม่เห็นอย่างแจ่มแจ้งนะว่ามีประโยชน์อย่างไร และจะเอามาใช้กับชีวิตได้อย่างไร
แต่ถ้าเรามีความรู้ตัว แล้วก็หมั่นรู้ใจ สังเกตใจ มันก็จะมีความรู้ชนิดที่ว่าดูแลตัวให้อยู่รอด ไม่ได้อยู่รอดแบบมีชื่อมีเสียง แต่อยู่รอดปลอดภัยจากความทุกข์ที่เกิดจากความผันผวนปรวนแปรในชีวิต ความรู้อย่างนี้แหละสำคัญ ที่มันช่วยให้เรามีชีวิตที่ผาสุก มีชีวิตที่ดีงามได้ ถ้ามีความรู้แบบนี้ มันจะไม่เกิดปัญหาว่าความรู้ท่วมหัวออกตัวไม่รอด มันจะไม่มีปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้เลย
29/10/2023 • 28 minutes 15 seconds 25660823am--มองเป็นก็เห็นทางออกจากทุกข์
23 ส.ค. 66 - มองเป็นก็เห็นทางออกจากทุกข์ : อย่างที่หลวงพ่อคำเขียนสอนให้รู้ซื่อๆ ไม่ผลักไส ไม่ไหลตาม หรือแค่เห็นไม่เข้าไปเป็น มันก็ช่วยทำให้หาความทุกข์มันบรรเทาเบาบางลงได้ ไม่ใช่แค่ว่าความโกรธหายไป ความหงุดหงิดหายไปเมื่อมีสติ แต่แม้มันยังอยู่ แต่มันก็ทำอะไรจิตใจไม่ได้เพราะว่าแค่รู้ หรือเห็นมันเฉยๆ ไม่ผลักไส เมื่อไม่ผลักไสมัน มันก็ไม่สามารถมามีอำนาจครองใจเราได้
ฉะนั้นถ้าเราหมั่นมองตนอยู่เสมอ เราจะเห็นความทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ได้ชัดเจน เราจะเห็นได้ละเอียดขึ้น เราจะไม่มองคลุมๆ การมองแบบพุทธคือการมองแบบละเอียด เห็นเป็นขั้นเป็นตอน เห็นอย่างประณีต ไม่ใช่เหมารวม ไม่ใช่มองคลุมๆ ถ้ามองคลุมๆก็จะบอกว่าที่เอามือปัดกางเกงเพราะมดกัด แต่ถ้ามองละเอียดก็จะพบว่ามันไม่ใช่ สาเหตุนั้นมันอยู่ที่ใจทั้งนั้นเลย ที่เรามาปฏิบัติก็เพื่ออันนี้
ถ้าเราปฏิบัติแล้วมองไม่เห็นว่าเหตุแห่งทุกข์มันอยู่ที่ใจ การปฏิบัติของเราก็แค่ผิวเผิน ปฏิบัติแค่ตามรูปแบบ หรือว่าการทำโดยไม่ได้เข้าใจอะไร แต่ถ้าเรามองเป็น เราก็จะเห็นเลยว่าเหตุแห่งทุกข์มันอยู่ที่ใจ แล้วก็วางใจให้ดี ปฏิบัติให้ถูก มีสติ ใจก็ไม่ทุกข์
23/10/2023 • 34 minutes 53 seconds 25660822pm--หายหลงก็หมดทุกข์
22 ส.ค. 66 - หายหลงก็หมดทุกข์ : อันนี้แหละคือสิ่งที่ต่อมาหลวงพ่อได้สรุปว่า เห็นทุกข์ก็พ้นทุกข์ เห็นว่าขันธ์ทั้ง 5 เป็นตัวทุกข์ มันก็พ้นทุกข์แล้ว เมื่อเห็นว่ามันเป็นทุกข์ หรือเป็นตัวทุกข์ จิตก็ไม่มีความยึดมั่นถือมั่น ก็เรียกว่าออกจากทุกข์ได้ เรียกว่าความหลง อันได้แก่ การไม่รู้ความจริง หรืออวิชชา มันหมดไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เริ่มต้นจากการที่สร้างความรู้สึกตัวให้เกิดขึ้น เมื่อมีความรู้สึกตัว ความไม่รู้เนื้อรู้ตัวหรือความหลงขั้นพื้นฐานมันก็ตั้งอยู่ไม่ได้
เรื่องการปฏิบัติของหลวงพ่อที่ท่านแนะนำ มันไม่ใช่เป็นการปฏิบัติเพื่อให้เราใจสบาย เกิดความสงบชั่วครั้งชั่วคราว แต่ที่จริงแล้วมันสามารถจะช่วยทำให้เราออกจากทุกข์ได้ ทีแรกออกจากทุกข์ชั่วครั้งชั่วคราวเพราะว่า ปล่อยวางอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น แต่ต่อไปมันก็จะเป็นการปล่อยวางไม่ใช่เฉพาะอารมณ์และความคิดที่เกิดขึ้น แต่ปล่อยวางในสิ่งทั้งปวง ที่เรียกว่าขันธ์ 5 หรือสังขารทั้งหลาย ซึ่งนั่นแหละเป็นการออกจากทุกข์อย่างแท้จริง
08/10/2023 • 30 minutes 59 seconds 25660821pm--ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะไม่ทุกข์
21 ส.ค. 66 - ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะ "ไม่ทุกข์" : พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า สัตว์ทั้งหลายเหล่าใดอาศัยเราเป็นกัลยาณมิตร สัตว์เหล่านั้นจะพ้นจากความเกิด ความแก่ ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจได้
ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความแก่ ความป่วย ความตาย จริงๆแล้วมี แต่ไม่มีผู้แก่ ไม่มีผู้ป่วย ไม่มีผู้ตาย แล้วที่มีคือ มีความแก่ มีความป่วย มีความตาย อันนี้เรียกว่าพ้นจากความแก่ความป่วยความตาย ไม่ใช่ว่าไม่มีความแก่ความป่วยความตาย มี แต่ว่าไม่มีผู้แก่ผู้ป่วยผู้ตาย
ฉะนั้นจึงไม่มีความโศก ความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจได้ ไม่ต้องรอให้ตายก่อน หรือว่าไม่ไปเกิดใหม่ ไม่ไปเกิดใหม่ก็ไม่มีความแก่ความเจ็บ ความตาย ความพลัดพรากอีก แม้กระทั่งขณะที่ยังมีลมหายใจ แม้มีความป่วยก็ไม่มีผู้ป่วย แม้มีความแก่ก็ไม่มีผู้แก่ แม้มีความตายก็ไม่มีผู้ตาย
อันนี้เรียกว่า แม้ว่าเจอทุกข์แต่ว่าไม่มีผู้ทุกข์ เพราะว่าใจไม่ได้ทุกข์ด้วย แล้วนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นได้จากการที่เราหันมาศึกษาเรียนรู้กายและใจ ชนิดที่ทำให้เกิดสติและปัญญาที่ทำให้เห็นสัจธรรมความจริง รวมทั้งเห็นอาการที่เกิดขึ้นกับกายและใจ ว่ามันเป็นสักแต่
07/10/2023 • 27 minutes 16 seconds 25660819pm--อยู่อย่างไรใจไม่ทุกข์
19 ส.ค. 66 - อยู่อย่างไรใจไม่ทุกข์
06/10/2023 • 1 hour 9 minutes 11 seconds 25660817pm--เป็นอิสระจากคุกทางใจ
17 ส.ค. 66 - เป็นอิสระจากคุกทางใจ : อันนี้เรียกว่า แม้เจอคุกทางกาย แต่ใจสามารถจะเป็นอิสระได้ในระดับหนึ่ง เราก็ไม่รู้นะว่าเราจะติดคุกแบบนี้หรือเปล่า อาจจะไม่ถึงขั้นเป็นโรคล็อกอินซินโดรม แต่อาจจะติดเจ็บป่วยนอนติดเตียงอยู่ในห้อง ICU อันนี้ คือสิ่งที่สามารถจะเกิดขึ้นได้กับผู้คนทั้งหลายในยุคปัจจุบันโดยเฉพาะเวลาในวัยแก่ชรา เมื่อร่างกายกลายเป็นคุก ซึ่งหลายคนก็ทนไม่ได้ ปล่อยให้ใจจมอยู่ในคุกอีกชั้นหนึ่ง เกิดความกระสับกระส่าย ทุรนทุราย
แต่ถ้าหากว่ามีธรรมะ มีสติ รู้จักกรรมฐาน ก็สามารถที่จะปลดล็อคใจให้เป็นอิสระได้ แม้ว่ากายจะต้องติดเตียง มีพันธนาการ มีสายระโยงระยาง แต่ว่าใจก็ไม่ทุกข์ทรมาน เพราะใจเป็นอิสระ อันนี้เป็นการบ้านที่เราต้องตระหนัก แล้วก็ฝึกเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าวันดีคืนดีจะเจอแบบนี้หรือเปล่า วันที่ร่างกายกลายเป็นคุก แต่ถ้าเราฝึกใจไว้ดี ใจก็เป็นอิสระได้
05/10/2023 • 28 minutes 18 seconds 25660816pm--อย่าให้ความคาดหวังบีบคั้นใจ
16 ส.ค. 66 - อย่าให้ความคาดหวังบีบคั้นใจ : เหมือนอย่างที่หลวงพ่อชาเคยพูดกับโยม โยมมาบอกว่าขอโทษที่เสียงดนตรีข้างนอกรบกวนการนั่งสมาธิของพระและโยมในศาลา หลวงพ่อบอกว่าโยม อย่าคิดว่าเสียงดนตรีรบกวนเรา เราต่างหากที่ไปรบกวนเสียงดนตรี หมายความว่าที่โยมรู้สึกหงุดหงิด เพราะว่าใจโยมไปทะเลาะกับเสียงดนตรี
เสียงดนตรีไม่ได้ทำอะไรเรา ถ้าแค่รู้ซื่อๆ รู้แล้ววาง รู้ด้วยใจที่เป็นกลาง มันก็ไม่หงุดหงิด หรือถึงจะไม่รู้ทัน เกิดอารมณ์เสร็จแล้ว แต่ก็ยังไม่สายที่จะไปรู้ทันอารมณ์ เช่นความหงุดหงิด รู้แล้วก็วาง อารมณ์พวกนี้มันแพ้การถูกรู้ถูกเห็นด้วยสติ ถ้าไปรู้ไปเห็นมันด้วยสติเมื่อไหร่ มันฝ่อเลย
ฉะนั้นถ้าเกิดพ่อค้ารู้วิธีการฝึกสติ ก็สามารถที่จะรักษาใจให้สงบได้ แม้จะมีเสียงเด็กโหวกเหวกอยู่หน้าร้าน หรือแม้จะเผลอเกิดความหงุดหงิดไปแล้ว แต่ว่าก็วางมันได้เพราะรู้ทัน มีหลายคนทำได้นะ อย่าว่าแต่เสียงโหวกเหวกเลย เสียงเลื่อยยนต์ เสียงเคาะเสียงค้อนกระทบหู แต่ใจก็ยังสงบได้ เพราะว่าเขารู้วิธีการฝึกสติ รักษาใจแม้ว่าสิ่งรอบตัวจะเต็มไปด้วยสิ่งเร้าก็ตาม
ฉะนั้นถ้าเกิดพ่อค้าแกรู้จักวิธีการฝึกสติอย่างถูกต้อง ก็ไม่จำเป็
04/10/2023 • 25 minutes 13 seconds 25660815pm--จากสะอาด สงบ สู่สว่าง
15 ส.ค. 66 - จากสะอาด สงบ สู่สว่าง : แต่ก่อนมันก็ยึดมั่นในร่างกายนี้ ยึดมั่นแม้กระทั่งความคิดและอารมณ์ว่าเป็นของกูๆๆ ทั้งๆ ที่ไม่น่ายึด แต่นั่นเป็นเพราะความหลง ความไม่มีสติ แต่พอมีสติ มันก็จะเห็นเลยนะว่า นั่นไม่ใช่กู แล้วมันก็ไม่ใช่ของกูด้วย ก็จะทำให้คลายความคิดมั่นถือมั่น ขยายไปถึงสิ่งที่อยู่นอกตัว ไม่ใช่แค่รูปและนามที่คลายความยึดมั่น แต่ว่าสิ่งนอกตัวก็จะเห็นว่า มันไม่น่ายึด ไม่น่าถือ แต่สิ่งสำคัญก็คือตรงนี้แหละ ก็คือการคลายความยึดมั่นในตัวกู เวลาเห็นอะไรเกิดขึ้นกับกาย มันก็ไม่คิดว่าเป็นกู แต่มันเป็นเรื่องของกาย
ตอนที่อาจารย์กำพลเริ่มเจริญสติอยู่บนเตียง ท่านก็ไม่ได้ทำอะไรมากนอกจากพลิกมือไป พลิกมือมา และหลวงคำเขียนก็สอนท่านทางจดหมายว่า ที่พลิกนี้คือรูป และความคิดที่เกิดขึ้นมันคือนาม สิ่งที่พลิกมันคือรูป สิ่งที่คิดมันคือนาม พอเจริญสติไปมากๆ เข้า ไม่เพียงจะรู้ทันความคิด แต่ยังเห็นไปอีกว่า เวลาพลิกไม่ใช่เราพลิกนะ มันคือรูปที่พลิก เวลาที่ความคิดเกิดขึ้นมันไม่ใช่เราคิดนะ มันคือนามที่คิด
พอพิจารณาอย่างนี้ไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็เห็นเลยนะว่า ที่พิการนั้นไม่ใช่เราพิการนะ แต่มันเป็นแค่กา
03/10/2023 • 28 minutes 29 seconds 25660814pm--รู้จักฉุกคิด ชีวิตเปลี่ยน
14 ส.ค. 66 - รู้จักฉุกคิด ชีวิตเปลี่ยน : ถ้าเราหมั่นสังเกต เราก็จะพบว่า ที่เรามีความทุกข์ไม่ได้เกิดจากรถติด แต่เกิดจากใจของเรา ถ้าเราวางใจไม่เป็นเราก็หงุดหงิด แต่ถ้าเราวางใจถู กหรือเราไม่สนใจ รถติดใจเราก็ไม่หงุดหงิด อยู่ที่ใจเรา เราต้องรู้จักตั้งคำถาม สังเกต รู้จักเอะใจ
คำว่าเอ๊ะ! มันสามารถที่จะเปลี่ยนจิตเปลี่ยนใจของคนเราได้ เพราะมันจะทำให้เกิดการตั้งคำถามกับความเข้าใจเดิมๆ แล้วทำให้เราเห็นว่า จริงๆ แล้ว การวางใจถ้าเราวางใจถูก หรือการที่เราเข้าใจสัจธรรมความจริง หรือการรู้จักตัวเอง ก็ช่วยทำให้เราทุกข์น้อยลง แล้วก้าวข้ามผ่านทุกข์ไปได้ ไม่จมอยู่กับอารมณ์ต่างๆ ที่ครอบงำใจ
02/10/2023 • 27 minutes 20 seconds 25660813pm--ถอนจิตจนเห็นความผิดปกติของใจ
13 ส.ค. 66 - ถอนจิตจนเห็นความผิดปกติของใจ : การถอนออกมาจากสิ่งที่คุ้นเคย ก็เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้เราเห็นถึงความไม่เข้าท่า หรือว่าความผิดปกติของสิ่งที่เราเคยเห็นว่าเป็นธรรมดา ใครที่มีความทุกข์อาจจะไม่รู้ตัว หรือว่าไม่เคยรู้ว่ามันเกิดจากอะไร ก็คิดว่าฉันทำถูกแล้ว ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นพ่อเป็นลูก หรือว่าเป็นนักธุรกิจ หรือว่าเป็นใครก็ตาม พอถอนออกมาจากสิ่งที่คุ้นเคย จากวิถีชีวิต หรือจากสิ่งแวดล้อม มันจะเห็นเลยนะ เห็นปัญหา เห็นความประหลาด เห็นความพิกล
แต่ว่าถอนตัวมาจากสถานที่ที่คุ้นเคย จากชีวิตที่คุ้นเคยก็ยังไม่พอนะ มันต้องถอนใจออกมาจากอารมณ์ จากความคิดต่างๆ ที่เคยคลุกเคล้าด้วย มันจึงจะเห็นชัดเจน แล้วจะรู้ว่า เหตุแห่งทุกข์มันอยู่ที่ไหน เห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้น แล้วก็จะรู้ว่าจริงๆ ความปกติคือ การที่จิตรู้สึกตัว การที่จิตนี่มีสติเป็นเครื่องรักษาใจ แล้วถึงตอนนั้นมันก็จะทำให้ชีวิตกลับเข้าร่องเข้ารอย สู่ความปกติอย่างแท้จริง
01/10/2023 • 26 minutes 34 seconds 12 ส.ค. 66 - ทำดีอย่ารีรอ : มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่เมื่อถึงวาระสุดท้าย ใกล้ตาย รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ทำความดี เพราะอะไร ไม่ใช่เพราะเพิ่งมาได้คิด คิดมานานแล้วแต่ว่าผัดผ่อนอยู่เรื่อย ผัดผ่อนจนกระทั่งสังขารมันไม่อำนวยแล้ว
แล้วนี่คือโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับคนจำนวนไม่น้อย รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำ แต่ว่ารีรอผัดผ่อนอยู่เรื่อย ไม่ว่ากับบุพการีกับพ่อแม่ จนเขาด่วนจากไปเสียก่อน หรือไม่ก็กับคนอื่น จนกระทั่งตัวเองมีอันเป็นไปเสียเอง ไม่มีโอกาสได้ทำ ซึ่งจิตสุดท้ายก็มาหวนคิด เราไม่ได้ทำสิ่งที่ควรทำ เช่น ขอขมาพ่อแม่ จะรู้สึกผิดติดค้างใจจนกระทั่งหมดลม อย่างนี้คงจะไปไม่ดีเลย
ฉะนั้น ความดีเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่เท่านั้นไม่พอ ต้องรีบทำด้วย เพราะถ้าเราเอาแต่รีรอผัดผ่อน อาจจะไม่มีโอกาสได้ทำเลยก็ได้
24/09/2023 • 29 minutes 4 seconds 25660811pm--เปิดพื้นที่ให้กับสติในใจ
11 ส.ค. 66 - เปิดพื้นที่ให้กับสติในใจ : เดี๋ยวนี้นอกจากขาดเพื่อนแล้ว วัยรุ่นส่วนใหญ่ก็ว่าได้ ก็ไม่เป็นมิตรกับตัวเองด้วยซ้ำ ไม่มีเพื่อน ทั้งภายนอก แล้วก็ไม่มีใจที่เป็นมิตรกับตัวเอง เป็นเพราะว่าไปให้ความสำคัญกับเรื่องของวัตถุ สิ่งเสพมากเกินไป จนกระทั่งข้างในกลวง ว้าเหว่ แต่ถ้าเกิดว่าหันมาให้ความสำคัญกับจิตใจ จนกระทั่งสามารถเป็นมิตรกับตัวเองได้ เรียกว่ามีใจเป็นมิตร มีจิตเป็นเพื่อน ความรู้สึกเหนื่อย ความรู้สึกล้าจนกระทั่งต้องอัดอั้น ระบายออกมา หรือจนกระทั่งบางคนถึงกับรู้สึกว่า ฉันอยู่ไม่ไหวแล้วฉันตายดีกว่า ก็จะเกิดขึ้นน้อยลง
และที่สำคัญคือ ถ้าเกิดว่าคนเราสามารถจะทำให้ใจของเรามีที่ว่างให้กับสติบ้าง ก็จะช่วยได้เยอะเลย “สติสเปซ” เขาตั้งใจจะชักชวนให้สำนักงานต่างๆ มีที่ว่างสำหรับการเจริญสติ หรือสำหรับ การปลูกสติในใจ แต่ที่จริงแล้ว สติสเปซที่สำคัญ มันอยู่ข้างใน ถ้าทำใจของเราให้มันว่างพอที่จะมีสติมาสถิต มันจะช่วยทำให้ใจเป็นมิตรกับเรามากขึ้น เพราะว่าสตินี้แหละ มันจะช่วยรักษาใจไม่ให้ผิดเพี้ยน ไม่ให้ถูกครอบงำด้วยกิเลส
จิตถ้าหากว่าไม่มีสติกำกับ มันก็กลายเป็นโทษ กลายเป็นศัตรู สร้างความทุกข
23/09/2023 • 25 minutes 58 seconds 25660810pm--อย่ามองข้ามธรรมขั้นพื้นฐาน
10 ส.ค. 66 - อย่ามองข้ามธรรมขั้นพื้นฐาน : แต่แม้กระทั่งความรู้สึกตัว คนจำนวนมากก็มองข้าม เห็นว่าเป็นเรื่องพื้นฐาน เป็นเรื่องพื้นๆ ฉันมีอยู่แล้วความรู้สึกตัว อยากจะมุ่งเรื่องฌานไปเลย เอาให้เข้าถึงฌาน ฌาน 1 ฌาน 2 ฌาน 3 ฌาน 4 ฉันจะเอาให้ได้ แต่ว่าไม่สนใจความรู้สึกตัว อันนี้ก็เรียกว่าข้ามขั้น
เหมือนกับการที่เราจะเรียนคณิตศาสตร์ชั้นสูงได้ มันก็ต้องรู้เรื่องเลขคณิตเบื้องต้นก่อน การที่คนเราจะมีความรู้สูงระดับด็อกเตอร์ อย่างน้อยมันต้องอ่านออกเขียนได้ แล้วก็รวมทั้งรู้เลขคณิตขั้นพื้นฐาน ที่ฝรั่งเขาเรียกว่า 3Rs; Read, Write, Arithmetics คือถ้ามีพื้นฐานอย่างนี้ ก็สามารถจะมีความรู้ชั้นสูงต่อไปได้ ในทำนองเดียวกัน ถ้าเราจะบรรลุธรรมขั้นสูง ปรมัตถธรรมก็ดี นิพพานก็ดี หรือแม้แต่การเข้าใจเรื่องพระไตรลักษณ์ ก็ต้องไม่มองข้ามเรื่องของความรู้สึกตัว ซึ่งเป็นพื้นฐานของจริยธรรม อันจะนำไปสู่การเข้าใจเรื่องสัจธรรม
ที่จริงแม้กระทั่งการบริโภคก็สำคัญเหมือนกัน มีบางคนบอกว่านิพพานก็อยากได้ แต่ว่ายังติดหนังเกาหลีซีรีย์ เลิกไม่ได้สักที อันนี้ก็เหมือนกัน ถ้ายังติดซีรีย์ละคร ติดซีรีย์โทรทัศน์ เรื่องนิพพานก็ไม่ต
22/09/2023 • 26 minutes 54 seconds 25660809pm--คาดหวังให้น้อย ยอมรับให้มาก
PS660809pm-คาดหวังให้น้อย ยอมรับให้มาก : ถ้าเรารู้จักยอมรับสิ่งเหล่านี้ได้ มันช่วยได้เยอะเลย ต่อไปเวลาเจอเหตุการณ์ที่ย่ำแย่ ที่ไม่ถูกใจหรือที่ทางพระเรียกว่าอนิฏฐารมณ์ เจอรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสที่ไม่น่าพอใจ เจอเหตุการณ์ในทางลบ เช่นเสื่อมลาภเสื่อมยศ ถูกนินทาว่าร้าย เราก็สามารถที่จะรักษาใจปกติได้ ไม่ซ้ำเติมตัวเอง เพราะยอมรับมันได้ เวลาเสียเงิน เสียทรัพย์ มันก็เสียแต่ทรัพย์แต่ใจไม่เสีย เพราะยอมรับมันได้ ไม่โวยวายตีโพยตีพาย ถึงเวลาเจ็บป่วย มันก็ป่วยแต่กาย แต่ใจไม่ป่วย เพราะยอมรับได้ ไม่ใช่ว่าโวยวายตีโพยตีพาย หรือคร่ำครวญว่าทำไมต้องเป็นฉัน ฉันอุตส่าห์ทำความดีมา ฉันอุตส่าห์สร้างบุญสร้างกุศลมา ทำไมต้องเป็นฉัน
เราจะไม่มีอาการแบบนี้ซึ่งเป็นการทำร้ายตัวเองหรือซ้ำเติมตัวเอง เพราะเรารู้จักยอมรับมันได้ จนถึงขั้นว่าปฏิบัติแล้วมันไม่สงบ ก็ยอมรับได้ ไม่โวยวาย บางทีปฏิบัติแล้วจิตเจ็บป่วยขึ้นมา เกิดความทุกข์ ทุกข์กายไม่พอ ทุกข์ใจ บางคนยอมรับไม่ได้ว่าทำไมฉันถึงทุกข์ใจอย่างนี้ อุตส่าห์ปฏิบัติมา ผิดหวังตัวเองที่ทำไมถึงมีความทุกข์อย่างนี้ เพราะยอมรับตัวเองไม่ได้ ยอมรับความเจ็บปวดทางกายไม่พอ ยอมรับ
21/09/2023 • 23 minutes 41 seconds 25660808pm--ธรรมที่มีอุปการะต่อชีวิต
8 ส.ค. 66 - ธรรมที่มีอุปการะต่อชีวิต : เพราะฉะนั้นทำใหม่ๆ จึงควรเอาปริมาณเป็นหลัก อย่าเพิ่งเอาคุณภาพ บางคนเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องทางโลก พอมาปฏิบัติธรรม พอเริ่มทำ ก็จะเอาคุณภาพเลย คือว่ามันต้องมีสติ ต้องมีความรู้สึกตัว ใจต้องสงบเลย ดังนั้นก็จะทำผิดทำพลาดได้
พอสติรู้ทันความคิด ลักษณะเด่นของการรู้ทันคือ มันจะรู้เฉยๆ โดยไม่ตัดสิน ไม่ทำอะไรกับความคิดนั้น ไม่ผลักไส ไม่ไหลตาม การรู้ทันความคิดหรือรู้ใจ มันจะมีลักษณะเด่นคือรู้เฉยๆ ส่วนรู้กายมีลักษณะเด่นคือรู้ตัวทั่วพร้อม แต่ว่ารู้ใจ หรือรู้ความคิด รู้อารมณ์ ลักษณะเด่นของมันคือ รู้เฉยๆ รู้ซื่อๆ ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องยาก เพราะว่าหลายคนพอรู้แล้ว มันไม่เฉย จะเข้าไปบี้ ไปจัดการกับความคิดและอารมณ์ ฉะนั้น ต้องยั้งเอาไว้นะ แล้วก็แค่รู้เฉยๆ ไม่ตัดสิน อย่างที่หลวงพ่อคำเขียนว่า คิดดีก็ช่าง คิดไม่ดีก็ช่าง ไม่เป็นไรๆ ต้องใจเย็น
25660807pm--ทิ้งขยะในใจให้ฉับไว
7 ส.ค. 66 - ทิ้งขยะในใจให้ฉับไว : สิ่งหนึ่งที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าเรารู้สึกตัวอยู่เปล่า หรือว่าใจเราอยู่กับเนื้อกับตัวไหม ก็คือ มันรู้สึกไหมถึงการเคลื่อนไหวของกายเวลาสร้างจังหวะ เวลาเดินจงกรม ต่อไปมันจะรู้สึกละเอียดขึ้นๆ จนแม้กระทั่งกลืนน้ำลาย กระพริบตาก็รู้ แต่ใหม่ๆ มันยังไม่รู้หรอก อย่าว่าแต่กลืนน้ำลายเลย กระพริบตาหรือแม้กระทั่งลมหายใจก็ยังไม่รู้เลย เพราะมันละเอียด
ฉะนั้น ครูบาอาจารย์ หลวงพ่อเทียนท่านก็เลยให้มารู้สึกกับการสร้างจังหวะ กับการเดินจงกรมก่อน มันเป็นความรู้สึกที่หยาบ รู้สึกชัด และถ้ารู้สึกเมื่อไรก็แสดงว่าใจอยู่กับเนื้อกับตัว มันเป็นตัวบ่งชี้ และต่อไปเวลาใจมันลอย ทันทีที่มีความรู้สึกว่ามือกำลังเคลื่อนไหว เท้ากำลังเดิน ตัวขยับ ความรู้สึกนี้แหละที่มันจะไปสะกิดใจให้กลับมา ผละจากความคิด ทิ้งความคิดที่กำลังเพลิน กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว
ทีแรกต้องรู้สึกตัวก่อนจึงจะมารู้สึกกายเคลื่อนไหว แต่ต่อไปความรู้สึกว่ากายเคลื่อนไหว นั่นแหละที่มันจะไปชักนำให้จิตกลับมารู้สึกตัว จากเดิมที่หลง จากเดิมที่ใจลอยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ก็จะกลับมารู้สึกตัว ลองสังเกตได้ พอเราเดินจงกรมสร้างจ
19/09/2023 • 27 minutes 35 seconds 25660806pm--รักษาใจไม่ให้จมทุกข์
6 ส.ค. 66 - รักษาใจไม่ให้จมทุกข์ : การเจริญสติ เป็นสิ่งที่จะช่วยทำให้เรารักษาใจห่างไกลจากความทุกข์ได้ เมื่อมีความทุกข์เกิดขึ้น แต่ว่าใจไม่ทุกข์ก็ได้ หรือว่ามีความทุกข์แต่ไม่มีผู้ทุกข์ สภาวะเช่นนี้เราทำได้ ก็ด้วยการฝึก ฝึกอะไร ฝึกสติ ทำความรู้สึกตัว ถ้าเรามีสติที่เข้มแข็ง มีสติที่พัฒนาแล้ว เราก็จะมีความไวเมื่ออารมณ์เหล่านี้เกิดขึ้นในใจ ไม่ว่าจะเกิดเพราะ ตากระทบรูป หูได้ยินเสียง หรือพูดง่ายๆคือ เจอสิ่งที่ไม่ถูกใจ ที่เรียกว่าอนิฏฐารมณ์
เวลาเจออนิฏฐารมณ์ ปุถุชนอย่างเราก็ต้องเกิดความโกรธ เกิดความเศร้า เกิดความเกลียด เกิดความเครียด ความวิตก แต่ถ้าเรามีสติเห็นมัน มันเข้ามาทำร้ายใจเราไม่ได้ เหมือนกับเรือที่ไม่มีรูรั่ว ไม่มีรูรั่วน้ำจะเข้ามาได้อย่างไร ถ้าน้ำเข้ามาในเรือไม่ได้แล้ว เรือก็ไม่มีวันจม เรือกับน้ำก็อยู่ ด้วยกันได้
เช่นเดียวกัน ใจของเรากับอารมณ์อกุศลก็อยู่ด้วยกันได้ ถ้ามีสติเป็นเครื่องรักษา เพราะฉะนั้น การที่เรามาเจริญสติจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่คุ้มค่ากับการทุ่มเทแล้วยังช่วยทำให้เราสามารถอยู่กับความผันผวนปรวนแปรของโลกได้ด้วยใจที่ไม่ทุกข์
18/09/2023 • 24 minutes 59 seconds 25660805pm--ปลดทุกข์จากใจ
5 ส.ค. 66 - ปลดทุกข์จากใจ : เรามีวิธีที่จะจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกได้ ถ้าเราเข้าใจ หรือว่ามีตัวช่วยที่จะทำให้เราสามารถจะปล่อยมันออกไปจากใจได้ แต่ถ้าเราฝึกสติ ฝึกความรู้สึกตัวอยู่เสมอ เราก็ไม่ต้องรอให้อารมณ์มันท่วมท้นจนยากที่จะจัดการ เรามีสติไว เพียงแค่มันมีอารมณ์เกิดขึ้นเป็นประกาย หรือยังไม่โตเท่าไหร่ เราก็จะรู้ทัน แล้วก็วางมันลงได้ง่าย ส่วนใหญ่ไม่รู้ทัน ปล่อยให้มันลุกลาม เช่น ความหงุดหงิดกลายเป็นความโกรธ เหมือนกับประกายไฟที่มันกลายเป็นเพลิงที่เผาไหม้ป่า ตอนนี้ดับยาก
ฝึกเอาไว้นะ รู้ทันอารมณ์ความรู้สึก โดยเฉพาะคนทุกวันนี้ มีความเหนื่อย ความท้อ มีความเครียดสูงมากจากการทำงาน จนปล่อยให้ความรู้สึกนั้นมาทำร้ายจิตใจ บั่นทอนร่างกาย ถ้าเกิดว่าเรา หันกลับมามองใจอยู่เสมอในทุกโอกาส มันก็จะช่วยทำให้เราสามารถปลดเปลื้องความรู้สึกที่เป็นลบออกไปจากใจได้ง่ายขึ้น แล้วที่เขาทำสติสเปซก็เป็นโครงการที่น่าอนุโมทนา ใครที่สะดวกก็น่าจะหาโอกาสไปชมนิทรรศการนี้ แล้วมาลองใช้กับชีวิตประจำวันของตัวเองบ้าง
17/09/2023 • 26 minutes 29 seconds 25660804pm--สิ่งดีๆที่ควรมอบให้กับชีวิต
4 ส.ค. 66 - สิ่งดีๆที่ควรมอบให้กับชีวิต : “ตัวอยู่ไหนใจอยู่นั่น” ฝึกเอาไว้ มันเป็นหลักง่ายๆ ที่มีอานิสงส์มาก ยิ่งมาอยู่วัดแล้ว ปัจจัยก็เอื้ออำนวยให้ทำสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น เพราะว่าถ้าอยู่บ้าน อยู่ข้างนอก มันก็จะมีสิ่งดึงจิตดึงใจออกไปจากเนื้อจากตัว ทำอะไรด้วยความไม่รู้เนื้อรู้ตัว แต่พออยู่ที่นี่ มันก็มีปัจจัยมากมายที่เอื้อให้ใจเราอยู่กับเนื้อกับตัวมากขึ้น สิ่งที่จะดึงจิตให้มันไหลออกไปนอกตัว มันมีน้อยลง มีสิ่งแวดล้อมที่ช่วยกระตุ้นเตือนให้เราเจริญสติ ทำความรู้สึกตัว เพราะมีเพื่อนทำกัน ทั้งในรูปแบบ และในชีวิตประจำวัน เป็นแบบอย่างให้กับเรา
ถ้าไม่ใช้โอกาสนี้เวลานี้ในการมอบสิ่งดีๆ ให้กับใจ คือ ความรู้สึกตัว หรือสติแล้วเนี่ย มันก็ไม่รู้ว่าจะหาโอกาสไหนอีกนะ แต่ถึงแม้ไม่ได้อยู่วัดก็ต้องพยายามเปิดโอกาส สร้างโอกาสให้กับชีวิตของตัวเอง อย่าคิดแต่จะใช้ชีวิตเต็มร้อย แต่ว่าไม่สามารถที่จะทำอะไรด้วยใจเต็มร้อยได้ อย่าคิดแต่จะเอาอะไรต่ออะไรมากมายจากชีวิต โดยที่ไม่คิดที่จะให้สิ่งดีๆ หรือความรู้สึกตัว สติ สมาธิ หรือกุศลธรรมให้กับจิตใจ
ต้องเตือนใจอยู่เสมอนะ ที่จะดูแลใจ หรือสร้างความรู้สึกตัวไม่ว
16/09/2023 • 23 minutes 56 seconds 25660803pm--อยู่สบายเพราะไม่หวังความสบาย
3 ส.ค. 66 - อยู่สบายเพราะไม่หวังความสบาย : ถ้ามาโดยไม่คาดหวังความสบายเลย ไม่ว่าจะเป็นความสบายจากที่นี่ หรือจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว มันก็จะสบายขึ้นมาเอง แต่เป็นเพราะความคาดหวังหรือความอยาก ตรงนี้แหละที่มันทำให้เราทุกข์ง่าย พอคาดหวังแล้ว มันก็อยากจะได้เห็นอย่างที่หวัง พอไม่ได้อย่างที่หวัง มันก็เกิดความไม่พอใจขึ้นมา ละความอยากเสียได้ ละความหวังเสียได้มันก็สบายขึ้นมาเอง
เหมือนกับเจริญสติ ถ้าไม่หวังความสงบมันก็สงบได้ง่าย แต่พอหวังความสงบแล้วมันกลับสงบได้ยาก เพราะว่ามันจะหงุดหงิดขัดเคืองใจไปหมด มีความคิดเกิดขึ้นก็รำคาญ มีความคิดเกิดขึ้นก็หงุดหงิด ก็ไปผลักไสมัน มันก็ยิ่งเป็นทุกข์มากขึ้น และที่ผลักไสกดข่มมันเพราะอะไร เพราะอยากจะสงบ แต่พอไม่อยากสงบแล้ว มันก็ยอมรับอะไรต่ออะไรได้ ฟุ้งก็ยอมรับได้ มีความคิดเกิดขึ้นก็ยอมรับได้ พอยอมรับได้ ใจมันก็สงบเอง
เรามาที่นี่ก็ตั้งจิตถามใจตัวเองว่าเรามาเพื่ออะไร เพื่อหวังความสบาย หวังความสงบ หรือเพื่อมาฝึก ถ้าคิดว่ามาที่นี่เพื่อฝึก ก็จะได้ประโยชน์เต็มที่จากการมา
25660802pm--อยู่ร่วมกันด้วยความหนักแน่น
2 ส.ค. 66 (เย็น) - อยู่ร่วมกันด้วยความหนักแน่น : ถ้าเกิดว่าเราปากหนัก หูหนัก แล้วก็ใจหนักแน่น ถือว่าเราได้ฝึกวิชาที่สำคัญเลยนะ แล้วมันไม่ได้เป็นประโยชน์ตนอย่างเดียว เป็นประโยชน์ ต่อผู้อื่นด้วย ทำให้ชุมชนอยู่ด้วยกันอย่างราบรื่น ราบรื่นนี่ไม่ใช่เพราะว่าไม่มีการกระทบกัน มี แต่ว่าสามารถที่จะรับมือ ไม่ได้คิดแต่จะไปเปลี่ยนแปลงคนอื่น แต่ว่าเปลี่ยนแปลงจากกลางใจของตัวเอง
ที่โบราณเขาว่า อยู่คนเดียวให้ระวังความคิด อยู่กับมิตรให้ระวังวาจา ต้องระลึกนึกถึงไว้เสมอ เมื่อเราอยู่คนเดียว เราก็ให้มีสติรู้ทันความคิด สามารถอยู่กับตัวเองได้โดยที่ไม่ถูกความคิดรบกวนรังควาญ อยู่กับคนอื่นก็อยู่ได้ ไม่เป็นทุกข์เพราะวาจาของตนหรือวาจาของคนอื่น หรือว่าการที่เจอกับสิ่งที่ไม่ถูกใจ
14/09/2023 • 29 minutes 10 seconds 25660802am--ตั้งใจทำดีในพรรษา
2 ส.ค. 66 (เช้า) - ตั้งใจทำดีในพรรษา : เพราะฉะนั้นการเข้าโอกาสเข้าพรรษาเป็นโอกาสที่เราจะบำเพ็ญบารมี อธิษฐานมันก็เป็นบารมีข้อหนึ่ง ถ้าเราอธิษฐานถูกต้อง บารมีหรือคุณความดีในตัวเราก็จะเพิ่มพูนขึ้น ทำให้เรามีกำลังแกร่งกล้าในการเอาชนะกิเลส และการทำความดีที่ยากขึ้นไปได้เรื่อยๆ มันคงไม่มีโอกาสใดที่จะเหมาะสำหรับการทำความเพียรเท่ากับช่วงเข้าพรรษา เพราะว่าใครๆเขาก็ทำกัน เรียกว่ามีเพื่อน ถึงแม้จะไม่ใช่พระ แต่เราก็ควรทำด้วยแม้ว่าเป็นฆราวาส
และนอกจากใครๆเขาก็ทำกันทั้งประเทศ แล้วมันยังเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานต่อเนื่อง 3 เดือน ถ้าตั้งใจทำจริงจังก็จะเห็นผลได้แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลิกกินเหล้า งดกินกาแฟ หรือว่างดใช้โซเชียลมีเดีย หรือว่าใช้น้อยลงแค่วันละชั่วโมง หรือว่ารักษาศีล 5 ให้ครบ หรือว่างดช็อปปิ้งหรือว่าช้อปแค่เดือนละครั้ง ถ้าทำ 3 เดือนต่อเนื่อง เห็นผลแน่นอน แล้วต่อไปก็จะมีกำลังในการที่จะทำให้ได้ยิ่งขึ้นๆไป
13/09/2023 • 21 minutes 15 seconds 25660805pm--ปลดทุกข์จากใจ
5 ส.ค. 66 - ปลดทุกข์จากใจ : เรามีวิธีที่จะจัดการกับอารมณ์ความรู้สึกได้ ถ้าเราเข้าใจ หรือว่ามีตัวช่วยที่จะทำให้เราสามารถจะปล่อยมันออกไปจากใจได้ แต่ถ้าเราฝึกสติ ฝึกความรู้สึกตัวอยู่เสมอ เราก็ไม่ต้องรอให้อารมณ์มันท่วมท้นจนยากที่จะจัดการ เรามีสติไว เพียงแค่มันมีอารมณ์เกิดขึ้นเป็นประกาย หรือยังไม่โตเท่าไหร่ เราก็จะรู้ทัน แล้วก็วางมันลงได้ง่าย ส่วนใหญ่ไม่รู้ทัน ปล่อยให้มันลุกลาม เช่น ความหงุดหงิดกลายเป็นความโกรธ เหมือนกับประกายไฟที่มันกลายเป็นเพลิงที่เผาไหม้ป่า ตอนนี้ดับยาก
ฝึกเอาไว้นะ รู้ทันอารมณ์ความรู้สึก โดยเฉพาะคนทุกวันนี้ มีความเหนื่อย ความท้อ มีความเครียดสูงมากจากการทำงาน จนปล่อยให้ความรู้สึกนั้นมาทำร้ายจิตใจ บั่นทอนร่างกาย ถ้าเกิดว่าเรา หันกลับมามองใจอยู่เสมอในทุกโอกาส มันก็จะช่วยทำให้เราสามารถปลดเปลื้องความรู้สึกที่เป็นลบออกไปจากใจได้ง่ายขึ้น แล้วที่เขาทำสติสเปซก็เป็นโครงการที่น่าอนุโมทนา ใครที่สะดวกก็น่าจะหาโอกาสไปชมนิทรรศการนี้ แล้วมาลองใช้กับชีวิตประจำวันของตัวเองบ้าง
12/09/2023 • 26 minutes 29 seconds 25660801pm--ทางสายกลางคือทางเดินของชีวิต
1 ส.ค. 66 - ทางสายกลางคือทางเดินของชีวิต : ชาวพุทธจำนวนมากก็เหมือนกัน รู้อริยสัจ 4 เยอะแต่ว่าเอาเข้าจริงๆ ไม่เข้าใจ หรือไม่ตระหนักว่าสมุทัยหรือเหตุผลที่แท้จริง โดยเฉพาะความทุกข์ใจมีเหตุจากอะไร แล้วก็คิดแต่จะไปแก้ไขสิ่งภายนอก แต่ว่าลืมจัดกาที่ใจของตัว เพราะฉะนั้นอริยสัจ 4 ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ มันไม่ใช่หญ้าปากคอก แต่เป็นสิ่งที่ต้องนำมาปฏิบัติอย่างจริงจัง แล้วจะทำอย่างนั้นได้ก็ต้องรู้จักฝึกจิตให้รู้ทุกข์ ให้เป็น ด้วยการหันมามองที่ใจของตน รู้ทันความคิด รู้ทันอารมณ์ แล้วมันก็จะเห็นเลยว่า ความทุกข์ที่เกิดขึ้นในใจมีรากเหง้าสาเหตุมาจากความอยาก ความยึด หรือว่าการวางจิตวางใจของเราที่ไม่ถูกต้อง
เพราะฉะนั้น ปฐมเทศนาก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญ แม้พระพุทธองค์จะตรัสสอนมา 2,600 กว่าปีแล้ว แต่ก็ยังมีความหมาย เราจะมาเวียนเทียนหรือไม่ หรือว่าจะรู้ความหมายของวันอาสาฬหบูชาหรือไม่ ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า เราเข้าใจอริยสัจ 4 และปฏิบัติอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะกิจในอริยสัจ 4 ทุกข์เป็นสิ่งต้องรู้ สมุทัยเป็นสิ่งที่ต้องละ นี่เรียกว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำให้เกิดขึ้น และจะเกิดขึ้นได้เพราะว่าทำให้มรรคเจริญงอกงามก็คือปฏิบัตินั่
12/09/2023 • 40 minutes 52 seconds 25660729pm--ยอมรับทุกอย่าง ไม่ผลักไสสิ่งใด
29 ก.ค. 66 - ยอมรับทุกอย่าง ไม่ผลักไสสิ่งใด : การปฏิบัติต้องฝึกให้เรายอมรับทุกสิ่ง ไม่ว่าอิฏฐารมณ์หรืออนิฏฐารมณ์ แล้วถ้าคุณทำได้เรียกว่า ใจจะมีอิสระจากความทุกข์ได้ง่ายขึ้น แต่คนไม่เข้าใจว่า ปฏิบัติคือการยอมรับทุกสิ่ง แต่ถ้ายอมรับได้มันสุขมาก นี่คือเหตุที่ไรน์โฮลด์ นีเบอร์ภาวนาว่า ขอให้ข้าพเจ้ามีความสงบใจที่จะยอมรับทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าเปลี่ยนแปลงไม่ได้
แต่อาตมาคิดว่าต้องทำมากกว่านั้น แม้สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แม้ไม่ถูกใจก็ต้องยอมรับ คนเปิดโทรศัพท์ทิ้งไว้แล้วส่งเสียงดังริงโทน เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เราก็ไปบอกเขาให้หยุด แต่ในขณะที่เสียงยังดังอยู่ก็ยอมรับมันได้ แล้วถ้าหากว่าเราตระหนักว่า มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่เรายอมรับได้ รถติดก็ไม่หงุดหงิด ถ้าเรายอมรับได้ เราก็ไม่ทุกข์ เพื่อนผิดนัด เพื่อนมาช้ามาสาย เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว ต้องรอเพื่อนอย่างเดียว ก็รอด้วยใจสงบ
ถึงเวลาเจอความทุกข์ ความเจ็บปวด ความสูญเสีย เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เขาตายไปแล้ว แต่เราก็ยอมรับได้ ใจสงบ ถึงเวลาเราจะต้องตายเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ยอมรับมันได้ ใจก็สงบ ฉะนั้นลองฝึกเอาไว้ หลักข้อแรกของแฟรงค์
11/09/2023 • 55 minutes 18 seconds 25660724pm--เป็นอยู่อย่างประเสริฐ
24 ก.ค. 66 - เป็นอยู่อย่างประเสริฐ : ถ้าเราฝึกจิต ปฏิบัติธรรมในฐานะผู้ใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา เราจะได้ประโยชน์จากทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา ไม่ว่าดีหรือร้าย เราจะได้ประโยชน์จากทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่ากุศลหรืออกุศล ไม่ว่าอาการของใจมันจะฟูหรือแฟบ มันก็ให้ประโยชน์กับเราในการให้ความรู้เกี่ยวกับสัจธรรมของกายและใจ ให้แก่เรา
แต่ถ้าเราปฏิบัติธรรมชนิดที่แสวงหาความสงบบางทีมันทำให้เราตกหลุม เพราะว่าพอเราเจอสิ่งกระทบต่างๆ ที่ไม่ถูกใจ เราก็จะโวยวายตีโพยตีพาย หรือเป็นทุกข์ขึ้นมาทันที แต่ไม่รู้จักหาประโยชน์จากมัน ในทางตรงข้ามถ้าเราปฏิบัติ ฝึกจิตอย่างผู้ใฝ่รู้ อย่างนักศึกษา หรือว่าเอาสติเป็นเครื่องมือในการศึกษา เราจะได้ประโยชน์มากเลย ไม่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับกายและใจ ไม่ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตของเราก็ตาม
เพราะฉะนั้นเวลาเราปฏิบัติธรรม ถ้าเราปรับใจให้เป็นผู้ใฝ่รู้ หรืออย่างน้อยก็หมั่นมองตน และคิดอยู่เสมอว่า เมื่อมีทุกข์เราก็จะแก้ที่ตน ไม่คิดไปเรียกร้องให้คนอื่นแก้ไขให้มันถูกใจเรา เราก็จะได้ประโยชน์จากการปฏิบัติ จากธรรมะ
03/09/2023 • 27 minutes 46 seconds 25660723pm--เจอทุกข์จึงเปิดรับธรรม
23 ก.ค. 66 - เจอทุกข์จึงเปิดรับธรรม : คนที่ใกล้ชิดกับครูบาอาจารย์ หรือใกล้ชิดกับพระพุทธเจ้ากลับกลายเป้นคนที่สอนยาก อันนี้เราก็เห็น ไม่ใช่มีแต่พระฉันนะเท่านั้น พระที่โกสัมพีที่เคยทะเลาะกันโดยไม่ฟังคำทัดทานของพระพุทธเจ้าเลย จนพระองค์ต้องประท้วงด้วยการเสด็จออกไปปลีกวิเวกที่วัดป่าเลไลย์นี่ก็เหมือนกัน พวกนี้ถือว่าเป็นคนที่ใกล้ชิดพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าสอน พระพุทธเจ้าทัดทาน ไม่ฟัง ในขณะที่ญาติโยมหรือว่าพระที่อยู่ไกลนี่ยังฟังมากกว่า
ที่จริงแม้กระทั่งการใกล้ชิดธรรมะมันก็มีข้อเสียเหมือนกัน บางทีใกล้ชิดธรรมะมาก ได้ยินได้ฟังธรรมะทุกวันๆๆ กลับปรากฏว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะว่าฟังจนชิน เห็นว่าธรรมะเป็นหญ้าปากคอก หรือว่าอาจจะเกิดอาการด้านชา แต่บางคนเป็นคนห่างไกลธรรมะ ห่างไกลวัด พอได้ฟังธรรมะไม่กี่ประโยค จิตเปลี่ยนเลย
พวกเราก็ต้องระวังนะ ฟังธรรมะทุกวันๆ อยู่ใกล้ชิดกับครูบาอาจารย์ แล้วก็อยู่ในวัด บางทีอยู่ไปๆ อาจจะเกิดอาการที่เรียกด้าน หรือชาขึ้นมา ไม่เกิดความตื่นตัวในการปฏิบัติ หรือถึงแม้จะไม่ได้อยู่วัด แต่ว่าฟังธรรมะทุกวันๆๆ ฟังจนบางทีท่องได้แต่ว่านิสัยเหมือนเดิม เพราะว่าฟังจนช
02/09/2023 • 27 minutes 20 seconds 25660722pm--โจทย์สำคัญของชีวิต
22 ก.ค. 66 - โจทย์สำคัญของชีวิต : คนเราก็ไม่จำเป็นต้องเป็นพระโสดาบันถึงจะยอมรับได้ด้วยใจสงบ คนที่ฝึกมา เข้าใจความจริงของชีวิตก็จะยอมรับได้ง่าย ทั้งยอมรับด้วยหัวหรือเหตุผล แล้วก็ยอมรับด้วยใจ เพราะมีปัญญาเห็นความจริงของชีวิต ของโลก เป็นเช่นนั้นเอง แต่ถ้ายังไม่มีปัญญา อย่างน้อยก็ยังมีช่องทางให้เรายอมรับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ ก็คือการมีสติ โดยเฉพาะสัมมาสติที่ทำให้เราเห็น ไม่เข้าไปเป็น
เมื่อมีความสูญเสีย มีความเศร้าโศกเกิดขึ้น ก็เห็น ไม่เข้าไปเป็น เมื่อมีความคับแค้นเกิดขึ้น โกรธ ก็เห็นไม่เข้าไปเป็น แล้วก็รู้ที่จะทำใจ วางใจเป็นกลาง อย่างที่ครูบาอาจารย์ท่านใช้คำว่ารู้ซื่อๆ รู้ซื่อๆ นี่เป็นวิชาที่สำคัญมากสำหรับปุถุชน เพราะมันทำให้เราสามารถยอมรับสิ่งต่างๆ ได้ด้วยใจสงบ ทีแรกก็ยอมรับความคิดและอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วยใจที่เป็นกลาง เพราะว่าไม่ผลักไส ไม่กดข่มมัน พอยอมรับอารมณ์ที่มันเกิดขึ้นในใจได้ ต่อไปมันก็จะยอมรับเหตุการณ์ หรือสิ่งที่มากระทบใจได้
จริงๆ แล้วการยอมรับด้วยใจสงบ มันไม่ควรจะใช้กับเฉพาะสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แม้กระทั่งสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ แต่ว่ามันไม่ถูกใจเร
01/09/2023 • 26 minutes 54 seconds 25660721pm--อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก
21 ก.ค. 66 - อย่าทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก : แล้วถ้าเรายอมรับความคิดที่เกิดขึ้นไม่ได้ ยอมรับอารมณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ การที่จะยอมรับสิ่งต่างๆ ที่มากระทบทางตาทางหู มันก็เป็นเรื่องยาก ก็จะรู้สึกว่าอะไรมันขวางหูขวางตาไปหมด อะไรมันก็ขัดหูขัดใจไปหมด เสียงดังบ้าง คนพูดคุยกันบ้าง หรือว่าอากาศร้อนบ้าง หงุดหงิดกันใหญ่ เพราะว่าไม่สามารถจะทำใจให้ยอมรับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าภายนอกหรือภายใน อาจจะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือสิ่งกระทบจากภายนอกยังไม่ได้
แต่อย่างน้อยถ้าฝึกให้ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นภายใน เช่นความคิดและอารมณ์ เช่นความหงุดหงิด ความรำคาญ แล้วก็แค่รู้เฉยๆ แค่ดูมันเฉยๆ รู้เฉยๆ นี่เป็นสิ่งที่จะเรียกว่ายากสำหรับนักปฏิบัติ การปฏิบัติถ้าจะว่ายากก็ตรงนี้แหละ ก็คือรู้เฉยๆ เพราะว่าเวลารู้แล้วมันไม่ยอมเฉย มันจะเข้าไปจัดการ เพราะมันเป็นนิสัยความเคยชินเดิมๆ ที่จะต้องเข้าไปจัดการกับความคิดและอารมณ์ต่างๆ
แต่ถ้าเราฝึกที่จะยอมรับมันได้ มันจะเกิดขึ้นก็แค่รู้มัน แล้วจากรู้ก็จะพัฒนา รู้ทันก็เป็นการรู้ซื่อๆ รู้เฉยๆ ปฏิบัติมาบางทีหลายปีแต่ว่าทำตรงนี้ไม่ได้คือรู้เฉยๆ เพราะว่ามันคิดแต่จะไปจัดการกับ
31/08/2023 • 25 minutes 52 seconds 25660720pm--อย่าให้ความถูกใจบดบังความถูกต้อง
20 ก.ค. 66 - อย่าให้ความถูกใจบดบังความถูกต้อง : หลายคนบอกว่าโกหกเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อความอยู่รอด แต่การนินทานี่มันไม่ได้เป็นเรื่องความเป็นจำเป็นเพื่อความอยู่รอดทางอาชีพเลย แต่มันทำแล้วเมามัน เม้าท์มอยนี่มัน ทั้งที่อาจจะไม่เป็นธรรมกับคนที่ถูกกล่าวถึง ถูกนินทา ในแง่นี้ถ้าเราเลือกเอาความถูกต้องมากกว่าความถูกใจ เราก็จะเบรก ยับยั้งใจตัวเองเอาไว้ว่าเราไม่ควรทำ เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่ถ้าคนเราไม่ใส่ใจตรงนี้
เวลานินทาใคร เราจะมีความสุขมาก เพราะมันถูกใจเวลาเราได้นินทาคนที่เราไม่ชอบ นินทาคนที่เราโกรธ เราเกลียด แต่ว่ามันอาจจะไม่ถูกต้องก็ได้ ฉะนั้นถ้ารู้จักทักทวงใจตรงนี้บ้าง มีสติเอาไว้ ไม่ยินดีกับการไปนินทาใคร เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง มันก็จะค่อยๆ เสริมสร้างสำนึกเรื่องความถูกต้องเอาไว้ในใจเรา พอถึงเวลาเราไปรับรู้ข้อมูลจากข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับคนที่เราไม่ชอบ ไม่ถูกใจ แล้วเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม เขาถูกกลั่นแกล้ง เราก็จะไม่ยินดีในความเดือดร้อนในความฉิบหายของเขา แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันจะถูกใจเรา แต่เราไม่ยินดีเพราะมันไม่ถูกต้อง
แล้วสิ่งนี้มันจะช่วยทำให้คุณธรรม
30/08/2023 • 30 minutes 35 seconds 25660719pm--ทุกข์ใจเพราะไม่ยอมรับความจริง
19 ก.ค. 66 - ทุกข์ใจเพราะไม่ยอมรับความจริง : การที่เรายอมรับสิ่งที่ไม่ถูกใจที่ผ่านเข้ามาในชีวิต หรือตระหนักว่าเหตุแห่งทุกข์ไม่ได้อยู่ที่สิ่งภายนอกหรือสิ่งใด แต่มันอยู่ที่ใจเราที่ไม่ยอมรับ ถ้าเราเข้าใจตรงนี้ ก็เท่ากับเราเข้าใจธรรมะได้มากขึ้น แต่ไม่ว่าเราจะปฏิบัติแค่ไหน แต่ตราบใดที่เรายังไม่สามารถทำใจยอมรับสิ่งที่ไม่ถูกใจ ก็ยังเรียกว่าเรายังห่างธรรมะอยู่ หรือตราบใดที่เรายังคิดว่าความทุกข์มันเกิดขึ้นจากสิ่งภายนอก ไม่ได้เกิดขึ้นจากการที่เรารู้สึกลบกับมัน หรือว่าไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น ถ้าเรามองไม่เห็นตรงนี้ก็เรียกว่ายังห่างไกลธรรมะ ถึงแม้เราจะรู้ธรรมะเยอะ
ฉะนั้นการฝึกใจให้ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น มันเป็นพื้นฐานของการปฏิบัติธรรม ที่จะพาเราเข้าถึงแก่นของธรรมได้ เพราะถ้ายอมรับเท่าไหร่ มันก็จะยึดมั่นถือมั่นได้น้อยลง แล้วมันก็จะปล่อยวางได้มากขึ้นเท่านั้น
29/08/2023 • 27 minutes 44 seconds 25660718pm--อย่าเติมเชื้อให้ความทุกข์
18 ก.ค. 66 - อย่าเติมเชื้อให้ความทุกข์ : การอยู่กับตัวเองให้เป็น อยู่กับทุกขเวทนาโดยไม่ปวด สำคัญมาก ถ้าเรามีเวลาต้องรีบทำเสียแต่เดี๋ยวนี้ เพราะถ้าเกิดว่าเราต้องป่วย ยังไม่ถึงขั้นต้องนอนติดเตียงนะ ถ้าเราไม่เตรียมใจไว้เลยไม่ฝึกใจไว้เลยมันทรมาน เพราะใจยอมรับไม่ได้ ความป่วยกายไม่ได้ทำร้ายเราเท่ากับใจที่ยอมรับความป่วยไม่ได้ บางคนหมอบอกว่าเป็นมะเร็ง ตกใจมาก พอกลับไปบ้านอยู่ได้ 12 วันก็ตาย มีคุณป้าอายุ 70 ปีเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลไม่รู้กี่ครั้ง ไม่รู้เป็นอะไร แล้วมีวันหนึ่ง หมอบอกว่า ป้าเป็นมะเร็งตับอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน แกกลับไปบ้านอยู่ได้ 12 วัน ที่อยู่ได้แค่ 12 วันนี้แปลว่ามะเร็งมันลามไปถึงสมอง ไปถึงอวัยวะสำคัญหรือเปล่า เปล่า แกตายเพราะใจยอมรับไม่ได้
พูดอีกอย่างก็คือว่ามะเร็งไม่น่ากลัวเท่ากับความกลัวมะเร็ง ความตายไม่น่ากลัวเท่ากับความกลัวตาย แต่ที่กลัวมะเร็ง กลัวตายหรือกลัวแก่เพราะมันไม่ได้ฝึกใจ อย่าว่าแต่จะกลัวมะเร็ง กลัวความตาย แค่กลัวเข็มฉีดยานี้ก็แย่แล้ว มีคนทำวิจัยบอกว่า คนที่กลัวเข็มฉีดยาพอโดนเข็มจิ้ม มันเจ็บเป็น 3 เท่าของคนที่ไม่กลัว แปลว่าความกลัวมันเป็นตัวขยาย ตัวทวีคูณค
28/08/2023 • 28 minutes 32 seconds 25660716pm--ฝึกใจด้วยสิ่งที่ไม่ถูกใจ
16 ก.ค. 66 - ฝึกใจด้วยสิ่งที่ไม่ถูกใจ : ความไม่สะดวกสบายสามารถเป็นตัวกวน กวนจิตกวนใจให้เกิดอารมณ์บางอย่างเกิดขึ้นมา อาจจะรวมถึงความกลัวด้วย กลัวเพราะว่า อยู่ในที่เปลี่ยว อันนี้มันก็เป็นแบบฝึกหัดให้เราได้เจริญสติ คือรู้ทันมัน อาจจะไม่ใช่แค่ความสะดวกสบาย อาจจะเป็นคำติฉินนินทา คำวิจารณ์ เวลาได้ยินคำเหล่านี้ ก็จะเกิดความไม่พอใจ แต่ถ้าเราฉลาด เราก็จะเอาความไม่พอใจมาเป็นแบบฝึกหัดในการเจริญสติคือรู้ทัน หัดมาดูใจ เห็นความไม่พอใจเกิดขึ้นเมื่อมีเสียงต่อว่ามากระทบหู ตัวกวนนี้คือเสียงวิจารณ์ เสียงต่อว่า ซึ่งมีประโยชน์ต่อการฝึกจิตของเรา
บางทีบางคนพูดไม่ถูกหู หรือว่าเขาพูดไม่ถูกใจเรา เพราะเขามีความคิดความเห็นต่างจากเรา เราได้ยินก็ขุ่นมัว ถ้าเราไว เราก็จะเห็นความขุ่นมัวที่เกิดขึ้นในใจ แล้วเดี๋ยวนี้เคนก็ติดโซเชียลมีเดียเฟซบุ๊กนี้มีข้อความบางข้อความที่เราอ่านแล้วไม่พอใจ เพราะมีความคิดทางการเมืองต่างจากเรา หลายคนก็ใช้วิธีบล็อกเลย เพราะว่าทนไม่ได้ที่เห็นข้อความที่มันไม่ถูกใจเรา
แต่ถ้ามองให้ดี การที่มีข้อความแบบนี้แหละที่สามารถจะเอามาใช้ฝึกใจเราได้ ไม่ต้องบล็อกก็อ่านซะเลยแล้วก็เห็นควา
27/08/2023 • 29 minutes 30 seconds 25660715pm--เพราะคาดหวังจึงเป็นทุกข์
15 ก.ค. 66 - เพราะคาดหวังจึงเป็นทุกข์ : การภาวนาเพื่อจะดับระงับ เช่นความคิดฟุ้งซ่าน มันไม่ดีเท่ากับการภาวนาเพื่อที่จะยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้น ด้วยการรู้ซื่อๆ รู้โดยไม่ผลักไสไม่ไหลตาม ไม่ใช่เพราะคาดหวังให้มันหายไป แต่เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน และดูมัน เห็นมันไม่เข้าไปเป็นมัน เรียกว่าการรู้ซื่อๆ อันนี้ใช้สติในการที่จะอยู่กับมัน หรือมิฉะนั้นก็ใช้ปัญญา คือเห็นว่ามันเป็นเช่นนั้นเองๆ เห็นว่าเป็นธรรมดา
ฉะนั้นถ้าจะภาวนา ภาวนาเพื่อเห็นไม่เข้าไปเป็น จะดีกว่า ภาวนาเพื่อที่จะยอมรับหรืออยู่กับมันด้วยการรู้ซื่อๆ ดีกว่าคาดหวังว่าทำแล้วมันจะไม่ฟุ้งซ่าน มันจะไม่มีทุกขเวทนา เพราะถ้าทำอย่างนั้น วางใจแบบนั้น มันจะเกิดความคาดหวัง แล้วความคาดหวังนี่แหละที่มันจะย้อนกลับมาทำร้ายเรา
แต่ถ้าเราเรียนรู้ที่จะเผชิญกับสิ่งต่างๆ โดยไม่คาดหวังว่ามันจะต้องหายไป มันอยู่ ก็อยู่ เราก็เรียนรู้ดูมันไป เห็นมันเป็นธรรมดา แบบนี้ยากนะ ไม่ใช่ง่าย แต่ว่ามันจะเป็นหลักประกันว่าการภาวนานี่มันจะไม่ก่อผลในทางลบ เพราะว่าถ้าภาวนาผิด มันก็สร้างทุกข์ให้กับเราได้มาก เหมือนกับหญ้าคาถ้าจับไว้ไม่ดีมันก็บาดมือ การภาวนาถ้าทำ
22/08/2023 • 27 minutes 31 seconds 25660707pm--ปล่อยวางได้ ใจเป็นสุข
7 ก.ค. 66 - ปล่อยวางได้ ใจเป็นสุข
21/08/2023 • 42 minutes 50 seconds 25660706pm--อย่าให้ความคิดลบครอบงำใจ
6 ก.ค. 66 - อย่าให้ความคิดลบครอบงำใจ : นิสัยจำนวนไม่น้อยมีอำนาจครองใจเราได้ จนเราไม่สามารถจะกระดิกกระเดี้ยไปได้เลย เพราะว่าเราคอยให้อาหารมัน คล้อยตามมันตลอดเวลา แต่ถ้าเรารู้จักแข็งขืนมันบ้าง มันชอบเป็นห่วงคนนั้นคนนี้ก็ลองไว้วางใจเขาบ้าง ไม่ต้องไปโทรศัพท์ไถ่ถามเขาทุกวันทุกคืน ฝึกไว้วางใจเขา ต่อไปนิสัยขี้เป็นห่วงก็จะ ลดลง
บางคนมีนิสัยชอบโกรธ ก็ต้องฝึกมีเมตตากับเขาบ้าง แผ่เมตตาให้เขาบ่อยๆ หรือมองเขาในทางบวกบ้าง เพราะไม่งั้นความโกรธนี้มันจะครองใจเราจนอาจจะถึงวันตายเลย โกรธกราดเกรี้ยวกับทุกอย่างทุกสิ่ง แม้กระทั่งในยามที่ตัวเองย่ำแย่ โกรธใครไม่ได้ก็โกรธตัวเอง โกรธชะตากรรม หาเรื่องโกรธ หาเหยื่อที่โกรธไปเรื่อยๆ ต้องรู้จักเปลี่ยนนิสัย ดัดนิสัย ให้มามีความเมตตาเผื่อแผ่มีน้ำใจบ้าง
20/08/2023 • 25 minutes 12 seconds 25660705pm--ชีวิตสมบูรณ์แบบ
5 ก.ค. 66 - ชีวิตสมบูรณ์แบบ : ถ้ามองให้ดี ชีวิตสมบูรณ์แบบที่ท่านอาจารย์พุทธทาสแยกเป็น 4 ระยะ จริงๆ มันไม่ใช่ 4 ระยะเท่านั้น มันเป็นกิจกรรม 4 ประเภทที่คนเราควรจะมี เป็นกิจกรรม 4 ประเภทที่คนเราควรจะทำ เพียงแต่ว่าอาจจะเน้นหนักแตกต่างกันในแต่ละวัย แต่ก็ไม่ควรจะทำแต่งานใดงานหนึ่งแล้วก็ทิ้งงานอื่น เพราะว่าแต่ละงานก็สำคัญ ถ้าทำให้ครบถ้วน ก็จะได้เข้าถึงชีวิตที่ดีงามคือสงบเย็นและเป็นประโยชน์ ถึงพร้อมทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน
ที่จริงสงบเย็นและเป็นประโยชน์ เป็นหัวใจของชีวิตที่ดีงามในพุทธศาสนาเลยทีเดียว มันสะท้อนให้เห็นจากพุทธคุณ พุทธคุณจะมี 2 อย่างที่สำคัญคือ ปัญญาและกรุณา ปัญญาคือการเข้าถึงความจริงอย่างลึกซึ้ง ถ้าเข้าถึงอย่างแจ่มแจ้ง ก็จะพบว่ามันไม่มีอะไรที่ยึดมั่นถือมั่นได้ แล้วเมื่อจิตปล่อยวางสิ่งทั้งปวง สิ่งที่เกิดขึ้นคือความสงบ สงบชนิดที่ว่าพ้นจากกิเลสเลยทีเดียว อันนั้นคือนิพพาน อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า สุขอื่นเหนือความสงบไม่มี แล้วความสงบที่ว่าคือนิพพานนั่นเอง
เพราะฉะนั้นปัญญาทำให้เข้าถึงความสงบเย็น พอความสงบเย็นเกิดขึ้นเพราะไม่มีกิเลส ก็หมายถึงความเห็นแก่ตัวไม่หลง
19/08/2023 • 24 minutes 39 seconds 25660704pm--เวลาใดเหมาะกับการปฎิบัติธรรม
4 ก.ค. 66 - เวลาใดเหมาะกับการปฎิบัติธรรม : ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ ตราบใดที่ยังทำกิจต่างๆ นั่นแหละคือเวลาสำหรับการปฏิบัติ เวลาสำหรับการเจริญสติ เวลาสำหรับการทำความรู้สึกตัว ทำอะไรก็รู้ว่าทำ เมื่อทำด้วยกายก็รู้สึกหรือเห็นกายเคลื่อนไหว เมื่อเจออะไร มีการกระทบเกิดขึ้น ก็เห็นความคิดนึกที่มันเกิดขึ้นหรือมันปรุงแต่งขึ้นมา แล้วควรถือว่าสิ่งที่มากระทบมันคือแบบฝึกหัดอย่างดี มันไม่ใช่เป็นโอกาสของการเอาธรรมะมาใช้เท่านั้น แต่มันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการฝึกให้มีธรรมะ ฝึกให้มีสติ หรือฝึกจิต
มันจะไม่มีการบ่น ไม่มีการโวยวายตีโพยตีพายว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทำไมเขาทำกับเราแบบนี้ มันจะไม่มีการบ่นแบบนี้ แต่ว่าจะมีการพร้อม พร้อมที่จะเอาธรรมะมาใช้โดยเฉพาะสติ มารู้ทันความคิด มารู้ทันอารมณ์ ยิ่งมีการกระทบเท่าไหร่ จะไม่มัวแต่ส่งจิตออกนอก หรือว่าปล่อยให้ความโกรธแค้น ความโศกเศร้ามันครอบงำใจ แต่กลับมาดูอารมณ์เหล่านั้นที่มันเกิดขึ้น ไม่ปล่อยให้มันครองใจ
เพราะฉะนั้นถ้าเราตระหนักว่าทุกเวลาที่เหมาะกับการปฏิบัติธรรมคือทุกวัน ทุกนาที เราก็จะไม่มีวินาทีหรือเวลาที่สูญเปล่า แต่ละนาทีจะมีค่า เป็นทั้
18/08/2023 • 25 minutes 46 seconds 25660703pm--ทุกข์หลุดเพราะวาง
3 ก.ค. 66 - ทุกข์หลุดเพราะวาง : การเจริญสตินี่เราสามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าทำอะไรก็เจริญสติได้ แล้วเวลาเราเจออะไรมากระทบมีอารมณ์เกิดขึ้น มันก็ฝึกสติให้รู้ทันอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทบนั้น ตลอดทั้งวัน เราเจอสิ่งกระทบเยอะแยะ มีอารมณ์เกิดขึ้นมากมาย บางทียินดียินร้าย บางทีใจฟูใจแฟบ พวกนี้เป็นแบบฝึกหัดการเจริญสติได้ทั้งนั้น ทำอะไรใจก็รู้ รู้กาย เจออะไรก็รู้ว่ามีอารมณ์เกิดขึ้น ใจฟูใจแฟบ ใจแกว่งไปแกว่งมาก็รู้ แค่นั้นเอง
การรู้อย่างนี้ทำมากเข้า มากเข้า จะทำให้เกิดพลังในการปล่อยการวาง วางอะไร วางความคิดที่ทำให้ทุกข์ วางอารมณ์ที่ทำให้ทุกข์ ทุกข์มีเพราะยึด ทุกข์หลุดเพราะปล่อย จะปล่อยได้ไม่ใช่เกิดจากความอยากจะปล่อย มันต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือนั่นคือสติ ความรู้สึกตัวเป็นเบื้องต้น ทำได้ชีวิตประจำวัน
แต่อย่าใจร้อน ต้องให้เวลากับมันเหมือนกับที่เราให้เวลากับอะไรต่ออะไรมากมาย รวมทั้งเวลาในการดูหนังฟังเพลง เวลาในการเที่ยว เราให้เวลากับสิ่งพวกนี้ไม่อั้น แต่เวลาที่จะช่วยทำให้เราหลุดจากทุกข์จริงๆ กลับไม่ยอมให้เวลากับมันเท่าที่ควร เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เลยต้องจมอยู่กับความทุกข์เรื่อยไป จนก
17/08/2023 • 22 minutes 34 seconds 25660702pm--สวดมนต์ให้ได้ธรรม
2 ก.ค. 66 - สวดมนต์ให้ได้ธรรม : จะเห็นได้ว่า การสวด สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความหมาย แล้วก็วางใจให้ถูก อย่าทำตามรูปแบบ คนเดี๋ยวนี้ เวลาปฏิบัติไปเน้นที่รูปแบบมากกว่าตัวเนื้อหาสาระ และไม่ใช่เฉพาะเรื่องการสวดมนต์นะ แม้แต่เรื่องการปฏิบัติธรรม คนจำนวนมากก็ไปเน้นที่รูปแบบ เช่นเวลาพูดถึงการนั่งสมาธิหรือการฝึกสติ ก็นึกถึงการหลับตาตามลมหายใจ การนั่งนิ่งๆ ก็คิดได้เพียงเท่านี้
หรือถ้ามาพูดถึงการเจริญสติ หลายคนก็นึกถึงการสร้างจังหวะ เดินจงกรม แล้วเวลาจะเจริญสติก็นึกถึงแต่เรื่องการยกมือสร้างจังหวะ ทั้งๆ ที่การยกมือสร้างจังหวะนี้มันก็เป็นแค่รูปแบบ ถ้าจับเนื้อหาสาระได้หรือวางใจถูก ไม่ต้องยกมือก็ได้ คลึงนิ้ว พลิกมือไปพลิกมือมา หรือแม้กระทั่งเวลาทำกิจต่างๆ ที่มีการใช้มือ มีการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ ถูฟัน กินข้าว ซักผ้า ทำครัว หั่นผัก ก็เป็นการปฏิบัติได้
หลายๆ คนไม่เข้าใจ เวลาจะเจริญสติ เอะอะอะไรก็จะยกมืออย่างเดียว ซึ่งบางทีทำให้เกิดความเข้าใจผิด เช่นอยู่บนรถเมล์ก็ยกมือสร้างจังหวะ เพราะคิดว่าคือการเจริญสติ ความตั้งใจก็ดีนะ คืออยากจะเจริญสติในขณะที่อยู่บนรถเมล์ ไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่
25660701pm--ขับเคลื่อนชีวิตด้วยพลังบวก
1 ก.ค. 66 - ขับเคลื่อนชีวิตด้วยพลังบวก : ใช้ความรักความเมตตาเป็นแรงผลัก ก็นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ดีงามโดยที่สูญเสียเลือดเนื้อน้อย อย่างเนลสัน แมนเดลา ก็ใช้ความรักความเมตตาที่ทำให้แอฟริกาใต้มีการรังเกียจเหยียดผิวน้อยลง มีการเคารพศักดิ์ศรีของคนสีผิวได้มากขึ้น รวมทั้งมาร์ติน ลูเธอร์ คิง ซึ่งใช้ความรักในการทำให้การเหยียดผิวลดน้อยลง ถ้าเราใช้ความรักความเมตตา หรือว่าความห่วงใยต่อเพื่อนมนุษย์เป็นแรงผลัก ก็จะทำให้เกิดสิ่งดีๆ ได้มาก
นอกจากนั้นสติก็สำคัญ สติก็เป็นแรงผลักได้ เวลาเราเกียจคร้าน ไม่อยากจะทำอะไร สติก็สามารถจะขับเคลื่อนให้เราเกิดความขยันขันแข็งขึ้นมา มันเป็นแรงผลักที่ดีกว่าความโกรธ หลายคนพอมีความโกรธเป็นแรงผลัก บางทีห้ามใจตัวเองไม่ได้ ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เพราะว่าความโกรธครองใจ ไม่ว่าจะเป็นการใช้คำพูดและการกระทำที่นำไปสู่ความรุนแรง ถ้าเราใช้ความโกรธเป็นแรงผลัก ถึงจุดหนึ่งเราก็ไม่สามารถคุมตัวเองได้
แต่ถ้าเราใช้สติเป็นแรงผลัก อันนี้เป็นสิ่งที่ปลอดภัยกว่า และยังสามารถจะทัดทานไม่ให้ความโกรธมาครองใจเราได้ คนเราเวลาโกรธแล้ว มันอยากจะทำอะไรหลายอย่างที่เป็นผลร้ายกับ
15/08/2023 • 26 minutes 13 seconds 25660627pm--เป็นสุขในยามแก่ชรา
27 มิ.ย. 66 - เป็นสุขในยามแก่ชรา
14/08/2023 • 52 minutes 15 seconds 25660626pm--ฟังให้ได้ธรรม
26 มิ.ย. 66 - ฟังให้ได้ธรรม : เวลามีคำพูดอะไรที่กระทบใจให้เกิดความไม่พอใจ หรือเกิดความสงสัย พอมันเกิดความสงสัย ใจมันก็จะวนอยู่ตรงนั้นแหละ มันไม่ไปไหน หรือบางทีคำพูดบางอย่าง คำพูดบางประโยค มันทำให้ไปนึกถึงเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมา ใจเราก็จะไปวนเวียนอยู่กับเหตุการณ์เหล่านั้น จนกระทั่งไม่รู้ว่า ผู้พูดพูดไปถึงไหนแล้ว ตรงนี้เราก็ฝึกให้มีสติรู้ทัน รู้ทันใจที่มันกำลังวนเวียนอยู่กับข้อความที่เป็นอดีตไปแล้ว ให้หลุดจากอดีตกลับมาอยู่กับปัจจุบัน
เพราะบางทีมันมีความสงสัย จริงหรือเปล่า ไม่ใช่มั้ง เสร็จแล้วก็คิดวนเวียนอยู่ตรงนี้ ทั้งที่ผู้พูดพูดไปไกลแล้ว อันนี้เรียกว่าไม่มีสติเหมือนกัน มันไปจมอยู่กับความสงสัย เราก็ต้องรู้ว่า ตอนนี้ใจมันมีภาวะอะไร มันกำลังจมอยู่กับบางข้อความ เราต้องหลุดออกจากความสงสัย หรือความไม่พอใจนั้น เพื่อที่จะตามคำพูด หรือเนื้อความของผู้พูดไปได้อย่างต่อเนื่อง นี่ก็เป็นการปฏิบัติเหมือนกัน
รวมไปถึงแม้กระทั่งมีเสียงแทรก เสียงโทรศัพท์มือถือดัง เสียงหมาเห่า เสียงคนคุยอยู่ข้างล่าง บางคนจะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเลย คนที่หงุดหงิดอาจจะเป็นทั้งผู้พูดและผู้ฟังด้วย ส่วนผู้ฟังเวลาหงุดห
13/08/2023 • 24 minutes 39 seconds 25660625pm--รู้ทันความคิดที่ไม่ได้รับเชิญ
25 มิ.ย. 66 - รู้ทันความคิดที่ไม่ได้รับเชิญ : ความคิดถ้าเกิดขึ้นแล้วเรารู้ทัน มันทำอะไรเราไม่ได้ แถมเราได้ประโยชน์จากมันด้วย ทำให้เรารู้ว่า เรายังมีความคิดแบบนี้อยู่ เรายังมีมุมมองแบบนี้อยู่ ก็ทำให้เราระมัดระวัง เพราะแม้เราจะปฏิบัติตนดีอย่างไร บางทีมันมีความคิดที่ไม่ดีเกิดขึ้น ความอิจฉา ความคิดร้ายต่อเพื่อน บางทีมันมีความคิดตำหนิพ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลายคนไม่รู้ เพราะไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้เท่าทัน ทั้งที่มันมี แต่ไม่รู้ ไม่เห็น
แต่ถ้าเกิดเมื่อไหร่ก็ตามที่มันเกิดขึ้นแล้วเราเห็น อย่างน้อยเราก็รู้ว่ามันมีความคิดแบบนี้ เราก็จะได้รู้ว่า เราก็ไม่ได้เป็นคนวิเศษวิโส เราก็ยังเป็นปุถุชน แต่ขณะเดียวกันเราก็พยายามรักษาใจเรา ไม่ให้ความคิดเหล่านี้ครอบงำ ก็เรียกว่าได้ประโยชน์จากความคิดเหล่านี้ ที่จะทำให้เราหันมาพัฒนาตนให้มากขึ้น ด้วยความไม่ประมาท ด้วยความรู้เท่าทันกิเลสในใจ
12/08/2023 • 26 minutes 26 seconds 25660624pm--อย่ายึดมั่นความถูกต้องจนไร้เมตตา
24 มิ.ย. 66 - อย่ายึดมั่นความถูกต้องจนไร้เมตตา : ความยึดมั่นในความถูกต้อง มันสามารถนำไปสู่การมีความรู้สึกที่สวนทางกับธรรมะได้ คือขาดเมตตา และเดี๋ยวนี้เราก็เห็นบ่อย ที่จริงมันก็เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ถ้าใครที่ผิดอะไรสักอย่าง เช่น มีเชื้อชาติที่ผิด มีศาสนาที่ผิด มีความเห็นที่ผิดในสายตาของเรา ก็พร้อมที่จะทำร้ายเขาได้ อย่างเช่นพวกนาซี พวกเยอรมันเห็นว่าพวกยิวเป็นพวกที่มีเชื้อชาติที่ผิด มีชาติพันธุ์หรือว่าเชื้อชาติผิด ก็สมควรกำจัดออกไปจากโลกนี้
คนที่เคร่งศาสนามากๆ ถ้าเห็นใครที่นับถือศาสนาผิดนิกายในสายตาของตัวก็ฆ่าได้ แม้ว่าจะเป็นศาสนาเดียวกันอย่างเช่น ชีอะห์กับสุหนี่ฆ่ากันแบบเข้มข้นมากเลยเพราะว่าอีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าพวกแกนับถือผิดศาสนา ผิดนิกาย พอผิดแล้วมีสิทธิ์เป็นศูนย์ สิทธิ์แม้กระทั่งการมีชีวิตในโลกนี้ หรือว่ามีความคิดผิดระบอบก็ต้องกำจัด
อันนี้รวมถึงอุดมการณ์ทางการเมืองด้วย เดี๋ยวนี้บ้านเมืองเรามีความคิดเห็นแตกต่างทางการเมืองมาก แล้วพอไปยึดมั่นความถูกต้องของความคิดตัวเอง ใครที่คิดผิดจากของตัวก็เห็นเป็นคนเลวร้าย ต้องกำจัด มันไม่มีความเมตตาเหลือ แล้วคนที่คิดแบบนี้ก็เป็นค
11/08/2023 • 28 minutes 1 second 25660623pm--ความเข้าใจผิดของนักปฎิบัติ
23 มิ.ย. 66 - ความเข้าใจผิดของนักปฎิบัติ : ก็เลยเกิดความเครียดหนักจนถึงกระทั่งจิตสลาย เสียศูนย์ หรือซึมเศร้าไปเลย เป็นกันเยอะนะ ยิ่งนักปฏิบัติด้วยแล้ว หลายคนการจะอนุญาตหรือยอมให้ความคิดมันเกิดขึ้นได้ อารมณ์เกิดขึ้นได้ นี่ไม่ยอมนะ อาจจะเรียกว่าติดดีก็ได้ หรือว่าไปเกิดความเข้าใจผิดๆ ว่าปฏิบัตินี่มันต้องดับความคิด
ก็ต้องตั้งหลักเสียใหม่ ทำใจให้ถูก ยอมให้มันเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความคิดใด บวกหรือลบ อารมณ์ดีหรืออารมณ์ที่ไม่ดี กุศลหรืออกุศล แล้วพอมันเกิดขึ้นแล้วก็ไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน ก็แค่ดูมันเฉยๆ วิธีนี้แหละจะทำให้สติค่อยๆ โตไว แล้วความรู้สึกตัวก็ค่อยๆ เพิ่มพูนขึ้น
เพราะฉะนั้นการปฏิบัติ ให้ทำความเข้าใจให้ดี ว่าเราไม่ปฏิบัติเพื่อดับความคิด แต่เพื่อให้รู้ทันความคิด ความคิดมันเป็นบ่าวที่ดี แต่เป็นนายที่เลว มันไม่ใช่เป็นสิ่งที่เลวร้ายไปหมด อยู่ที่ว่าเราจะเกี่ยวข้องกับมันอย่างไร ใช้มันให้ถูกมันก็เกิดประโยชน์ และสำหรับการปฏิบัติเพื่อเจริญสติ เป็นวัตถุดิบที่จำเป็นมากเลย
10/08/2023 • 25 minutes 41 seconds 25660622pm--รักษาใจอย่าให้สติแตก
22 มิ.ย. 66 - รักษาใจอย่าให้สติแตก : ถ้าเราครองสติได้ดี เจอเหตุร้าย สติไม่แตก ตั้งสติครองตนได้ สิ่งที่เรียนมาสิ่งที่รู้มามันก็เอานำมาใช้ รับมือกับสิ่งต่างๆ รับมือกับปัญหาได้ หรืออย่างน้อยก็ไม่ถูกอารมณ์ครอบงำ ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความเศร้า รวมทั้งเวทนาด้วย ต้องฝึกสติเพื่อที่จะรับมือกับทุกขเวทนาที่เกิดขึ้น
แต่ถ้าเกิดว่ารับมือกับอารมณ์ได้ เวลาเจอทุกขเวทนา มันก็ยังพอไหวอยู่ แต่ถ้าไม่มีสติเท่าทันอารมณ์ พอเจอทุกขเวทนาเข้า มันก็เกิดความคับแค้น เกิดความหงุดหงิด เกิดความไม่พอใจ เกิดความกลัวท่วมท้นเลย ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้นในเวลาที่เราไม่ป่วย
ฝึกสติเอาไว้ในขณะที่เรามีเวลา ในขณะที่เรายังมีสุขภาพดี แม้บางครั้งจะมีความเกียจคร้าน หรือมาคิดว่าฉันเอาอยู่ ทำไมต้องมาฝึกให้มันมากกว่านี้ ไอ้ที่คิดว่าเอาอยู่เป็นเพราะว่ายังไม่เจอของจริง เป็นเพราะว่ายังเป็นคนเดิมอยู่ ถึงเวลามันกลายเป็นอีกคนไปแล้ว ถึงตอนนั้นถ้าไม่มีสติเอาไว้รับมือ คนใหม่ก็จะกลายเป็นคนที่หมดความสามารถ แต่ถ้ามีสติ เราก็ยังอาจจะเป็นคนเดิมได้ที่รู้ว่าจะรับมือเหตุร้ายอย่างไร
เพราะฉะนั้นอย่าประมาท มีเวลาก็ฝึกเจริญสติ แม้ว่ามันจะมีควา
09/08/2023 • 25 minutes 50 seconds 25660621pm--สร้างนิสัยใหม่ให้ใจ
21 มิ.ย. 66 - สร้างนิสัยใหม่ให้ใจ : นิสัยตื่นรู้ นิสัยที่รู้ทันความคิดได้ไว รู้ทันอารมณ์ได้เร็ว ถ้าเราฝึกสติจนเป็นนิสัย ทำความรู้สึกตัวจนเป็นนิสัย ไม่ว่าทำอะไร ตื่นเช้าขึ้นมาเราก็ทำความรู้สึกตัว แม้ว่ามันจะหลงเป็นส่วนใหญ่ แต่พอทำไปเรื่อยๆทำไปเรื่อยๆ ความรู้สึกตัวก็จะเพิ่มขึ้นๆๆ จนเป็นใหญ่เหนือความหลง โดยเฉพาะหลงคิดหรือหลงเข้าไปในอารมณ์
ถ้าเรามีนิสัยใหม่แบบนี้ มันจะช่วยทัดทานไม่ให้นิสัยในทางลบทางร้ายหรือนิสัยที่ถูกครอบงำด้วยอวิชชาหรือกิเลสมันเข้ามาบงการจิตใจเราได้ ไม่เช่นนั้นพอเราแก่ตัวลงไป สติเราเริ่มอ่อน นิสัยพวกนี้มันจะครอบงำใจเรา มันจะเป็นสะพานอารมณ์ต่างๆเข้ามา มาบงการชีวิตจิตใจของเรา จนเราไม่ต่างจากซอมบี้เลย ทำอะไรโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว สะสมข้าวของโดยไม่รู้ตัวอยู่นั่นแหละ โวยวายตีโพยตีพาย หรือว่ามองลบมองร้าย หรือว่าบางคนเป็นเจ้าคิดเจ้าแค้น ถอนใจออกจากอารมณ์เหล่านี้ไม่ได้
แต่จริงๆไม่ต้องรอให้แก่ บางคนแค่วัยกลางคนหรืออายุไม่มากก็ถูกนิสัยพวกนี้ฝังรากลึก นิสัยพวกนี้บางทีเขาเรียกว่าสันดาน ซึ่งมันมีแต่ทำความทุกข์ให้จิตใจของเรา หรือบางทีก็ทำให้ชีวิตของเราย่ำแย่ด้วย ตัวเอง
08/08/2023 • 26 minutes 7 seconds 25660620pm--ทุกข์ห่างไกล ถ้าวางใจเป็น
20 มิ.ย. 66 - ทุกข์ห่างไกล ถ้าวางใจเป็น : ถ้าเราสามารถเห็นสิ่งต่างๆตามความเป็นจริง หรือว่าเริ่มต้นจากการที่เห็นสิ่งต่างๆแบบซื่อๆตรงๆ ไม่เข้าไปผลักไส หรือไขว่คว้าซึ่งเป็นการปรุงแต่งอย่างหนึ่ง ต่อไปมันก็ไม่ใช่แค่เห็นกายว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่ใช่แค่เห็นลมที่เข้าออก ไม่ใช่เห็นแค่มือที่พลิกไปมา ต่อไปมันจะเห็นเวทนาที่เกิดขึ้นกับกายด้วย เห็นเวทนาโดยที่ไม่ไปยึด ไปเกาะ หรือผลักไสเวทนา
มันก็คือ เห็นความปวดไม่เป็นผู้ปวดซึ่งยากมาก แต่เห็นความโกรธไม่เป็นผู้โกรธ เห็นความเครียดไม่เป็นผู้เครียด ยังง่ายกว่าเห็นความปวดแต่ไม่เป็นผู้ปวด แต่ถ้าเราฝึกเอาไว้ มันก็จะช่วยได้
แต่แน่นอนการเปลี่ยนการรับรู้มันก็ช่วยได้ สำหรับคนที่กำลังเจ็บปวดเพราะน้ำร้อนลวก บางคนพอคิดถึงหิมะคิดถึงน้ำเย็น มันก็ช่วยลดความปวดได้ ปวดแสบปวดร้อน แต่ถ้าเราจะทำได้ดีกว่านั้น เห็นมัน เห็นความปวด มันก็จะหลุดจากความปวดนั้นได้ กายยังปวดอยู่แต่ใจไม่ปวด ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ช่วยจิตช่วยกายได้มากทีเดียว
07/08/2023 • 28 minutes 46 seconds 25660619pm--เปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นรู้
19 มิ.ย. 66 - เปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นรู้ : การรู้จักเปลี่ยนสิ่งกระทบ ไม่ว่าเกิดขึ้นที่กายหรือที่ใจ ให้เป็นตัวรู้นี่สำคัญมาก แล้วเราทุกคนก็ต้องหมั่นเป็นนักศึกษา เอาสติเป็นนักศ ึกษา เอากายและใจเป็นตำรา และต่อไปไม่ใช่กายและใจอย่างเดียว โลกภายนอกด้วย รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส พวกนี้ก็เป็นตำราได้
มันสอนให้เห็นว่าไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอนเลย กายกับใจก็ไม่แน่นอน เหตุการณ์ภายนอกก็ไม่แน่นอน มีขึ้นมีลง มีได้มีเสีย เป็นความรู้ เป็นของดีทั้งนั้นเลย มันจะไม่มีคำว่าถูก มีแต่ว่าได้กำไร ไม่มีคำว่าขาดทุน เพราะว่ารู้จักเปลี่ยน ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับกายและใจ ตลอดจนรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เปลี่ยนให้เป็นรู้ให้หมด มันก็จะกลายเป็นของดี มีประโยชน์
06/08/2023 • 24 minutes 26 seconds 25660618pm--จะปล่อยวางหรือปล่อยใจ
18 มิ.ย. 66 - จะปล่อยวางหรือปล่อยใจ : บางคนไม่ต้องรอจนแก่เพราะโดนอารมณ์ครอบงำ เช่นความซึมเศร้า พอปล่อยใจไปตามความซึมความเศร้าอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งมันมีอำนาจมีกำลัง ถึงตอนนั้นแม้จะรู้ว่าปล่อยวางมันดี แต่ปล่อยไม่ได้ คนที่ชอบสะสมทรัพย์ เก็บข้าวเก็บของ บางทีก็รู้ว่ามันน่าจะปล่อย แต่ปล่อยไม่ได้ คนที่เจ้าอารมณ์ รู้นะว่าโกรธไม่ดี เพราะว่ามันร้อนรุ่มใจเหลือเกิน แต่ว่ามันปล่อยไม่ได้ อันนี้เพราะอะไร เพราะไม่รู้จักปล่อยวาง แต่ว่าเอาแต่ใจไปตามอารมณ์ แล้วคนเดี๋ยวนี้ก็ไม่คิด ไม่นึกเลยที่จะเรียนรู้การปล่อยการวางเพราะว่าปล่อยใจไปตามอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นเวลาถูกยั่วยุหรือว่ามีสิ่งเย้ายวน
อันนี้คือสิ่งที่เราต้องตระหนัก ถ้าเราไม่ฝึกปล่อยวางอยู่เรื่อยๆ ปล่อยวางความคิด ปล่อยวางอารมณ์ด้วยการมีสติรู้ทัน ด้วยการมีความรู้สึกตัว ฝึกทักษะในการรู้ซื่อๆ มันก็จะลงเอยด้วยการปล่อยใจไปตามอารมณ์ แล้วสุดท้ายอารมณ์ก็เข้ามาครอบงำ จนกระทั่งมันกลายเป็นนายเหนือเรา แล้วก็ไม่เป็นผู้เป็นคนต่อไป
โดยเฉพาะเมื่อถึงเวลาที่แก่ตัว หรือเวลาที่สติอ่อน เพราะว่าความเจ็บความป่วยหรือเวลามีความสูญเสียเกิดขึ้น มีอะไรมากระทบเ
05/08/2023 • 27 minutes 50 seconds 25660613pm--จะเลือกสุขหรือเลือกทุกข์
13 มิ.ย. 66 - จะเลือกสุขหรือเลือกทุกข์
04/08/2023 • 51 minutes 51 seconds 25660610pm--ยามสุขคือเวลาเหมาะสำหรับการฝึกตน
10 มิ.ย. 66 - ยามสุขคือเวลาเหมาะสำหรับการฝึกตน : เวลาเจออะไรที่ไม่ถูกใจ ก็ถือว่าเป็นบทเรียนในการฝึกตน เช่น เจอรถติด แทนที่จะบ่นโวยวาย ก็เอามาเป็นแบบฝึกหัดในการฝึกจิตไม่ให้ตก ทำอย่างไรรถติด จิตไม่ตก เวลาเพื่อนเขานินทา หรือว่าวิจารณ์เรา ทำยังไงใจถึงจะไม่ทุกข์ นัดเพื่อนมาแล้วเพื่อนไม่มาตามนัด ทำยังไงใจจะไม่วิตกกังวล ไม่ร้อนรุ่ม
มันไม่ใช่ฝึกเฉพาะมาปฏิบัติธรรมในวัด ในคอร์สต่างๆ เท่านั้น ถึงแม้เพียงนั้นหลายคนก็ไม่ได้เห็นความสำคัญ หรือแม้จะเห็นความสำคัญ เท่านั้นยังไม่พอนะ มันต้องฝึกจากชีวิตประจำวัน ฝึกจากความทุกข์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน แม้จะเป็นความทุกข์เล็กๆ น้อยๆ แต่เราก็รู้จักรักษาใจ ไม่ให้จิตใจกราดเกรี้ยว โกรธ โมโห หงุดหงิด
คนส่วนใหญ่ไม่เห็นอย่างนั้น กลับไปมองว่า ในเมื่อชีวิตฉันยังสุขสบาย ยังหนุ่มยังสาว มีเงินมีทอง ก็ปรนเปรอตนด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก หรือสิ่งเสพมากมาย เห็นคนอื่นเขาปฏิบัติธรรมก็กลับบอกว่าจะปฏิบัติทำไม ฉันยังไม่ทุกข์อะไรเลย อันนี้เป็นนิสัยของคนประมาท ที่จริงแล้วยิ่งสุขสบายเท่าไร ตอนนี้ยิ่งเป็นโอกาสดี โอกาสเหมาะสำหรับการฝึกตน เพื่อให้พร้อมสำหรับความทุกข์
03/08/2023 • 27 minutes 1 second 25660609pm--เป็นอิสระได้เมื่อวางใจเป็นกลาง
9 มิ.ย. 66 - เป็นอิสระได้เมื่อวางใจเป็นกลาง : ถ้าเราไม่มีอุเบกขาต่อสิ่งที่มากระทบ สิ่งที่กระทบมันจะกลายเป็นสิ่งเร้าสิ่งกระตุ้นทันทีเลย ที่กระตุ้นให้ทุกข์ ให้โกรธ ให้รำคาญ ให้หงุดหงิด ให้โวยวายตีโพยตีพาย หรือลงไม้ลงมือ แต่ถ้าเรามีอุเบกขา ด้วยอำนาจของสติ สิ่งที่กระทบมันจะไม่ใช่สิ่งเร้าแล้ว มันจะเป็นสิ่งที่ถูกรู้ถูกเห็นเฉยๆ แค่นั้นแหละ ถูกรู้ถูกเห็น แต่ว่าไม่สามารถที่จะทำให้เราทุกข์ หรือว่าบังคับให้เราทำโน่นทำนี่ ตีโพยตีพาย หรือผลักไสให้เราไปทะเลาะเบาะแว้งกับใคร
เราสามารถจะเป็นอิสระจากสิ่งที่มากระทบได้ ถ้าเรารู้จักวางใจเป็นกลางต่อสิ่งต่างๆ เริ่มตั้งแต่ความคิดและอารมณ์ที่มันเกิดขึ้น เริ่มที่ตรงนี้คืออารมณ์ภายใน หรืออายตนะที่ชื่อว่าธรรมารมณ์ ต่อไปรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสที่มากระทบ เราก็วางใจเป็นกลางกับมันได้ แล้วก็เป็นอิสระจากมันได้ในที่สุด
02/08/2023 • 26 minutes 22 seconds 25660608pm--พ่อแม่ทุกข์เพราะไม่เข้าใจลูก
8 มิ.ย. 66 - พ่อแม่ทุกข์เพราะไม่เข้าใจลูก : อันนี้ก็เป็นปัญหาที่คนที่เป็นพ่อเป็นแม่ต้องเข้าใจ ว่าอาจเป็นเพราะเราไปยึดติดถือมั่นกับความคาดหวังของตัวเองเกินไปไหม หรือว่าเชื่อมั่นในความถูกต้องของตัวเองหรือเปล่า ความยึดติดถือมั่นแม้จะยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ดี ก็ก่อให้เกิดโทษได้ อย่างที่หลวงพ่อเฟื่องท่านบอก ความเห็นของเราแม้จะถูก แต่ถ้ายึดเข้าไว้มันก็ผิด ความเห็นพ่อแม่อาจจะถูก แต่พอยึดมั่นถือมั่นมากก็อาจจะผิด เพราะมันนำไปสู่การกระทำที่สร้างปัญหาให้กับลูก สร้างกับปัญหาให้กับวัยรุ่น
เรื่องนี้น่าเสียดายที่พ่อแม่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ก็ยังไปโทษเด็ก คิดแต่จะไปแก้ไขเด็ก ไม่ค่อยได้หันกลับมาดูตัวเองว่าเป็นเพราะเราไปยึดมั่นถือมั่นกับความคิดของตัวเองเกินไปไหม รวมทั้งไปยึดติดกับภาพอดีตของลูก ว่าลูกจะต้องน่ารักแบบโน้นแบบนี้ ไม่ใช่เกกมะเหรกเกรเรเหมือนกับทุกวันนี้ ซึ่งมันก็เป็นการตีความของเราเอง เพราะว่าสิ่งที่ดีของพ่อแม่ อาจจะไม่ดีในสายตาของลูกก็ได้ หรือสิ่งที่ไม่ดีในสายตาของแม่พ่อ อาจจะเป็นสิ่งที่ดีในสายตาของลูกก็ได้
บางคนคิดว่าลูกไม่เป็นคนดีเลย ซึ่งอาจจะไม่ดีแบบของเรา แต่อาจจะดีแบบข
01/08/2023 • 25 minutes 18 seconds 25660607pm--เปลี่ยนสิ่งเร้าให้เป็นสิ่งถูกรู้
7 มิ.ย. 66 - เปลี่ยนสิ่งเร้าให้เป็นสิ่งถูกรู้ : ถ้าเราปล่อยให้สิ่งกระทบกลายเป็นสิ่งเร้าสิ่งกระตุ้น เราแย่นะ เราก็ถูกมันบงการ ไม่ว่าจะกระตุ้นให้อยากมี อยากได้ หรือกระตุ้นให้เกลียด อยากผลักไส อยากทำลาย คนเราเป็นทุกข์ก็เพราะการที่ปล่อยให้สิ่งต่างๆ มันเป็นสิ่งเร้าสิ่งกระตุ้น จนมันมีอำนาจเหนือเรา
เราต้องรู้จักเปลี่ยนสิ่งเร้าสิ่งกระตุ้นให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกรู้ถูกเห็น แล้วมันจะทำให้เราไม่ตกเป็นทาสของสิ่งภายนอกหรือสิ่งกระทบอีกต่อไป แถมได้ประโยชน์ด้วย อะไรเกิดขึ้นกับกายและใจ ก็ล้วนแต่มีประโยชน์ทั้งนั้น ถ้ามันกลายเป็นสิ่งถูกรู้ถูกเห็นไป เพราะมันสามารถจะแสดงสัจธรรมให้เราเห็นได้ และสัจธรรมเหล่านี้ก็ทำให้ใจเราสามารถจะเป็นอิสระจากสิ่งแวดล้อม หรือเป็นอิสระจากความทุกข์ได้
ฉะนั้น ฝึกเอาไว้ ฝึกรับรู้สิ่งต่างๆ ด้วยใจที่เป็นกลาง หรือถึงแม้ว่าจะเผลอปรุง เผลอแต่ง เผลอตัดสินให้ค่ามัน ก็รู้ มีอคติเกิดขึ้นไม่ว่าฉันทาคติ หรือโทสะคติ ก็รู้ทัน มีความโกรธเกิดขึ้น ก็รู้ทัน ถึงแม้ว่าจะห้ามใจไม่ให้ปรุงเป็นความโกรธ ปุถุชนก็ต้องมีความโกรธเกิดขึ้น แต่ว่ามันจะไม่ใช่เป็นสิ่งที่มาบงการใจเราอีกต่อไป ถ้าม
31/07/2023 • 25 minutes 19 seconds 25660605pm--ดีที่รู้ว่าหลง
5 มิ.ย. 66 - ดีที่รู้ว่าหลง : ฉะนั้นคนที่รู้สึกว่าฟุ้งเยอะ ที่จริงมันดีนะ ดีประการแรกคือดีที่รู้ว่าฟุ้ง แล้วการที่จะรู้ว่าฟุ้งได้ แสดงว่าจิตมันกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว หรือหลุดจากความฟุ้ง ถ้ามันไม่หลุดจากความฟุ้ง มันไม่รู้ตัวหรอกว่าฟุ้ง ถ้ามันไม่หลุดจากความหลง มันไม่รู้หรอกว่าเมื่อกี้นี้หลง แล้วการที่หลุดจากความหลง กลับมารู้ตัว ก็ถือว่าดี นี่ดีอย่างที่สองนะ
ดีอย่างแรกคือดีที่รู้ว่าหลง ดีที่สองคือดีที่กลับมา กลับมาเร็วกลับมาไว ดีที่สามคือว่า ยอมรับความหลง ยอมรับความฟุ้ง อันนี้ยากหน่อย เพราะว่านักปฏิบัติ พอมันหลง พอมันฟุ้ง จะทนไม่ค่อยได้ จะไม่ชอบ จะพยายามบังคับจิตไม่ให้หลง บังคับจิตไม่ให้ฟุ้ง คือพยายามห้ามความคิด หรือพอมันเผลอ พอมันเกิดหลงขึ้นมา ก็พยายามไปกดข่มอารมณ์ที่ทำให้หลง ความคิดที่ทำให้หลงก็ไปกดข่มมันเอาไว้ หรือมิฉะนั้นก็เกิดอาการหงุดหงิด ไม่พอใจ ซึ่งก็เป็นตัวหลงอีกตัวหนึ่ง
ถ้าเราสามารถที่จะทำใจยอมรับความหลงได้ ยอมรับอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ ยอมรับคือไม่บ่น ไม่โวยวาย รับรู้มันด้วยใจที่เป็นกลาง อันนี้ก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ แต่ทำยาก เพราะว่านักปฏิบัติจะมีความคาด
30/07/2023 • 21 minutes 28 seconds 25660604pm--รู้แล้วทำก่อนสาย
4 มิ.ย. 66 - รู้แล้วทำก่อนสาย : แต่คนที่เขากำลังใจที่เข้มแข็ง ซึ่งความหมายนี้คือสมาธิ มันก็จะลงมือทำเลย พอรู้ว่าการออกกำลังกายดี ก็จะทำเลย ไม่มีการอิดออด คนเราจำเป็นมากที่จะต้องฝึกจิตให้เข้มแข็ง ให้มีกำลัง ชนิดที่พร้อมจะหนุนความรู้ที่มี รู้ว่าอะไรดี ทำเลย รู้ว่าอะไรไม่ดี ไม่ทำ อันนี้ต้องอาศัยใจที่มั่นคงเข้มแข็ง ไม่อย่างนั้นมันก็จะเกิดสิ่งที่เราอาจจะเคยได้ยิน ดีชั่วรู้หมด แต่อดใจไม่ได้ รู้ว่ากิ๊กไม่ดี มีเมียน้อยไม่ดี มีชู้ไม่ดี แต่ก็อดใจไม่ได้ มันหักห้ามใจไม่ได้ รู้ว่าทุจริตไม่ดี แต่มันหักห้ามใจไม่ได้ มันก็เผลอทำ เรียกว่าจิตใจอ่อนแอ
ในทำนองเดียวกัน รู้ว่าอะไรดีแต่ไม่ทำ เพราะจิตใจอ่อนแอ และการที่คนเราจะมีใจเข้มแข็ง ส่วนหนึ่งจะต้องมีสติ มีความรู้สึกตัว เพราะถ้าไม่มีสติ ไม่มีความรู้สึกตัว กิเลสก็เอาไปกินหมด ถ้าไม่มีสติ ไม่มีความรู้สึกตัว สิ่งดีๆ ที่อยากทำก็ทำไม่ได้ เพราะว่ามันยังเพลินอยู่กับความสุขสนุกสนาน ยังติดโทรศัพท์มือถือ ยังติดเกมออนไลน์ ก็เลยไม่สามารถที่จะเอาใจใส่ในการเรียนได้ นี่คือปัญหาของเด็ก
ผู้ใหญ่ก็เหมือนกัน ไม่มีสติ ไม่มีความรู้สึกตัว มันก็พ่ายแพ้ต่อกิเลสไ
29/07/2023 • 26 minutes 28 seconds 25660603pm--สัจธรรมนำใจให้พ้นทุกข์
3 มิ.ย. 66 - สัจธรรมนำใจให้พ้นทุกข์
28/07/2023 • 36 minutes 47 seconds 25660602pm--แก่แต่กาย ใจสดใส
2 มิ.ย. 66 - แก่แต่กาย ใจสดใส : ที่จริงการอยู่ลำพังมันไม่ทำให้เราเป็นทุกข์ แต่เป็นเพราะเราวางใจไม่เป็นต่างหาก ตรงนี้ที่ทำให้เป็นทุกข์ ถ้าเราวางใจให้เป็นมีสติ มีความรู้สึกตัว จิตใจก็จะมีความแช่มชื่นเบิกบาน สามารถพบความสุขภายใน สามารถจะเข้าถึงความสงบเย็นในจิตใจ แล้วถึงเวลาป่วย มันก็ป่วยแต่กาย แต่ว่าใจก็ยังสดใสได้ การอยู่ลำพัง มันจะไม่ใช่เป็นความวังเวง โดดเดี่ยว แต่มันเป็นความวิเวก มันเป็นความสงบที่สามารถจะเติมเต็มหรือหล่อเลี้ยงจิตใจได้
แต่เป็นเพราะคนไม่ได้เตรียมตัวในเรื่องนี้เลย อาจจะเป็นเพราะประมาท หรือพอคิดว่าฉันก็จะยังเหมือนเดิมในอีก 30 ปีข้างหน้า 40 ปีข้างหน้า วันนี้ฉันยังแช่มชื่นเบิกบานอย่างไร 40 ปีข้างหน้า ฉันก็จะเป็นอย่างนั้น โดยที่ไม่ได้คิดว่า พอถึงตอนนั้น ร่างกายก็ไม่เหมือนเดิม จิตใจก็ไม่เหมือนเดิมถ้าไม่ได้ฝึก ฉะนั้นฝึกเอาไว้ตั้งแต่ตอนนี้ เราจะได้มีเครื่องรักษาใจ เมื่อถึงในยามที่ชีวิตหรือร่างกายมันเข้าสู่ภาวะขาลง จิตใจก็ยังทะยานขึ้นไปเรื่อยๆ ได้ เพราะว่ามีสติสมาธิ มีความรู้สึกตัวเป็นเครื่องหนุนช่วย
27/07/2023 • 28 minutes 5 seconds 25660601pm--ปฎิบัติต่อความไม่ถูกต้องอย่างถูกต้อง
1 มิ.ย. 66 - ปฎิบัติต่อความไม่ถูกต้องอย่างถูกต้อง : หน้าที่ของเราคือว่าปฏิบัติกับมันอย่างถูกต้อง ถ้าเราปฏิบัติกับมันอย่างถูกต้อง นอกจากจะทำให้เราไม่ทุกข์แล้ว เรายังได้ประโยชน์จากมันด้วย อย่างที่หลวงพ่อคำเขียนท่านพูดว่า ความโกรธมันก็มีค่า ความเกลียดมันก็มีค่า ถ้าเราปฏิบัติกับมันอย่างถูกต้อง ปฏิบัติกับมันอย่างถูกต้องทำอย่างไร ก็แค่รับรู้หรือรู้ทันมัน แบบรู้ซื่อๆ รู้เฉยๆ รู้โดยไม่ตัดสินว่าแบบนี้ไม่ดี อย่างนี้ไม่ดี ไม่มีการตัดสินว่าดีไม่ดี ความโกรธ ความเกลียด ความพยาบาท ตัณหาราคะที่เกิดขึ้น ถ้าเรามองหรือรับรู้มันด้วยสติ แบบว่ารู้เฉยๆ รู้ซื่อๆ ไม่มีการตัดสินให้ค่าว่าดีไม่ดี ควรไม่ควร เท่านี้ก็ทำให้อารมณ์พวกนี้มาครองใจเราได้ยาก
แต่ยิ่งกว่านั้นก็คือว่า เราสามารถจะเห็นประโยชน์หรือได้ประโยชน์จากมันด้วย ทั้งในแง่ที่ว่ามันมาฝึกให้เรามีสติรู้ทัน สติเราจะว่องไวปราดเปรียวก็เพราะมีอารมณ์พวกนี้โผล่เข้ามาฝึกฝน และต่อไปมันก็จะแสดงธรรม แสดงสัจธรรมให้เราเห็น ว่ามันก็ไม่เที่ยง มันก็เป็นทุกข์ มันก็ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน เห็นไตรลักษณ์ก็ไม่ได้เห็นจากไหนหรอก ก็เห็นจะอารมณ์อกุศลเหล่านี้แหละ รวมทั้งเห็นจา
26/07/2023 • 26 minutes 9 seconds 25660531pm--ทำอย่างไรจึงมีชีวิตเต็มร้อย
31 พ.ค. 66 - ทำอย่างไรจึงมีชีวิตเต็มร้อย : ถ้าเราปล่อยใจเป็นอย่างนั้น ต่อไปเรานอกจากไม่มีสติอยู่กับสิ่งที่ทำ คนที่กำลังเกี่ยวข้องแล้ว เราก็จะเต็มไปด้วยความเครียดความวิตกกังวล เพราะเวลาคิดไปเรื่องอดีตก็ตามเรื่องอนาคตก็ตาม มันมักจะตามด้วยความโกรธความโมโห ความรู้สึกผิด ความวิตกกังวล ความหงุดหงิดรำคาญใจ แล้วมันทำให้เราไม่สามารถจะมีชีวิตอย่างแท้จริง หรือเรียกว่าไม่สามารถจะมีชีวิตเต็มร้อยได้
แล้วสิ่งดีๆ ที่เราอยากจะทำก็เลยทำไม่ได้ เพราะไม่มีสมาธิอยู่กับสิ่งนั้น หรืออาจจะไม่ได้ทำเลยก็ได้เพราะว่าใจมัวแต่ไหลลอยไปกับสิ่งอื่น เรียกว่าอยู่ในความหลง เรื่องแบบนี้ต้องอาศัยในการฝึก เราจึงจะสามารถรักษาใจให้มาอยู่กับตัวเอง มามีความรู้สึกตัว อยู่กับเนื้อกับตัวได้
แล้วถ้าเราไม่ฝึก ใจของเรามันก็มีแต่จะเข้ารกเข้พคงไปเรื่อยๆ แล้วก็หลงเข้าไปในโลกของความคิด แล้วจมอยู่ในหลุมอารมณ์ จนบางทีไม่สามารถจะฉุดใจออกมาได้ อันนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ถ้าเราไม่ฝึก ปล่อยใจไปตามสบายก็จะลงเอยด้วยความทุกข์ ลงเอยด้วยความหลง ไม่สามารถจะมีชีวิตเต็มร้อยได้อย่างแท้จริง
25/07/2023 • 25 minutes 54 seconds 25660530pm--สิ่งที่คิดอาจไม่ใช่สำหรับเรา
30 พ.ค. 66 - สิ่งที่คิดอาจไม่ใช่สำหรับเรา : มันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตของเรา ไม่ใช่เฉพาะเรื่องการปฏิบัติธรรม แต่บางครั้งเวลาที่เราจะตัดสินใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับชีวิต แล้วเราก็เกิดความไม่กล้าขึ้นมา เช่น บางคนก็ไม่ชอบชีวิตที่ต้องกินเงินเดือน แต่พอนึกถึงการที่ต้องไปทำอาชีพที่ต้องพึ่งตัวเองเป็นผู้ประกอบการเอง รู้สึกว่ามันยาก รู้สึกว่ามันลำบาก รู้สึกว่ามันไม่ใช่ อันนี้อาจเป็นความคิดที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงก็ได้ เพราะถ้าได้ลองทำดูอาจจะพบว่ามันใช่
เหมือนหลายคนที่ไม่อยากจะทิ้งงานที่กินเงินเดือนเพราะว่ามันมั่นคง แต่เหตุจำเป็นต้องทำให้ต้องออกจากงานที่ว่า แล้วต้องไปค้าขาย ไปทำร้านอาหาร ไปขายสินค้าออนไลน์ แล้วพบว่า เออ มันใช่นะแต่ก่อนนี้ไม่กล้า เพราะไปมองว่ามันมีข้อเสียเยอะ มีข้อดีน้อย แต่จริงๆ แล้วเป็นการมองที่คลาดเคลื่อน หรือบางคนไม่ชอบชีวิตในกรุงเทพฯ แต่ว่าไม่กล้า ไม่อยากที่จะไปใช้ชีวิตในต่างจังหวัด เพราะว่ามองเห็นแต่ปัญหา มองเห็นแต่ข้อเสีย แต่พอมีเหตุจำเป็นให้ต้องออกไปใช้ชีวิตในต่างจังหวัด ก็พบว่ามันใช่ มันคือสิ่งที่ชีวิตเราต้องการ แต่ทำไมก่อนหน้านั้นไม่กล้า ก็เพราะมองเห็
24/07/2023 • 24 minutes 52 seconds 25660529pm--ดำเนินชีวิตด้วยใจใฝ่รู้
29 พ.ค. 66 - ดำเนินชีวิตด้วยใจใฝ่รู้ : ถ้าหากว่าเราพร้อมที่จะเรียนรู้จากทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับใจ ความเครียด ความหงุดหงิดผิดหวังมันก็จะน้อย อารมณ์ ความหงุดหงิดผิดหวัง ความเครียด มันเกิดขึ้นเฉพาะคนที่แสวงหาความสงบในจิตใจ พอใจไม่สงบก็ผิดหวัง ก็หงุดหงิด พอมันมีความคิดฟุ้งซ่านเกิดขึ้นมากมาย ก็หงุดหงิด เพราะไม่เป็นไปดั่งใจ เพราะมันไม่ถูกใจ แต่ถ้าหากปฏิบัติเพราะต้องการรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับใจ อารมณ์ใดเกิดขึ้นกับใจก็ได้ความรู้
ที่จริงถ้าวางใจแบบนี้ พอเจอทุกข์ แทนที่จะเป็นทุกข์ ก็จะกลายเป็นรู้ทุกข์ไป พระพุทธเจ้าก็สอนว่า ความทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องรู้ อันนี้คนที่มุ่งแสวงหาความสะดวกสบายจะไม่เข้าใจ ว่าความทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องกำหนดรู้ได้อย่างไร แต่คนที่ใฝ่รู้ ก็จะได้เปรียบ เพราะว่าเมื่อมีทุกข์แล้ว เราก็ควรจะรู้ทุกข์ ถ้าเรารู้ทุกข์เราก็ไม่เป็นทุกข์ คนที่ใฝ่รู้ เวลาเจอทุกข์ เขาจะพยายามรู้ทุกข์ รู้จักทุกข์ให้มากขึ้น ว่ามันมีสภาวะอย่างไร เกิดจากอะไร ส่วนคนที่แสวงหาความสะดวกสบาย พอเจอทุกข์ก็จะหงุดหงิด โวยวายตีโพยตีพาย เข้าไปเป็นผู้ทุกข์ ก็เลยทุกข์หนักขึ้น
ฉะนั้นไม่ว่าในการดำเนินชีวิ
23/07/2023 • 26 minutes 53 seconds 25660528pm--ทำอย่างไรจะไม่เสียใจกับอดีต
28 พ.ค. 66 - ทำอย่างไรจะไม่เสียใจกับอดีต : แต่ถ้าเกิดคนเรามีสติ ไม่ปล่อยให้ใจมันไหลไปตามสิ่งล่อเร้าเย้ายวน จนลืมสิ่งที่สมควรทำ หรือไม่ปล่อยใจให้เพลินกับอยู่กับสิ่งที่ควรจะทำให้น้อยลง เราก็จะสามารถทำสิ่งที่ดีๆ ตั้งแต่ตอนนั้นเลย อะไรที่ควรทำให้น้อยลงก็ทำตั้งแต่ตอนนั้น อะไรที่ควรทำให้มากขึ้นก็ทำตั้งแต่ตอนนั้น คือตอนที่ยังหนุ่มยังสาว ตอนที่ยังมีกำลังวังชา ตอนที่ยังไม่เจ็บไม่ป่วย ตอนที่ยังไม่มีความเสียหายอะไรเกิดขึ้น รวมทั้งเวลามีความโกรธ ความโมโหกับอะไรที่มันเป็นเรื่องเล็กน้อย ก็ไม่ปล่อยให้ครอบงำใจ จนกระทั่งทำในสิ่งที่ต้องมาเสียใจภายหลัง หรือเกิดผลเสียตามมา
สติมันช่วยไม่ให้เราไปเอาจริงเอาจัง เอาเป็นเอาตายกับอารมณ์ต่างๆ หรือกับเหตุการณ์ขณะที่เกิดขึ้น มันเป็นตัวยั้งไม่ให้ไปหมดเนื้อหมดตัวกับอารมณ์ จนกระทั่งต้องมาเสียใจเมื่ออายุมากขึ้นว่าเราไม่น่าเลย ขณะเดียวกันก็ทำให้เราไม่ไปเพลินกับสิ่งต่างๆ จนลืมทำสิ่งที่สมควรทำ
ถ้าเราไม่อยากจะเสียใจกับอดีตที่ผ่านมา การครองตนให้มีสติสำคัญมาก นอกจากเราจะรู้ว่าอะไรควรทำให้น้อยลง อะไรควรทำให้มากขึ้นแล้ว เราสามารถจะลงมือทำได้ ไม่ใช่รู้แต่ไม่
22/07/2023 • 25 minutes 7 seconds 25660526pm--ความหมายของสังฆทาน
26 พ.ค. 66 - ความหมายของสังฆทาน : เราก็อย่านึกแต่เรื่องการทำบุญอุทิศให้ ต้องนึกไปถึงเรื่องการสืบทอดความดีของท่าน ความดีของท่าน หรือว่าสิ่งดีๆ ที่ท่านทำเราก็ต้องสืบทอดด้วย ความดีที่ท่านทำเช่น ท่านอาจจะเป็นคนที่ชอบบำรุงอุปถัมภ์ศาสนา ส่งเสริมการศึกษาพระสงฆ์ ส่งเสริมการปฏิบัติธรรม ชอบปลูกป่าอนุรักษ์ธรรมชาติ ชอบสงเคราะห์คนทุกข์คนยากไร้ แล้วก็ชอบสงเคราะห์สัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง นี่คือความดีที่ท่านทำ เราก็ควรจะสืบทอด สืบต่อความดีของท่านเหล่านั้น
ไม่ใช่ว่าเอาแต่ทำบุญด้วยการถวายสังฆทานอย่างเดียว แต่ว่าไปปลูกป่าเพื่อสืบทอดสิ่งที่ท่านทำ สงเคราะห์สัตว์ ช่วยเหลือคนทุกข์คนยาก เป็นการสืบทอดสืบต่อความดีของท่าน นั่นก็เป็นบุญเหมือนกัน มันเกิดบุญที่ใจเรา แล้วเกิดบุญให้กับผู้คน เป้าหมายที่ได้รับอานิสงส์จากการทำความดีนั้น และรวมถึงเราก็อยากจะอุทิศบุญกุศลนั้นให้กับผู้ที่ล่วงลับซึ่งอยู่ในปรโลก
เพราะฉะนั้นเวลาพูดถึงการทำบุญให้กับผู้ที่ล่วงลับ อย่าเจาะจงแต่เรื่องการถวายสังฆทาน ในแง่หนึ่งเราก็ต้องถวายสังฆทานอย่างถูกต้อง ว่าเป็นสังฆทานจริงๆ ในอีกแง่หนึ่งเราก็พยายามสืบทอดความดีของท่าน สืบทอดงานของ
20/07/2023 • 27 minutes 7 seconds 25660521pm--ความเจ็บไข้มาเตือนให้ฉลาด
21 พ.ค. 66 - ความเจ็บไข้มาเตือนให้ฉลาด : อนิฏฐารมณ์มันมีหลายระดับ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสที่ไม่น่าพอใจ เหตุร้ายที่สร้างความทุกข์ให้กับเรา มันมีหลายระดับ เราสามารถที่จะฝึกใจจากอนิฏฐารมณ์ หรือความทุกข์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เช่น เมื่อเจอคำต่อว่าด่าทอ หรือว่าเมื่อสูญเสียทรัพย์ เมื่องานการมีอุปสรรค เมื่อคนที่อยู่รอบข้างไม่เป็นดั่งใจ มันจะเกิดความโกรธ ความหงุดหงิด ความผิดหวัง
แต่ถ้าเราสามารถจะฝึกจิตจากอารมณ์เหล่านี้ได้ ฝึกให้รู้จักรู้ทันอารมณ์เหล่านี้ และรู้จักปล่อยวาง ไม่ให้มันมาครอบงำใจ รวมทั้งนอกจากรักษาใจให้เป็นปกติในยามที่เจอสิ่งเหล่านี้แล้ว ยังสามารถหาประโยชน์จากมันได้
อย่างที่ได้กล่าวตั้งแต่ตอนต้นแล้วว่า เมื่อเจออนิฏฐารมณ์หรือเจอทุกข์ สิ่งที่เราพึงกระทำมี 2 ประการ 1. รักษาใจไม่ให้ทุกข์ 2. หาประโยชน์จากมันให้ได้ สองประการนี้เราสามารถจะฝึกได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องรอให้เราเจ็บไข้เสียก่อน ถึงค่อยมาฝึกทั้งสองประการนี้ เพราะถึงตอนนั้นก็อาจจะไม่ทันการแล้ว
เวลาเจออากาศร้อน เจอรถติด เจอคนผิดนัด เจอคำต่อว่าด่าทอ หรือแม้แต่เจอเหตุการณ์ทางสังคมและการเมืองที่ไม่ถูกใจ เราก็สามาร
19/07/2023 • 40 minutes 50 seconds 25660519pm--ปฎิบัติธรรมไปกับการทำงาน
19 พ.ค. 66 - ปฎิบัติธรรมไปกับการทำงาน : เห็นความทุกข์ของผู้คนแล้ว ทำให้ความทุกข์ของเรากลายเรื่องเล็ก เห็นประโยชน์ของส่วนรวม มันก็ทำให้เราเอาตัวเองเป็นใหญ่น้อยลง ยอมลดราวาศอก หรือยอมลดความต้องการ เพราะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม มีความอดกลั้นมากขึ้น เพราะรู้ว่าถ้าระเบิดออกไป มันจะเกิดความขัดแย้ง เกิดเรื่องวุ่นวาย การงานก็ล้มเหลว หรือว่าหมู่มิตรก็แตกแยก พอคิดถึงส่วนรวม ก็ทำให้รู้จักอดกลั้นต่อกับอารมณ์ แล้วยิ่งเจอคำต่อว่าด่าทอ คำวิพากษ์วิจารณ์ ก็เอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นแบบฝึกหัดในการลดอัตตา เจอความล้มเหลวก็ถือว่าดี ได้เรียนรู้ มันเป็นการภาวนาไปพร้อมๆ กันได้
ถ้าหากว่าทำอย่างนี้ ก็จะเป็นอย่างที่บางครั้งท่านอาจารย์พุทธทาสเรียกว่า การทำงานคือการปฏิบัติธรรม ยิ่งทำงาน กิเลสก็ยิ่งลดลง อัตตาก็เบาบางลง และประโยชน์สุขที่เกิดขึ้นกับส่วนรวม ไม่ว่าจะงานบุญ งานสังคม ก็เพิ่มพูนมากขึ้น
เพราะฉะนั้นเรื่องการปฏิบัติธรรม ก็ให้เราเข้าใจให้ดีๆ ว่า มันไม่ใช่แค่การต้องมาปฏิบัติกันในวัด แต่จะต้องนำเอาไปปฏิบัติท่ามกลางการทำงาน ท่ามกลางการใช้ชีวิต แล้วก็ใช้งานการนั่นแหละเป็นเครื่องฝึกฝนขัดเกลาตัวเองไปพร้อมๆ กัน
16/07/2023 • 27 minutes 51 seconds 25660518pm--ความหลงหายไป เมื่อใจกลับมารู้สึกตัว
18 พ.ค. 66 - ความหลงหายไป เมื่อใจกลับมารู้สึกตัว : นอกจากฝึกใจไม่ให้บังคับจิต แต่ว่าอนุญาตให้มันมีความคิดมีอารมณ์ต่างๆ เกิดขึ้น แล้วก็รู้สึกเป็นกลางต่ออารมณ์เหล่านั้น วางความชอบความชังลง เพราะถ้ามีความชังเมื่อไหร่ มันก็จะไปบังคับจิตไม่ให้มีความคิดฟุ้งซ่านเกิดขึ้น ไม่ให้มีความโกรธ ความเกลียดเกิดขึ้น นอกจากไม่บังคับจิตแล้วก็ไม่ดักจ้องมองความคิดและอารมณ์ ให้สติเขาได้ทำงานของเขา ให้โอกาสสติเขาได้ทำงาน เราไม่ต้องทำแทนเขา แล้วพอรู้ว่ามีอารมณ์ใดเกิดขึ้น ก็สักแต่ว่ารู้สึกซื่อๆ วางใจเป็นอุเบกขา ไม่ต้องไปกดข่ม ผลักไส หรือไม่ต้องไปไหลตาม
อันนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการเจริญสติ การทำความรู้สึกตัว และการรู้ธรรมที่สำคัญ หรือธรรมะเบื้องสูง ซึ่งสามอย่างนี้เป็นสิ่งที่ทวนกระแสนิสัยความเคยชินเดิมๆ ที่ชอบบังคับจิต ที่ชอบไปดักจ้องมองจิตมองอารมณ์ แล้วก็ชอบไปกดข่มอารมณ์ความคิดที่ไม่ชอบ
การที่จะฝึกใจให้ไม่ผลัดเข้าไปในนิสัยแบบนี้ มันต้องอาศัยการสร้างนิสัยใหม่ นิสัยที่อนุญาตให้ความคิดและอารมณ์เกิดขึ้น แล้วก็ให้รู้จักเห็น ไม่เข้าไปเป็น รู้ซื่อๆ รู้เฉยๆ ให้โอกาสสติเขาได้ทำงาน ไม่ต้องไปทำง
13/07/2023 • 25 minutes 16 seconds 25660517pm--ไม่ถือก็ไม่ทุกข์
17 พ.ค. 66 - ไม่ถือก็ไม่ทุกข์ : ถ้าเห็นไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความเกลียด ความเบื่อ ความเศร้าเนี่ย มันไม่ทุกข์นะ แต่เพราะไปยึดเอาว่ามันเป็นเรา เป็นของเรา หรือเข้าไปเป็นเนี่ย จึงทุกข์ แล้วทำไมถึงยึด ก็เพราะว่าไม่รู้ตัว เพราะความหลง แล้วความโกรธเกิดขึ้น เพราะถือ ถือเอาคำพูดของเขา หรือไปยึดเอาคำพูดของเขามาปรุงให้เกิดความโกรธเท่านั้นยังไม่พอ ยังไปยึดเอาความโกรธมาเป็นเราเข้าไปอีก
ทีแรกเผลอ ปล่อยให้ความโกรธเกิดขึ้นเพราะถือ ถือในการกระทำคำพูดของเขา แต่เมื่อความโกรธเกิดขึ้นแล้ว ถ้าเรามีสติรู้ตัว แค่เห็นเฉยๆ ไม่เข้าไปเป็น มันก็ไม่ทุกข์นะ แต่เพราะไม่เห็น เข้าไปเป็น เข้าไปยึด ไอ้ตรงเข้าไปยึดนี่แหละ มันคือตัวการที่ทำให้เกิดทุกข์ในใจเรา ตรงนี้ถึงบอกว่า สมุทัยหรือเหตุแห่งทุกข์ มันอยู่ที่ใจเราด้วย อยู่ที่เราไปร่วมมือกับเขา ฉะนั้น ถ้าเราไม่ถือ เราก็ไม่โกรธ หรือถึงโกรธ แต่ไม่ไปยึดในความโกรธนั้น มันก็ไม่ทุกข์
อันนี้คือสิ่งที่เราต้องมองให้เห็น แล้วจะเห็นได้ก็ต้องหมั่นสังเกตใจของเราอยู่บ่อยๆ แล้วเราก็จะรู้ว่า ไม่ว่าจะเจออะไร ใจเราไม่ทุกข์ก็ได้ ถ้าใจเราไม่ถือ หรือไม่เข้าไปยึด หรือรู้จักวางใ
12/07/2023 • 24 minutes 22 seconds 25660516pm--ใจไม่ทุกข์เพราะมีธรรม
16 พ.ค. 66 - ใจไม่ทุกข์เพราะมีธรรม : ความโกรธ ความขุ่นเคือง มันไม่ได้ทำให้เราทุกข์ ถ้าเราเห็นมัน ถ้าเรารู้จักวางใจเป็นกลางกับอารมณ์เหล่านี้ หรือถ้าเราไม่ยึดติดถือมั่นในอารมณ์เหล่านั้น มันก็ไม่ทำให้เราทุกข์ได้ แต่เพราะเราเกี่ยวข้องกับมันไม่เป็น เราจึงทุกข์ การฝึกสติก็คือการมาฝึกใจให้เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้ให้เป็น เราห้ามมันไม่ให้เกิดขึ้นไม่ได้ เหมือนกับเราห้ามเสียงดัง อากาศร้อน คำต่อว่าด่าทอ ไม่ให้เกิดขึ้นกับเรานี่ยาก แต่เราสามารถที่จะรับมือกับมัน รู้ทันมัน และไม่ปล่อยให้มันมาบีบคั้น หรือว่าย่ำยีจิตใจได้
การที่เราจะควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งภายนอก ภายใน ให้มีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับเรา มันเป็นเรื่องยาก แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือ เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เรารู้จักนำธรรมะมารักษาใจไม่ให้เป็นทุกข์ เพราะมัน เราทำได้ โดยเฉพาะเมื่อเรามีสติ มีปัญญา เราก็จะวางใจ หรือมีท่าทีที่ถูกต้องกับสิ่งเหล่านั้น มันมาแต่เราไม่ยึด มีแต่ไม่เอา เกิดขึ้นแต่รู้ทัน ถ้าทำอย่างนี้ได้ ใจก็เป็นปกติ สงบ สงบไม่ใช่เพราะไม่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แต่สงบเพราะเราวางใจได้ถูกต้อง เพราะใช้สติมารักษาใจ
10/07/2023 • 24 minutes 44 seconds 25660515pm--ชีวิตเลือกได้
15 ก.พ. 66 - ชีวิตเลือกได้ : เอาเข้าจริงๆ เราก็เลือกได้ว่า จะเป็นคนแก่ที่อารมณ์เย็น ผ่อนคลาย รู้จักปล่อยวาง หรือเป็นคนแก่ที่เอาแต่หงุดหงิดหัวเสีย เจ้าอารมณ์ ขี้บ่น หรือว่าซึมเศร้า สุดท้ายเราเลือกได้แม้กระทั่งว่า เมื่อถึงวาระสุดท้าย เราจะตายแบบไหน ตายด้วยใจสงบ หรือตายด้วยความทุรนทุราย เพราะปล่อยวางอะไรต่ออะไรก็ไม่ได้ เพราะมีความรู้สึกผิดติดค้างใจ เพราะมีความโกรธเกรี้ยว คับแค้นพยาบาท
หลายคนอย่าว่าแต่ระยะสุดท้ายเลย ที่จริงไม่ต้องรอให้แก่ก็ได้ บางคนพอถึงวัยกลางคน จิตใจจมดิ่งอยู่ในความทุกข์มาก ถูกอารมณ์จู่โจมหรือว่าครอบงำจิตชนิดที่ไม่สามารถจะถอนใจออกจากอารมณ์พวกนี้ได้ เพราะเขาไม่ยอมที่จะเลือกว่า จะมีชีวิตที่เป็นอิสระจากอารมณ์นี้หรือเปล่า หรือว่าเลือกว่าเมื่อมีสิ่งที่ไม่ถูกอกถูกใจ เราจะไม่โกรธไม่โมโห แต่เราจะตั้งมั่นอยู่ในความสงบ เป็นเพราะไม่เลือกในขณะที่มีเวลา พอปล่อยเวลาผ่านเลยไปๆ ก็กลายเป็นว่าถูกอารมณ์พวกนี้ครอบงำ จนกระทั่งไม่มีสิทธิ์เลือก แล้วก็อยู่แบบทุกข์ทรมา นอยู่ด้วยความร้อนรุ่ม แล้วก็ตายด้วยใจที่ไม่สงบ
อันนี้เห็นเยอะมาก เป็นเพราะว่าเราไม่รู้จักเลือกในสิ่งที่สำคัญ
10/07/2023 • 26 minutes 7 seconds 25660501pm--ทุกข์เพราะอยาก
1 พ.ค. 66 - ทุกข์เพราะอยาก : ประสบกับสิ่งที่ไม่รักไม่พอใจ มันหนีไม่พ้นนะคนเรา หรือพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจ ก็เป็นสิ่งที่คนเราหนีไม่พ้น แต่ถ้าเราไม่ให้ความอยากเข้ามาผสมโรงในสองสิ่งนี้ มันก็จะทุกข์น้อยลง ประสบกับสิ่งที่ไม่รักไม่พอใจ เช่น ความเจ็บความป่วย ความแก่ คำต่อว่าด่าทอ มันก็ทุกข์พอแรงอยู่แล้ว แต่ถ้าตั้งความมุ่งมั่นว่าฉันขอให้ได้เจอสิ่งเหล่านี้เลย พอเจอเข้ามันทุกข์กว่าเดิม หรือว่าขอให้ฉันได้พบกับสิ่งที่รักที่พอใจ แค่นี้พอไม่ได้ก็ทุกข์อยู่แล้ว แต่ถ้ามีความอยาก อยากให้ได้สิ่งที่รักที่พอใจ ยิ่งทุกข์เข้าไปใหญ่
เราอาจจะหนีไม่พ้นนะ ประสบกับสิ่งที่ไม่รักไม่พอใจ หรือพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่พอใจ หนีไม่พ้น แต่อย่างน้อยอย่าให้ความยากมันเข้าไปเจือปนด้วย เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเราอยากจะดำเนินชีวิตให้มีความทุกข์น้อยลง อย่างน้อยๆ ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้น หรือว่าความยึดความยากของเรา ไม่ว่าในเรื่องใดก็ตาม ก็อย่าให้มันครองจิตครองใจมาก มันมีได้ คนเราหนีไม่พ้นหรอก เพราะยังมีกิเลสอยู่ แต่ว่าก็ให้รู้ทัน แล้วก็เตือนตนอยู่เสมอ ว่ามีความอยากเมื่อไหร่ มันก็มีความทุกข์เมื่อนั้น แล้วอยากมากก็ท
06/07/2023 • 24 minutes 24 seconds 25660430pm--เพื่อนดีที่กลางใจ
30 เม.ย. 66 - เพื่อนดีที่กลางใจ : ต้องมีเพื่อนแบบนี้ในใจของเรา ไม่ใช่ว่าจะหวังแต่เพื่อนข้างนอกที่เขายอมรับอย่างที่เราเป็นได้ในทุกกรณี แต่ว่าเราต้องมีเพื่อนในใจ ที่ทำให้เราสามารถจะยอมรับทุกความคิดทุกอารมณ์ที่เกิดขึ้นได้ โดยไม่ปล่อยให้มันมาครอบงำใจ หรือไม่เป็นทุกข์เพราะมัน เพราะจริงๆ แล้วมันก็เป็นธรรมดา
และที่จริงถ้าเรามีสัมมาสติดีพอนะ เราก็สามารถที่จะเปลี่ยนความคิดและอารมณ์ที่ไม่ดีให้กลายเป็นของดีขึ้นมาได้ เพราะมันทำให้เรารู้จักตัวเอง ทำให้เรารู้เท่าทันกิเลส ทำให้เราไม่หลงประมาทตัวเองว่าฉันดีพร้อม ทำให้เรารู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งช่วยทำให้เกิดความระมัดระวังในการไม่ปล่อยใจให้อารมณ์พวกนี้ครอบงำ
เราต้องหานะ หาเพื่อนที่ดีกลางใจของเรา เพื่อนที่ว่านี้ก็คือ “สัมมาสติ” ต้องรู้จักพัฒนาความสามารถในการที่จะยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในใจด้วยความรู้สึกที่เป็นกลางได้ แล้วสิ่งนี้มันก็จะช่วยทำให้ความรู้สึกลบหรือความคิดลบๆ นอกจากไม่ทำให้เราเป็นทุกข์แล้ว ยังไม่สามารถจะบงการให้เราทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้
04/07/2023 • 26 minutes 2 seconds 25660429pm--เปลี่ยนความล้มเหลวให้เป็นความรู้
29 เม.ย. 66 - เปลี่ยนความล้มเหลวให้เป็นความรู้ : ถ้าเราไม่รู้จักทุกข์ ไม่เรียนรู้จากทุกข์ เราจะเป็นอิสระจากความทุกข์ยากได้อย่างไร เราจะเป็นอิสระจากความทุกข์ได้ เราก็ต้องรู้จักทุกข์ แล้วเราจะต้องรู้จักทุกข์ได้อย่างถ่องแท้ ก็ต้องเจอทุกข์ซะก่อน ถ้ากลัวทุกข์ก็ไม่มีทางพ้นทุกข์ได้ ก็เหมือนกับคนที่อยากประสบความสำเร็จ ก็ต้องยอมที่จะเจอความล้มเหลว แล้วเมื่อเจอความล้มเหลว ก็เปลี่ยนความล้มเหลวให้กลายเป็นความรู้ แล้วความรู้นี่แหละก็จะนำไปสู่ความสำเร็จ ความทุกข์ก็เหมือนกัน เจอทุกข์แล้วเปลี่ยนทุกข์ให้กลายเป็นความรู้ ความรู้ในทุกข์ และความรู้ในทุกข์นั้น มันจะพาให้เราเป็นอิสระจากความทุกข์ได้
04/07/2023 • 25 minutes 55 seconds 25660428pm--ยิ่งมองตน ยิ่งนึกถึงคนอื่น
28 เม.ย. 66 - ยิ่งมองตน ยิ่งนึกถึงคนอื่น : เพราะหมั่นมองตนนั่นแหละ จึงนึกถึงผู้อื่นหรือเอื้อเฟื้อเกื้อกูลผู้อื่น เพราะว่าทำให้ความเห็นแก่ตัวน้อยลง แต่ถ้ามองตนน้อยเท่าไหร่ ก็นึกถึงคนอื่นน้อยเท่านั้น เพราะว่าจิตใจก็เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว ยิ่งมีความกลัวเป็นเจ้าเรือน มันยิ่งง่ายมากที่จะทำร้ายคน ถ้าหากว่ามีโอกาส เพียงเพื่อให้ตัวเองมีความปลอดภัย หรือว่าไม่มีภัยมาคุกคาม หรือหนักกว่านั้นก็คือไปทำร้ายคน เพื่อที่จะปรนเปรอตน ด้วยเงิน ด้วยทรัพย์ ด้วยความสุขชั่วครูชั่วยาม
ถ้าเราปฏิบัติธรรม หัวใจของการปฏิบัติธรรมคือการหมั่นมองตน หมั่นมองตนก็คือหมั่นรู้ความทันความคิด รู้ทันกิเลส รู้ทันความเห็นแก่ตัว แล้วมันจะช่วยทำให้ความเห็นแก่ตัวเบาบาง มีอำนาจครอบงำจิตใจเราน้อยลง แล้วเปิดช่องให้ความเมตตากรุณา ความมีน้ำใจเจริญงอกงามขึ้น
แล้วยิ่งทำก็จะยิ่งพบว่ามีความสุข อย่างคุณปู่แม้ว่าจะดูเหนื่อยกาย แต่ว่าแกมีความสุข จากการที่ได้ช่วยคนไม่ให้ฆ่าตัวตาย แกมีความสุข แกจึงทำทุกวัน แล้วยิ่งทำทุกวัน แล้วยิ่งมีความสุขมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเกิดแรงจูงใจที่จะทำเพื่อผู้อื่นมากขึ้น แล้วมันก็ไปด้วยกัน ถ้าเรา
04/07/2023 • 29 minutes 15 seconds 25660423am--สละเพื่อละตัวตน
23 เม.ย. 66 - สละเพื่อละตัวตน : เดี๋ยวนี้ทำอะไรไม่มีคนกดไลค์หรือกดไลค์น้อยก็ทุกข์แล้ว แค่เขาไม่ชมก็ทุกข์แล้ว นับประสาอะไรกับคำตำหนิหรือเม้นแรงๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้เป็นธรรมดามากเลยการเม้นแรงๆ ทำอะไรก็ตาม ดีแค่ไหนก็มีคนเม้นว่าไปทางลบอยู่เสมอ เพราะนี่เป็นโลกของความหลากหลายที่คนเราคิดต่างกันแบบ 180 องศาเลย
เพราะฉะนั้นทำความดีก็อย่าไปหวังคำสรรเสริญ แล้วก็ไม่หวั่นไหวกับการถูกคอมเม้นถูกวิจารณ์ เราก็จะอยู่ได้ในโลกนี้อย่างมีความผาสุก เรียกว่าอยู่เหนือโลก ตัวอยู่ในโลกแต่ใจอยู่เหนือโลก คือโลกธรรม ไม่ว่าจะเป็นคำสรรเสริญหรือคำนินทา
แม้ได้ยศก็ไม่เพลิดเพลิน แม้ได้ลาภก็ไม่ปลาบปลื้ม เพราะรู้ว่ามันเป็นของไม่เที่ยง ดังนั้นเมื่อเสื่อมลาภจิตใจก็ไม่เศร้าหมอง เสียแต่ทรัพย์แต่ใจก็ไม่เสีย ไม่ซ้ำเติมตัวเองให้ทุกข์ อันนี้เราสามารถเริ่มได้จาก
เสียงธรรมจากหลวงพ่อไพศาล วิสาโล
บรรยายที่ Royal Gems
04/07/2023 • 24 minutes 57 seconds 25660420pm--แก่อย่างมีความหมาย
20 เม.ย. 66 - แก่อย่างมีความหมาย : จริงพระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้ว ความแก่มันไม่ได้อยู่ในไหนหรอก มันอยู่ในความหนุ่มสาวนี่แหละ ความเจ็บไข้ก็อยู่ในความไม่มีโรค ถึงแม้ว่าเราไม่มีโรคก็ไม่ได ้แปลว่าไม่เจ็บไข้ ความเจ็บไข้ก็อยู่ในความไม่มีโรค ถึงแม้ว่าเราจะยังเป็นหนุ่มเป็นสาว พระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า ความแก่ก็อยู่ในความหนุ่มความสาวนั่นแหละ รวมทั้งความตายก็มีอยู่ในความมีชีวิต
เพราะฉะนั้น ถึงแม้ว่าจะยังหนุ่มยังสาวก็ไม่ใช่ห่างไกลกับความแก่ ถึงแม้จะไม่ป่วยก็ไม่ได้แปลว่ายังห่างไกลกับความเจ็บความป่วย ถึงแม้จะยังมีชีวิตก็ไม่ได้แปลว่ายังห่างไกลจากความตาย ความแก่ก็ดี ความเจ็บป่วยก็ดี ความตายก็ดี มันอยู่กับเราอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะมองเห็นหรือเปล่า
01/07/2023 • 26 minutes 18 seconds 25660419pm--ความจริงอาจไม่ตรงกับที่คาดการณ์
19 เม.ย. 66 - ความจริงอาจไม่ตรงกับที่คาดการณ์ : บางอย่างเราก็เห็นแต่ปัญหา แต่เราไม่ค่อยเห็นข้อดี ทั้งๆที่ปัญหานี้เล็กน้อยแต่ข้อดีเยอะ บางอย่างเราเห็นแต่ข้อดีแต่ไม่เห็นปัญหาทั้งๆที่ในความเป็นจริงปัญหามันเยอะมาก ส่วนข้อดีก็มีบ้างแต่น้อย หรือว่าน้อยกว่าที่คิด
อันนี้มันก็แสดงให้เห็นว่ามนุษย์เรามีความจำกัดในการคาดการณ์ เกี่ยวกับสิ่งที่จะทำข้างหน้าหรือเกี่ยวกับเหตุการณ์ข้างหน้า เพราะฉะนั้นอย่าไปเชื่อความคิดของเราเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก เพราะความจริงอาจจะไม่ตรงกับที่เราคาดการณ์ก็ได้ ถ้ามันไม่แย่กว่า มันก็อาจจะดีกว่าก็ได้
และเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าอะไรดีอะไรไม่ดี ก็ต้องทดลองทำดู อย่างคนที่คิดว่า ฉันขึ้นรถไฟฉันอยู่คนเดียวดีกว่าที่จะคุยกับคนแปลกหน้า แต่พอได้คุยกับคนแปลกหน้ากลับพบว่า มันดีแฮะ มันดีกว่าการอยู่คนเดียวทำอะไรคนเดียวด้วยซ้ำ ถ้าไม่ได้ลองทำก็ไม่รู้ว่าไอ้ที่คิดเอาไว้ มันไม่ถูกต้อง ไอ้ที่คาดการณ์เอาไว้ มันไม่ใช่อย่างนั้น
ฉะนั้นเวลาเรามีการคาดการณ์อะไร แม้กระทั่งเกี่ยวกับความสุขหรือว่าสิ่งที่พึงปรารถนา ก็อย่าไปเชื่อมั่นมากเกินไป เพราะมันอาจจะเป็นการคิดเอาเองก็ได้ ต่อเมื่อเราได
01/07/2023 • 24 minutes 45 seconds 25660416pm--ปล่อยวางบ้าง ชีวิตจะทุกข์น้อยลง
16 เม.ย. 66 - ปล่อยวางบ้าง ชีวิตจะทุกข์น้อยลง : ขณะที่ยังมีกิเลสอยู่ เราก็ยังสามารถที่จะปล่อยวางเรื่องง่ายๆ ได้ ถ้าเราฝึกในชีวิตประจำวัน ก็ไม่ต้องรอเทศกาลแห่งการปล่อยวาง เพราะเราสามารถที่จะปล่อยได้ ทุกขณะของการทำงาน ของการดำเนินชีวิต ไม่ใช่เฉพาะแค่งานอย่างเดียว เวลาเราอาบน้ำ ถูฟัน เราก็วาง วางอนาคต วางอดีต หรือวางงานนการที่ต้องทำถัดจากนี้ไป ไม่ใช่ว่าอาบน้ำไปก็คิดไปแล้วว่าเดี๋ยวจะทำอะไรต่อ กินข้าวก็คิดแล้วนะ เดี๋ยวจะทำอะไรต่อ คิดอย่างนี้ตลอดเวลา แล้วสุดท้ายจิตใจก็เต็มไปด้วยความเครียด
ทำอะไรด้วยความลุกลี้ลุกลน รีบๆ ทำ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ยึดมั่นถือมั่นอะไรต่ออะไรเต็มไปหมด แม้กระทั่งความทุกข์ ความเครียด ความโกรธ ความหงุดหงิด ความขุ่นเคือง ไม่ปล่อยไม่วางเลย ฉะนั้นถ้าเราอยากจะให้ชีวิตของเราสุขสบายมากขึ้น ต้องฝึกนะ ฝึกให้รู้จักปล่อยวางบ้าง แม้จะปล่อยวางไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ปล่อยวางทีละนิดทีละหน่อย มันก็ทำให้ชีวิตนี้ผ่อนคลายมากขึ้น
01/07/2023 • 29 minutes 15 seconds 25660415pm--อยู่กับทุกข์ด้วยใจไม่ทุกข์
15 เม.ย. 66 - อยู่กับทุกข์ด้วยใจไม่ทุกข์ : ความเหนื่อยของคนที่ทำงานเวลานี้ มันไม่ใช่เหนื่อยจากการทำงาน เท่ากับเหนื่อยเพราะใจที่ไปวิตกกังวลกับสิ่งต่างๆ ที่ยังมาไม่ถึง กับยอดที่ต้องทำให้ได้ กับผลสำเร็จที่ไม่รู้ว่ามันจะเป็นไปตามเป้าไหม เจ้านายเขาจะว่าอย่างไร ถ้าเกิดว่างานไม่เป็นไปอย่างใจเขา คนหรือเพื่อนร่วมงานเขาจะมองอย่างไร คิดไปอย่างนี้ก็ทำให้เกิดความเครียด เกิดความวิตกขึ้นมา
แล้วบางทีใจก็ไปจดจ่ออยู่กับเพื่อนที่เขาไม่ค่อยขยันขันแข็งเท่าไหร่ หลายคนไม่ได้เหนื่อยกับงาน เท่ากับเหนื่อยเพราะไปวิตกกังวล หรือไปจ่อมจมอยู่กับเพื่อนที่กินแรง เพื่อนที่เอาเปรียบ เพราะเวลาที่คิดถึงคนเหล่านั้นก็อดบ่นไม่ได้ เกิดความหงุดหงิด เกิดความขุ่นเคือง พวกนี้มันเป็นความรู้สึกหรืออารมณ์ที่ทำให้ผู้คนเหนื่อยใจ ซึ่งมันสร้างความทุกข์ให้กับคนทำงาน ยิ่งกว่าความเหนื่อยเพราะทำงาน
บางทีทำงานขุดดิน ทำสวน หรือว่าขนของ หลายคนจะไม่รู้สึกเหนื่อยเท่ากับความเครียด ความวิตกกังวลเกี่ยวกับงานการ เกี่ยวกับเป้าหมายที่ยังไปไม่ถึง แล้วหลายคนก็กลายเป็นว่าแทนที่จะเหนื่อยอย่างเดียว ก็เหนื่อยสองอย่าง คือเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้ง
01/07/2023 • 25 minutes 3 seconds 25660414pm--มองตนจนรู้ทันกิเลส
14 เม.ย. 66 - มองตนจนรู้ทันกิเลส : เราเห็นกิเลสมากมาย แต่กิเลสก็ไม่ได้ครองใจเราตลอดเวลา มันมาเป็นครั้งคราว มันจรเข้ามา และแม้มันจรเข้ามา เราก็ไม่เผลอให้มันมาครอบงำใจ แล้วเราก็ไม่ลงโทษตัวเองว่าเป็นคนเลว คนแย่ เพราะเห็นต่อไปว่ากิเลสไม่ใช่เรา มันเป็นสิ่งที่ผุดขึ้นมา คนที่ไม่ปฏิบัติก็จะหลงตนว่าฉันเป็นคนดี ประเสริฐ เลิศ แต่พอปฏิบัติเข้า ถ้าปฏิบัติครึ่งๆ กลางๆ ก็จะรู้สึกว่าฉันแย่ๆ เหวี่ยงไปอีกทางหนึ่ง
แต่พอปฏิบัติไปถึงจุดหนึ่งก็จะพบว่า กิเลสพวกนี้ไม่ใช่เรา และต่อไปก็จะเห็นว่า ไม่ใช่แค่กิเลสนะ ความทุกข์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ความโศก ความเศร้า ความเครียด ที่เราเรียกรวมๆ ว่าความทุกข์ก็ไม่ใช่เราเหมือนกัน มีความทุกข์ แต่ทุกข์ไม่ใช่เรา หรือเห็นว่ามีโกรธก็จริง แต่ว่าไม่เอา ไม่ใช่ว่าไม่มี แต่ว่าไม่เอา ไม่เอาเพราะมีสติรู้ทัน วางมันลงได้
อันนี้จะทำให้การฝึกจิตหรือการรู้จักตนมีความลึกซึ้งมากขึ้น ถ้าเราปฏิบัติไม่ถูก มันก็จะเห็นแค่เห็นในเรื่องตื้นๆ เห็นแค่ความคิดที่ผุดขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ เห็นแล้วก็วาง เห็นแล้วก็วาง แล้วใจก็สงบ แต่ยังปล่อยให้กิเลสเล่นงานจิตใจเราได้ เพราะไม่เห็น ไม่รู้ทันมัน แต่ถ้าเร
27/06/2023 • 20 minutes 32 seconds 25660413pm--ทุกข์เพราะหลง สุขเพราะรู้
13 เม.ย. 66 - ทุกข์เพราะหลง สุขเพราะรู้ : ถ้าหากว่าความหลงน้อยลง มีความรู้สึกตัวมากขึ้น ความสุขมันก็จะมาแทนที่ ให้ความรู้สึกตัวมาแทนความหลงเมื่อไหร่ ความสุขมันก็จะมาแทนความทุกข์ มันเป็นสุขแบบเรียบๆ แต่ว่าปลอดโปร่ง ทำให้ใจเป็นอิสระ ไม่เหมือนสุขจากความสนุกสนาน จากการเสพ แล้วถ้าเราสัมผัสกับความสุขเพราะรู้สึกตัวมากขึ้น มันก็จะเกิดเรี่ยวแรง เกิดกำลังใจ
เราก็จะพบว่าสตินี่ทีแรกเราเป็นฝ่ายรักษา เป็นฝ่ายสร้างสติ แต่ทำไปๆ สติจะมารักษาเรา สิ่งที่เราทำคือการเจริญสติ สติมันไม่ได้เกิดจากเราอย่างเดียว หรือเกิดจากการกระทำของเราอย่างเดียว มันกลับมาปรุงแต่งทำให้ใจเราปลอดโปร่ง ผ่องใส แล้วคลายทุกข์ได้ด้วย
27/06/2023 • 28 minutes 28 seconds 25660412pm--เรียนธรรมจากประสบการณ์ชีวิต
12 เม.ย. 66 - เรียนธรรมจากประสบการณ์ชีวิต : เราจะไม่ต้องเอาธรรมะใส่ให้เขา หรือเอาธรรมะยัดเยียดให้เขา แต่พอช่วยเขาทางอื่น ช่วยให้เขาปล่อยวางเพราะหมดห่วง และช่วยให้เขาเกิดจิตใจที่เป็นกุศล มีปีติเพราะระลึกถึงความดีที่ได้ทำ ใจมันก็พร้อมที่จะน้อมรับความตายได้ เพราะเส้นทางสู่ธรรมะนั้นมีหลายเส้นทาง เส้นทางที่ธรรมะจะเข้าสู่ใจคนมันก็มีหลายเส้นทาง ไม่ได้มีแค่เส้นทางเดียวคือการสอนธรรมะหรือการให้ฟังธรรมะ การช่วยวิธีอื่นที่ทำให้จิตใจเป็นกุศล จิตใจเกิดความโปร่งโล่ง อันนี้มันก็เป็นการช่วยทำให้เขายอมรับความจริงของชีวิตได้เหมือนกัน เรียกว่าเข้าถึงธรรมะได้โดยที่เราไม่ต้องยัดเยียด
บางคนถ้าเกิดเขามีความรู้สึกอบอุ่นใจ มีความมั่นใจว่า มีสิ่งที่จะมาช่วยน้อมนำให้เขาไปกุศลได้ เขาก็มีความสุขพร้อมจะไป บางคนมีความเชื่อว่าไปแล้วจะได้ไปพบพระพุทธเจ้า ไปแล้วจะได้ไปกราบพระเกศแก้วมณีในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พอมีความเชื่อเช่นนี้มันก็พร้อมตาย หรือมีความเชื่อว่าไปแล้วฉันจะได้ไปดี เพราะฉันทำความดีมาเยอะ คนเหล่านี้เขาก็พร้อมตายโดยที่ไม่จำเป็นต้องไปยัดเยียดให้เขา เพราะเขารู้ว่าชีวิตที่ผ่านมามีคุณค่า มั่นใจว่าข้างหน้านี่เ
27/06/2023 • 27 minutes 30 seconds 25660411pm--เราเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตแบบไหน
11 เม.ย. 66 - เราเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตแบบไหน : แม้กระทั่งถึงวันที่เราจะต้องประสบความสูญเสีย เราก็ยังเลือกได้ ระหว่างคนที่ทุกข์ระทม เศร้าโศก ตีอกชกหัว กับคนที่สงบ นิ่ง มั่นคง ไม่หวั่นไหว แต่การที่เราจะเลือกแบบนี้ได้ มันต้องลงทุนลงแรงด้วย ไม่ใช่ว่าแค่อยากเฉยๆ แต่ว่าต้องลงทุนด้วยการปฏิบัติ
เหมือนกับถ้าอยากจะให้วัยชราของเราเป็นวัยที่กระฉับกระเฉง มีสุขภาพดี ไม่นอนซม ก็ต้องออกกำลังกายตั้งแต่ตอนนี้ หรือออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมอาหารตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาว เช่นเดียวกัน หากว่าเราปรารถนาที่จะรักษาใจให้สงบมั่นคงเมื่อยามที่ต้องสูญเสีย หรือแม้กระทั่งเมื่อยามที่เราเผชิญหน้ากับความตาย เราก็ต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้ เริ่มตัดสินใจตั้งแต่ตอนนี้ ว่าเราจะฝึกตนฝึกใจมากน้อยเพียงใด แค่ออกกำลังกาย คุมอาหารคงไม่พอ มันก็มีประโยชน์สำหรับการมีสุขภาพดีในวัยชรา
แต่ว่าถ้าหากต้องการที่จะมีสุขภาพจิตเป็นปกติ ไม่จมอยู่ในความทุกข์ ก็ต้องฝึกใจด้วย แล้วไม่ใช่มาฝึกเอาตอนที่ใกล้จะสูญเสีย เพราะเราไม่รู้ว่าจะสูญเสียเมื่อไหร่ หรือมาฝึกเอาตอนใกล้จะตาย เพราะบางทีอาจจะไม่มีเวลาฝึกก็ได้ เราต้องทำตั้งแต่ตอนนี้
ต้องต
27/06/2023 • 26 minutes 31 seconds 25660410pm--ชนะใจด้วยการให้
10 เม.ย. 66 - ชนะใจด้วยการให้
25/06/2023 • 31 minutes 56 seconds 25660409pm--คืนสู่ความปกติธรรมดา
9 เม.ย. 66 - คืนสู่ความปกติธรรมดา
25/06/2023 • 27 minutes 45 seconds 25660408pm--ใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้น
8 เม.ย. 66 - ใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้น
25/06/2023 • 27 minutes 1 second 25660407pm--พบสุขโดยไม่ต้องตามหา
7 เม.ย. 66 - พบสุขโดยไม่ต้องตามหา
25/06/2023 • 27 minutes 9 seconds 25660329pm--สิ่งที่พ่วงมากับความสุข
29 มี.ค. 66 - สิ่งที่พ่วงมากับความสุข
21/06/2023 • 30 minutes 5 seconds 25660326pm--ใช้ชีวิตให้มีคุณค่า
26 มี.ค. 66 - ใช้ชีวิตให้มีคุณค่า
21/06/2023 • 28 minutes 30 seconds 25660325pm--ถามถูกก็หลุดจากทุกข์ได้
25 มี.ค. 66 - ถามถูกก็หลุดจากทุกข์ได้
21/06/2023 • 26 minutes 2 seconds 25660324pm--รักษาใจไม่ให้หวั่นไหวในโลกธรรม
24 มี.ค. 66 - รักษาใจไม่ให้หวั่นไหวในโลกธรรม
21/06/2023 • 30 minutes 5 seconds 25660323pm--พลังแห่งศรัทธา
23 มี.ค. 66 - พลังแห่งศรัทธา
20/06/2023 • 27 minutes 53 seconds 25660322pm--ตัดไฟก่อนเผาไหม้ใจ
22 มี.ค. 66 - ตัดไฟก่อนเผาไหม้ใจ
25660321pm--อยากพ้นทุกข์ ต้องไม่กลัวทุกข์
21 มี.ค. 66 - อยากพ้นทุกข์ ต้องไม่กลัวทุกข์
20/06/2023 • 27 minutes 52 seconds 25660315pm--ทำไมหมอและพยาบาลควรเรียนรู้เรื่องความตาย
15 มี.ค. 66 - ทำไมหมอและพยาบาลควรเรียนรู้เรื่องความตาย
20/06/2023 • 31 minutes 13 seconds 25660313pm--อ่อนโยนต่อจิต ให้อิสระแก่ใจ
13 มี.ค. 66 - อ่อนโยนต่อจิต ให้อิสระแก่ใจ
05/06/2023 • 28 minutes 30 seconds 25660312pm--ไม่เผลอ ไม่เพ่ง แค่รู้ทัน
12 มี.ค. 66 - ไม่เผลอ ไม่เพ่ง แค่รู้ทัน
05/06/2023 • 28 minutes 42 seconds 25660310pm--หมั่นสร้างนิสัยทำทีละอย่าง
10 มี.ค. 66 - หมั่นสร้างนิสัยทำทีละอย่าง
05/06/2023 • 29 minutes 7 seconds 25660309pm--จะฝึกฝนตนหรือปรนเปรอตน
9 มี.ค. 66 - จะฝึกฝนตนหรือปรนเปรอตน
05/06/2023 • 27 minutes 34 seconds 25660308pm--ไม่มีอะไรที่ให้ความหวังล้วนๆ
8 มี.ค. 66 - ไม่มีอะไรที่ให้ความหวังล้วน ๆ
20/05/2023 • 26 minutes 59 seconds 25660307pm--มองบวกและวางใจให้ถูกต้อง
7 มี.ค. 66 - มองบวกและวางใจให้ถูกต้อง
20/05/2023 • 29 minutes 29 seconds 25660306pm--บันไดสู่ความพ้นทุกข์
6 มี.ค. 66 - บันไดสู่ความพ้นทุกข์
20/05/2023 • 44 minutes 20 seconds 25660305pm--อย่าให้เจตนาดีส่งผลเสีย
5 มี.ค. 66 - อย่าให้เจตนาดีส่งผลเสีย
20/05/2023 • 29 minutes 13 seconds 25660305pm--นวัตกรรมชุมชนวิถีพุทธ
5 มี.ค. 66 - นวัตกรรมชุมชนวิถีพุทธ
10/05/2023 • 1 hour 4 minutes 9 seconds 25660227pm--เรียนรู้จากทุกข์ หาประโยชน์จากประสบการณ์
27 ก.พ. 66 - เรียนรู้จากทุกข์ หาประโยชน์จากประสบการณ์
08/05/2023 • 40 minutes 3 seconds 25660224pm--อยู่ด้วยปัญญา อย่าใช่แค่ความรู้สึก
24 ก.พ. 66 - อยู่ด้วยปัญญา อย่าใช่แค่ความรู้สึก : อันนี้มันเกิดขึ้นได้นะเพราะว่ารู้จักใคร่ครวญ เรียนรู้จากทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับกายและใจ หรือทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา เหตุร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา ก็รู้จักใคร่ครวญ อันนี้มันเกิดขึ้นได้เพราะว่าการที่ไม่ปล่อยให้ชีวิตเราเนี่ยมันไปถูกกำหนดโดยทุกขเวทนา หรือเอาเวทนาเป็นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสุขเวทนาหรือทุกขเวทนา
พูดง่ายๆคือไม่ได้อยู่ด้วยความรู้สึก แต่อยู่ด้วยความรู้ และความรู้ที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นได้เพราะว่ามันมีความรู้สึกตัวนะ มีความทุกข์แล้วถ้าไม่รู้สึกตัวนี่ มันก็ไม่เกิดการใคร่ครวญจนเกิดความรู้เกิดปัญญาเข้าใจความจริง ความรู้เนี่ยมันเกิดขึ้นได้เพราะความรู้สึกตัว และความรู้สึกตัว มันช่วยทำให้ความรู้สึกสุขทุกข์ไม่ครอบงำจิตใจ เราอยู่กับความรู้สึกมามาก มาบ่อยแล้ว ให้รู้จักอยู่กับความรู้สึกตัวดูบ้าง เพราะความรู้สึกตัวที่มันช่วยทำให้ความรู้เกิดขึ้นจากประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา
08/05/2023 • 27 minutes 27 seconds 25660223pm--ศิลปะแห่งความพอดี
23 ก.พ. 66 - ศิลปะแห่งความพอดี : ชีวิตนี่เป็นเรื่องของศิลปะแห่งความพอดี มันไม่ได้มีสูตรว่าจะต้องเอาอะไรเป็นหลัก แล้วถ้าเรามีสติมันก็ช่วยทำให้เรารู้ว่าเมื่อใดควรจะฟังเหตุฟังผล เอาความถูกต้อง แต่เมื่อใดควรจะใช้ความรู้สึก ใช้อารมณ์ ใช้ความเห็นอกเห็นใจ
อย่างมีคุณหมอคนหนึ่งบอก เวลาสามีภรรยาหรือแฟนทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน อย่าใช้เหตุใช้ผล ให้ใช้อารมณ์ อารมณ์ที่ว่าหมายถึงความรัก ให้ความรักมันลอยขึ้นมา อย่าใช้เหตุผล เพราะใช้เหตุผลเมื่อไหร่ มันจะเป็นการเอาผิดเอาถูก ทำให้ความขัดแย้งลุกลามมากขึ้น
ความขัดแย้งมันลุกลามเพราะอีกฝ่ายหนึ่งก็จะบอกว่าฉันถูกแกผิด อีกฝ่ายหนึ่งก็บอกว่าเธอผิดฉันถูก เหตุผลทั้งนั้นแหละ แต่แล้วมันก็กลับทำให้ความขัดแย้งลุกลามมากขึ้น
หลวงพ่อคำเขียนพูดอยู่เสมอว่าอย่าเอาถูกเอาผิด อย่าเอาเหตุเอาผลมากเกินไป เพราะว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งที่จะใช้ได้ในทุกกรณี ถ้าคนเรายึดมั่นแต่ความถูกความผิด หรือใช้เหตุใช้ผลอย่างเดียวมันก็แย่
และสิ่งที่จะช่วยทำให้เรารู้ว่าเมื่อไหร่ควรใช้เหตุใช้ผล เมื่อไหร่ควรจะใช้ความถูกต้อง เมื่อไหร่จะเอาอารมณ์ ไม่เอาถูกเอาผิด สิ่งนั้นคือสติ ซึ่งจะช่วยทำให้เร
08/05/2023 • 28 minutes 35 seconds 25660222pm--เฮงหรือซวยแค่ไหน ก็ไม่หวั่นไหว
22 ก.พ. 66 - เฮงหรือซวยแค่ไหน ก็ไม่หวั่นไหว : พอมีปัญญาเห็นแบบนี้เนี่ย มันไม่กลัวเรื่องความตาย แล้วก็พร้อมที่จะเปลี่ยนทุกข์ให้กลายเป็นธรรม เจอทุกข์ก็เห็นธรรม หรืออย่างที่หลวงพ่อคำเขียนว่า “เห็นทุกข์ก็พ้นทุกข์” ถ้าคนเรามีปัญญามีสติจนกระทั่งมั่นใจว่า “เห็นทุกข์ก็พ้นทุกข์” หรือ “เห็นทุกข์ก็เปลี่ยนเป็นธรรม” ได้นี่ มันก็ไม่หวั่นไหวในเรื่องความเฮงหรือความซวย สิ่งเหล่านี้ก็จะมีอิทธิพลต่อชีวิตของเราน้อยลง ทำให้เราสามารถที่จะดำเนินชีวิตด้วยสติด้วยปัญญาได้
ก็จริงอยู่นะ คนเรา ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชน ก็มีความเชื่อในเรื่องนี้บ้างไม่มากก็น้อย เรื่องโชคเรื่องลาง เรื่องความเฮงความซวย เรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อธิบายไม่ได้ แต่ว่าถ้าเรามีสติมีปัญญามากเท่าไร ความเชื่อเหล่านี้ก็จะมีอิทธิพลต่อจิตใจเราน้อยลง และทำให้เรามีความโปร่งความเบาได้มากขึ้น เพราะเราไม่หวั่นกลัวนะ
ไม่หวั่นกลัวทุกข์ เพราะเราสามารถที่จะเปลี่ยนทุกข์ให้เป็นธรรมได้ และเราก็ไม่ได้อยากได้ใคร่ดีอะไร เพราะรู้ว่ามันก็ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้ สิ่งนี้แหละที่จะทำให้เราเป็นอิสระอย่างแท้จริง อิสระด้วยธรรม ไม่ใช่ตกอยู่ในอำนาจของความเชื่
08/05/2023 • 27 minutes 36 seconds 25660221pm--แก้ทุกข์ได้เมื่อมั่นใจในธรรม
21 ก.พ. 66 - แก้ทุกข์ได้เมื่อมั่นใจในธรรม : ถ้าหากว่ายังไม่เคยเห็นว่า สติมันช่วยทำให้รับมือกับความทุกข์ได้ ไม่ต้องบังคับจิต ไม่ต้องกดข่มอารมณ์ แค่เห็นมัน เห็นความคิดเห็นอารมณ์ที่เกิดขึ้น แค่การเห็น หรือว่าการรู้ซื่อๆ มันมีอานิสงส์มีอานุภาพมาก พอเห็นตรงนี้ ก็เกิดความมั่นใจที่จะฝึกเห็น ฝึกรู้ ฝึกดูเฉยๆ มากขึ้น แล้วยิ่งทำๆ ก็ยิ่งทำถูก จากเดิมเห็นทีไร อดไม่ได้จะเข้าไปจ้องทุกที หรือแทนที่จะเห็นก็เข้าไปเพ่ง หรือแทนที่จะรู้ซื่อๆ รู้เฉยๆ ก็เข้าไปกดข่มมัน เผลออยู่เรื่อย เผลอเข้าไปบี้มัน เข้าไปกดข่มอารมณ์
แต่ว่าพอทำบ่อยๆ ชำนิชำนาญ ก็รู้ว่า รู้ซื่อๆ เป็นอย่างไร แล้วยิ่งเห็นผลว่า มันช่วยทำให้หลุดจากอารมณ์ได้ ช่วยทำให้อารมณ์หรือความทุกข์เข้ามาครอบงำจิตใจไม่ได้ ก็ยิ่งเกิดฉันทะในการปฏิบัติ
ความรู้สึกตัวก็เหมือนกัน พูดไปหลายครั้งก็ไม่ค่อยเกิดความศรัทธาเท่าไหร่ เพราะยังไม่ค่อยเห็นผล ยังไม่มีความมั่นใจ แต่พอพบว่าความรู้สึกตัวมันช่วยทำให้หลุดจากอารมณ์ได้ ก็เกิดความมั่นใจและเกิดฉันทะ เกิดความเพียรพยายามในการปฏิบัติมากขึ้น
สุดท้ายพอถึงเวลามีความทุกข์ มันก็ไม่ต้องไปพึ่งพาอบายมุข ไปพึ่ง
18/04/2023 • 26 minutes 19 seconds 25660220pm--มองให้เป็น จึงเห็นธรรม
20 ก.พ. 66 - มองให้เป็น จึงเห็นธรรม : ไม่ว่าเจออะไรเห็นอะไร มันก็เป็นเครื่องสอนใจ เครื่องเตือนใจ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเห็นคนที่สงบสำรวม ก็ยิ่งทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการที่จะทำความเพียร เพื่อจะได้มีความสงบสำรวม หรือเห็นคุณค่าของธรรมะที่ทำให้คนที่เห็นอยู่เบื้องหน้าเรานี้สงบสำรวม
อย่างที่อุปติสสะหรือพระสารีบุตรในเวลาต่อมา เห็นพระอัสสชิท่านสงบสำรวมมาก ก็เกิดความสะดุดใจ และทำให้ท่านได้เกิดดวงตาเห็นธรรมขึ้นมา หลังจากได้ฟังภาษิตของพระอัสสชิซึ่งมีแค่ 2 ประโยคเท่านั้นแหละ “ธรรมใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตกล่าวถึงเหตุแห่งธรรม และความดับแห่งธรรมนั้น” นี้เป็นคำสอนของพระมหาสมณะ คือพระพุทธเจ้า เท่านี้แหละ พระสารีบุตรหรืออุปติสสะดวงตาเห็นธรรมเป็นพระโสดาบันเลย อันนี้เรียกว่าเพราะรู้จักใคร่ครวญด้วย
เพราะฉะนั้นในด้านหนึ่งเราก็ต้องรู้จักหันมามองใจ หันมาดูข้างใน ดูกายและใจ ดูด้วยสติ เห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิต ซึ่งต่อไปก็จะทำให้เห็นธรรมในธรรม แต่ในขณะเดียวกันเมื่อมองสิ่งภายนอก ก็มองด้วยปัญญาหรือโยนิโสมนสิการ น้อมเข้ามาใส่ตัว เพราะถ้ามองเป็นก็เห็นธรรม เห็นธรรมที่ทำให้เกิดความเปลี่
18/04/2023 • 26 minutes 34 seconds 25660219pm--ใจปลอดภัย ถ้าใช้สติเป็น
19 ก.พ. 66 - ใจปลอดภัย ถ้าใช้สติเป็น : ความรู้สึกตัวหรือความรู้สึกทางกายเวลาเราเขยื้อนขยับมือ หรือกำลังทำอะไรก็ตาม ถ้าเราทำจนคุ้นเคยใช้เป็น มันจะเป็นตัวเรียกสติให้กลับมาได้ไว อย่างคนที่เดินจงกรมบ่อยๆ หรือขยับมือบ่อยๆ เวลาใจลอยขึ้นมา สักพักความรู้สึกทางกายมันจะไปเรียกจิตให้มันกลับมา หรือไปเรียกสติให้มันกลับมา เพื่อที่จะดึงจิตออกจากความหลง ออกจากความทุกข์ ออกจากความเครียด กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว รู้เนื้อรู้ตัวขึ้นมา
อันนี้คือสิ่งที่ใครๆ ก็ทำให้ถ้าหากว่าได้ทดลองปฏิบัติ ทำบ่อยๆ สติก็จะกลับมาไว สติก็จะรู้ได้เร็ว แล้วก็พาจิตกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว กลับมาอยู่กับปัจจุบัน แต่ถ้าไม่ปฏิบัติมันก็ไม่เข้าใจ เพียงแค่ “สติรู้ทันความคิดและอารมณ์” พูดแค่นี้ก็งงกันแล้ว
คนที่ฟังแต่ธรรมะแต่ไม่ปฏิบัติ มันก็จะมีคำถามว่า “สติคืออะไร” “สติทำงานอย่างไร” “สติสำคัญอย่างไร” แต่ถ้าปฏิบัติ ทีละเล็กทีละน้อย มันจะเข้าใจ พอเข้าใจแล้วก็จะสามารถทำให้สติทำงานได้เร็วขึ้น แล้วช่วยให้จิตมีเครื่องรักษา มีสิ่งดูแลให้ปลอดภัยได้
18/04/2023 • 29 minutes 51 seconds 25660215pm--ปล่อยวางทุกข์ ไม่ยึดสุข
15 ก.พ. 66 - ปล่อยวางทุกข์ ไม่ยึดสุข
18/04/2023 • 28 minutes 47 seconds 25660214pm--ขังคอกก่อนติดปีกให้เป็นอิสระ
14 ก.พ. 66 - ขังคอกก่อนติดปีกให้เป็นอิสระ : อนัตตลักขณสูตรสอนเรื่องนี้โดยตรงเลย ไม่มีเรื่องของความดี ไม่มีเรื่องของศีลเลย มีแต่เรื่องของสัจธรรมล้วนๆ และเป็นสัจธรรมในระดับโลกุตรธรรมเพื่อไม่ให้ยึดมั่นในขันธ์ ไม่ให้ยึดมั่นในตัวตน ไม่ยึดมั่นแม้กระทั่งในสิ่งที่เราที่สมมุติเป็นเราเป็นของเรา อันนี้แหละที่จะทำให้จิตเป็นอิสระ ที่ท่านอาจารย์พุทธทาสใช้คำว่า ชี้ทางให้บินไปหรือว่าติดปีกให้ ทีแรกก็ขังคอกก่อน หรือว่าพาตัวอยู่ในคอกเพื่อความปลอดภัย แล้วก็ไม่ไปเกกมะเหรกเกเร ไปก่อความวุ่นวายสร้างความเดือดร้อนให้ใคร อยู่ในคอกซะ แล้วก็จะได้ไม่มีสัตว์ร้ายมาทำอันตราย
แต่พออยู่ในคอกแล้ว ต่อไปก็ต้องรู้จักติดปีกให้เป็นอิสระ นี่คือจุดหมายสูงสุดนะของพุทธศาสนา เพราะฉะนั้นถ้าเราเข้าใจว่าคำสอนของพระพุทธเจ้า มันมี 2 ส่วนที่ดูเหมือนขัดแย้งกัน แต่ที่จริงไม่ใช่ แต่ว่าเสริมกัน แล้วก็จะมีอยู่เรื่อยๆ ไม่ใช่เฉพาะสอนเรื่องอนัตตาที่หนึ่ง แต่สอนเรื่องการรักตน การฝึกตน
08/04/2023 • 26 minutes 28 seconds 25660213pm--เจออะไรใจไม่ทุกข์ก็ได้
13 ก.พ. 66 - เจออะไรใจไม่ทุกข์ก็ได้
08/04/2023 • 28 minutes 20 seconds 25660212pm--ความดีมีคุณค่าอย่าดูแคลน
12 ก.พ. 66 - ความดีมีคุณค่าอย่าดูแคลน : การทำความรู้สึกตัว การเจริญสติ หรือการทำความดีช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น ไม่ใช่ทำแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวแล้วไปรอผลวันหน้าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ แต่ว่าเราทำอยู่เรื่อยๆ ให้มันกลายเป็นเนื้อเป็นตัว ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตจิตใจ อันนี้มันจะทำให้เรามีหลักประกันที่มั่นคงมากกว่า
บางทีอาจจะทำให้เราไม่จำเป็นต้องไปเจอวิกฤตชีวิตในวันข้างหน้าก็ได้ เพราะเราใช้ชีวิตอย่างมีสติ รู้จักรักษาใจให้ผ่องใส แต่ถึงแม้ว่าเราไม่มีโอกาสที่จะทำสิ่งนั้นให้ต่อเนื่อง แต่ว่าให้มั่นใจว่าสิ่งที่เราทุ่มเทไปสิ่งที่เราลงแรงไป มันย่อมเกิดผลแน่นอน เพียงแต่ว่าเราไม่รู้ว่ามันจะเกิดเมื่อไหร่ อันนี้รวมไปถึงการทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่น
อย่างที่เคยพูดเอาไว้ การลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิตก็คือ การลงทุนให้กับปฏิบัติธรรม การเจริญสติ การภาวนา และการทำความดี มีน้ำใจต่อผู้อื่น สิ่งเหล่านี้มันไม่มีคำว่าสูญเปล่า มันย่อมส่งผลอย่างแน่นอน และอาจจะส่งผลอย่างยาวไกลก็ได้หากว่าเราทำอย่างสม่ำเสมอ
08/04/2023 • 27 minutes 5 seconds 25660211pm--จากชอบใจเป็นทำใจให้ชอบ
11 ก.พ. 66 - จากชอบใจเป็นทำใจให้ชอบ : เราชอบใจเรื่องอะไร เราก็ต้องเปลี่ยนให้มันเป็นทำใจให้ชอบ เช่น อาหารที่อร่อย เพลงที่เพราะ พอเราฟัง พอเรากิน ใจมันก็เพลิดเพลิน เกิดความชอบขึ้นมา บางทีถึงกับติดอกติดใจ สำหรับการปฏิบัติแล้ว มันยังไม่ดีพอ ต้องเปลี่ยนให้กลายเป็นความปกติ หรือว่าทำใจให้เป็นกลาง ทำใจให้เป็นกลางเรียกว่าทำใจให้ชอบ คือถูกต้อง เป็นกลาง ไม่ขึ้นไม่ลง
การที่เราฝึกให้รู้จักรู้ซื่อๆ ก็คือการทำให้ใจให้เป็นกลางกับสิ่งต่างๆ แม้จะเป็นสิ่งที่ดีก็ไม่เพลิดเพลิน ไม่หลงไหลคือไม่ชอบใจ ไม่ได้ปล่อยใจให้ชอบ แต่ว่ารักษาใจให้เป็นปกติ เราต้องมารู้จักกับความชอบแบบนี้ด้วย
25660210pm--รักษาแผลใจด้วยความรู้สึกตัว
10 ก.พ. 66 - รักษาแผลใจด้วยความรู้สึกตัว : ถ้าใจเรามีแผล มีการกระทบอะไรเกิดขึ้นก็ทุกข์ได้ง่าย แล้วคนเราก็อดไม่ได้ที่จะไปโทษรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสสิ่งภายนอกว่าทำให้เราทุกข์ ทำให้เราเจ็บปวดในใจ แต่ที่จริงแล้วเป็นเพราะใจเรามีแผลคือ มันไม่มีสติรักษาใจ จึงปล่อยให้อารมณ์ ความทุกข์ ความกลัวต่างๆ ครอบงำใจ อันนี้คือความจริง ถ้าเราเห็นมัน จะมีคุณมีประโยชน์มาก เพราะมันจะช่วยน้อมนำให้เราหันมาปรับเปลี่ยนที่ใจของเรา ใจที่จะไปคิดปรับเปลี่ยนสิ่งภายนอกหรือว่ากำจัดสิ่งที่เราคิดว่าเป็นเหตุแห่งความทุกข์ เหตุแห่งความโกรธด้วยความหงุดหงิดออกไป ถ้าเราคิดแบบนั้นก็จะไม่มีทางแก้ปัญหาได้ ก็เหมือนกับหมาขี้เรื้อนมันย้ายที่ย้ายวัดหรือว่าย้ายสถานที่อย่างไรก็ไม่หายคัน เพราะมันไม่ได้แก้ปัญหาที่ถูกจุดก็คือว่ามาแก้ที่ตัวมันนั่นแหละ รักษาแผลให้หาย เหมือนกับการรักษาใจไม่ให้ความหลงครอบงำ มันก็ทำให้ความทุกข์ ยากที่จะเกิดขึ้นกับจิตใจของเราได้ หรือถึงเกิดขึ้นก็ไม่สามารถเผาลนบีบคั้นหรือว่ากรีดแทงใจเราได้
30/03/2023 • 31 minutes 4 seconds 25660209pm--ไปไม่ว่า ให้กลับมาไวๆ
9 ก.พ. 66 - ไปไม่ว่า ให้กลับมาไวๆ : หลวงพ่อเทียนบอกว่าอย่าอยู่นิ่งๆ ถ้าไม่เดินจงกรมไม่สร้างจังหวะ ก็ให้คลึงนิ้ว พลิกมือไปพลิกมือมา เพราะความรู้สึกที่เกิดจากการเคลื่อนมือการขยับเท ้านี่แหละ ที่จะเป็นตัวดึงจิตให้กลับมา
อย่างที่ว่า มันไปไม่ว่า แต่สำคัญตรงที่ว่ากลับมา มันจะไปกี่ครั้งๆ ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่ามันกลับมาบ่อยไหม บางคนไปวัดว่าใจไม่ไหลเลย ทำชั่วโมงหนึ่งใจไม่ไหลเลย หรือใจไหลแค่ 2-3 ครั้ง อันนั้นไม่สำคัญเท่ากับว่ามันไหลไปแล้วกลับมาไวไหม อย่างที่หลวงพ่อคำเขียนว่า มันเก่งตรงที่มันกลับมา ไม่ใช่ว่าเก่งตรงที่ไม่ไป แต่เก่งตรงที่มันกลับมาไว กลับมาบ่อยๆ ถ้าเราจับหลักนี้ได้ การปฏิบัติก็จะเป็นเรื่องง่าย
30/03/2023 • 30 minutes 11 seconds 25660208pm--ฝึกจิตได้ง่าย ถ้าไม่ตั้งโจทย์ยาก
8 ก.พ. 66 - ฝึกจิตได้ง่าย ถ้าไม่ตั้งโจทย์ยาก : จะว่าไปมันก็เป็นทั้งความยากและความง่าย เพราะว่าถ้าตั้งใจนึกมันดูง่าย แต่บางทีการที่มันนึกขึ้นมาได้เอง ก็อาจจะง่ายกว่า เพราะเราไม่ต้องทำอะไรเลย เดี๋ยวมันนึกขึ้นมาได้เอง ที่ว่าเราไม่ต้องทำอะไรเลยเพราะอะไร เพราะมันเป็นงานของสติ สติมันทำงานให้กับเรา มันทำงานแทนเรา ระลึกขึ้นมาได้เองว่ากำลังฟังธรรมอยู่ ขณะนี้กำลังยกมือสร้างจังหวะ กำลังเดินจงกรม มันนึกขึ้นมาได้เอง
เหมือนกับที่เรานึกขึ้นมาได้เอง ขณะกำลังทำงานอยู่ หรือกำลังดูหนังอยู่ ก็นึกขึ้นมาได้ว่านี่เรานัดเพื่อนเอาไว้ เรานัดว่าจะโทรศัพท์ไปถามข่าวคราวเขา หรือนึกขึ้นมาได้ว่าเราตั้งน้ำร้อนเอาไว้เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว ถามว่ามันนึกขึ้นมาได้อย่างไร ไม่รู้ แต่มันนึกขึ้นมาได้เอง
แต่ว่าการนึกขึ้นมาได้เองขณะปฏิบัติ จะว่าไปแม้มันไม่ได้เกิดจากการตั้งใจนึก แต่เราสามารถจะทำให้มันเกิดขึ้นได้เร็ว ด้วยการทำไปเรื่อยๆ ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ปฏิบัติบ่อยๆ ให้โอกาสมันนึกขึ้นมาได้บ่อยๆ แล้วมันจะนึกขึ้นมาได้เร็ว มันจะนึกขึ้นมาได้ไว โดยที่เราไม่ต้องทำอะไร นอกจากทำไปเรื่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ
เพราะฉะนั้นถ้าเร
30/03/2023 • 26 minutes 29 seconds 25660207pm--สุขสุดท้ายที่ปลายทาง
7 ก.พ. 66 - สุขสุดท้ายที่ปลายทาง
30/03/2023 • 1 hour 13 minutes 53 seconds 25660203pm--ฝึกจิตให้ยอมรับความจริง
3 ก.พ. 66 - ฝึกจิตให้ยอมรับความจริง
23/03/2023 • 27 minutes 35 seconds 25660202pm--การลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิต
2 ก.พ. 66 - การลงทุนที่ดีที่สุดในชีวิต : แค่ถ้าเราฝึกจิตไว้ดี โดยเฉพาะฝึกสติ หนังสือมันจะเป็นบ่าวที่ดีของเรา แต่ถ้าเราปล่อยให้เป็นนายเมื่อไหร่ มันก็จะเป็นนายที่เลว เช่นเดียวกับความคิด ความคิดก็เป็นบ่าวที่ดีแต่เป็นนายที่เลว คนที่ติดหนังสือมากๆ เป็นเพราะว่าความคิดมันฟุ้งซ่านมาก จนกระทั่งต้องเอาหนังสือมาสยบไม่ให้ความคิดฟุ้งซ่าน แต่พอไม่มีหนังสือเมื่อไหร่ก็แย่
แต่ถ้าฝึกสตินะ มีหนังสือก็ดี ไม่มีก็ไม่เป็นไร เราเป็นนายของมันได้ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเวลาเกิดปัญหาในชีวิต พลัดพรากจากสิ่งรัก ประสบสิ่งที่ไม่รัก เจอความเจ็บความป่วย เจออุปสรรค เจอการงานล้มเหลว ก็ไม่ทุกข์ อย่างที่หลวงพ่อคำเขียนว่า “งานล้มเหลว แต่หลวงพ่อไม่ล้มเหลว” อันนี้เพราะว่าฝึกสติ ฝึกจิต
เพราะฉะนั้นจึงบอกได้ว่า มันไม่มีการลงทุนอะไรที่คุ้มค่าหรือประเสริฐที่สุด เท่ากับการฝึกสติ การอ่านหนังสือก็เป็นการลงทุนที่ดี แต่ว่ามันเป็นรองการฝึกสติและการฝึกจิต
23/03/2023 • 28 minutes 15 seconds 25660201pm--เสริมสร้างฉันทะให้งอกงามในใจ
1 ก.พ. 66 - เสริมสร้างฉันทะให้งอกงามในใจ : เวลาเห็นธรรมชาติ ถ้ามีฉันทะมันเกิดความกระตือรือร้น ที่อยากจะไปปลูกต้นไม้ อยากจะดูแลต้นไม้ให้งาม เพื่อให้ธรรมชาติได้มีความสมบูรณ์ แต่ถ้าหากว่ามองธรรมชาติด้วยตัณหา มันอยากจะเด็ดดอกไม้ อยากจะเด็ดดอกไม้เอากลับไปบ้าน อยากจะเอาต้นไม้กลับไป หรือว่าอาจจะอยากจะเก็บภาพเอาไว้เพื่อเป็นที่ระลึกเพื่อเป็นความทรงจำ อันนี้เรียกว่าเป็นความใฝ่เสพ เพียงแต่ว่าจะเสพทางไหน
แต่ถ้าฉันทะ มันอยากทำ อยากทำให้มันดี อยากทำให้เกิดความดีงามขึ้นกับสิ่งนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ ผู้คน สิ่งของ งานการ หรือตัวเอง ฉะนั้นถ้าเกิดว่าเราปลูกฉันทะให้มีขึ้น เท่ากับว่าเราจะมีพื้นฐานที่เข้มแข็งมั่นคงในการปฏิบัติธรรม ฉะนั้นเรื่องฉันทะเป็นเรื่องสำคัญ พระพุทธเจ้ายังตรัสว่า “ธรรมทั้งปวง มีฉันทะเป็นมูล” ไม่ว่าจะเป็นสัจธรรม คุณธรรม หรือจริยธรรมก็ตาม
23/03/2023 • 30 minutes 46 seconds 25660131pm--เรียนรู้ธรรมจากของจริง
31 ม.ค. 66 - เรียนรู้ธรรมจากของจริง : วิชาธรรมะก็เหมือนกัน ธรรมะที่เป็นเรื่องการบรรเทาทุกข์หรือพ้นทุกข์นี่มันก็ต้องเรียนรู้จากของจริงด้วย รวมทั้งการเจริญสติ การสร้างความรู้สึกตัว ก็ต้องเรียนรู้จากของจริง เวลามีความโกรธ ความเศร้า เราจะเรียนรู้จากมันได้อย่างไร อย่างที่หลวงพ่อคำเขียนบอกว่า “เราได้ความไม่โกรธเพราะความโกรธ เราได้ความไม่ทุกข์เพราะความทุกข์ เราได้ความไม่หลงเพราะความหลง” ก็คือ ใช้ความโกรธ ความทุกข์ ความหลงนั่นแหละมาเป็นอุปกรณ์ หรือแบบฝึกหัดในการสร้างหรือพัฒนาความไม่โกรธ ความไม่ทุกข์ ความไม่หลง
เราต้องรู้จักเรียนจากของจริงด้วย แม้ว่าเราจะไม่ชอบ ของจริงที่ว่า เพราะมันเป็นปัญหา แต่การเรียนรู้จากปัญหานี่แหละที่มันทำให้เราเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเจริญสติ การทำความรู้สึกตัว หรือการเจริญปัญญา ฉะนั้น เวลาเราเจอปัญหาพวกนี้ ก็ให้ถือว่าเรากำลังเจอแบบฝึกหัด แล้วการเรียนรู้จากของจริงนี้ มันเป็นการเรียนรู้ที่จะทำให้เราเกิดพัฒนาการ เกิดการก้าวกระโดด และเกิดความเติบโตได้
23/03/2023 • 25 minutes 27 seconds 25660130pm--แค่รักษาของดีที่มีอยู่แล้วในใจเราก็พอ
30 ม.ค. 66 - แค่รักษาของดีที่มีอยู่แล้วในใจเราก็พอ : แต่ถ้าหากยังไม่รู้ว่าจะขจัดปัดเป่าความหลงอย่างไร ก็หันมาสร้างสติ มาสร้างความรู้สึกตัวให้ต่อเนื่องก็แล้วกัน แล้วถ้าทำไปๆ สิ่งที่มันมีอยู่แล้วในใจเราก็จะแสดงตัวออกมา แล้วก็จะเป็นที่พึ่งพาอาศัยของเราได้ ไม่มีอะไรที่จะมาทำให้เรามีสติมีความรู้สึกตัวหรือมีความสงบได้ เพราะว่าทั้งหมดนี้มันมีอยู่แล้วในใจเรา สิ่งอื่นเป็นแค่ตัวช่วย เหมือนกับป่าที่ช่วยดึงความสงบ ที่มันมีอยู่แล้วในใจเราให้แสดงตัวออกมา หรือเหมือนกับผ้าห่มที่มันเพียงแค่รักษาความอบอุ่น ซึ่งที่จริงก็มาจากร่างกายของเรานั่นแหละ
ถ้าเรารักษาสติ รักษาความสงบ รักษาความรูู้สึกตัวในลักษณะนี้ ก็จะทำให้สติ ความรู้สึกตัว ความสงบ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แล้วก็สามารถที่จะปกป้องเราไม่ให้จมอยู่ในความทุกข์ได้
19/03/2023 • 27 minutes 32 seconds 25660128pm--อย่าทำดีเพื่อสนองอัตตา
28 ม.ค. 66 - อย่าทำดีเพื่อสนองอัตตา : ถ้าเราดูก็จะพบว่าหมอที่ทุ่มเททำมาก แกไม่ได้ทำเพื่อคนไข้ แต่ทำเพื่อตัวเอง เพื่อสู้กับโรคร้ายที่สร้างความแค้นส่วนตัวให้กับเธอ การทำอย่างนี้สุดท้ายก็ไปตกหนักที่คนไข้ เพราะว่าหมอต้องการยื้อสุดชีวิต สู้ทุกทาง เพื่อไม่ให้ตัวเองได้ชื่อว่าพ่ายแพ้ ทั้งๆ ที่มันก็ธรรมดา โรคบางโรคหรือบางเคสก็รุนแรงจนกระทั่งความตายเป็นสิ่งที่หนีไม่พ้น ในกรณีแบบนี้ ช่วยให้เขาตายสงบ ก็อาจจะเรียกว่าเป็นความสำเร็จของหมอก็ได้ ไม่ใช่ว่าความตายของคนไข้จะหมายถึงความล้มเหลวของหมอเสมอไป
แต่หมอนี่มองเห็นว่าความตายของคนไข้เป็นความล้มเหลวของตัว ก็เลยไม่ยอมให้คนไข้ตาย แล้วถ้าคนไข้ต้องตาย ก็ไม่ยอมให้คนไข้ตายกับมือ ให้หมอคนอื่นมาดูแลแทน ให้คนไข้ไปตายในมือของเขา ไม่ใช่ในมือของตัวเอง อันนี้เรียกว่าเป็นการทำจะเรียกว่าสนองอัตตาก็ได้ ซึ่งมันไม่ใช่เป็นเรื่องที่ดีเลย ไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อคนไข้ ไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อตัวเองด้วย
19/03/2023 • 23 minutes 32 seconds 25660127pm--มาวัดเพื่อฝึกตนดีกว่า
27 ม.ค. 66 - มาวัดเพื่อฝึกตนดีกว่า : ถ้าเราไม่รู้จักฝึกตน เพื่อรู้จักพบหรือสร้างความสงบให้เกิดขึ้นกับใจของเรา แล้วเราจะรับมือกับความไม่สงบที่เกิดขึ้นกับกายและใจ หรือเกิดขึ้นกับรูปกับนามได้อย่างไร เราจะมีวิชชาในการรับมือกับความไม่สงบหรือความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับกายและใจได้ ส่วนหนึ่งก็อาศัยจากการเรียนรู้ที่จะวางใจให้ถูกต้อง เวลามีปัญหาเกิดขึ้นรอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นเสียงดัง อากาศหนาว หรือการกระทำ หรือคำพูดของผู้คนที่ไม่ถูกใจ
ฉะนั้นถ้าเรามาวัด แล้วตั้งจิตหรือเจตนาว่า เรามาอยู่วัดเพื่อฝึกตน อันนี้เราจะได้ประโยชน์จากการอยู่วัดมาก แต่ถ้าเรามาวัดเพราะด้วยความหวังว่าจะมาหาความสงบ เราจะผิดหวัง หลายคนพออยู่ไปนานๆ โอ๊ะ!ทำไมมันไม่สงบนะ ทำไมเป็นอย่างนี้นะ เกิดความทุกข์ขึ้นมาเลย นี่เพราะเขาตั้งจิตหรือตั้งเจตนาไม่ถูก อาจจะมีประโยชน์ชั่วคราว
เราต้องถามตัวเราเองว่า เรามาวัดเพื่ออะไร มาอยู่วัดเพื่ออะไร เพื่อมาหาความสงบ หรือเพื่อมาฝึกตน ถ้าคิดว่ามาอยู่วัดเพื่อหาความสงบก็ควรจะเปลี่ยน เปลี่ยนมาวัดเพื่อฝึกตน เพราะนั่นจะทำให้เราได้ประโยชน์จากการอยู่วัดมากกว่า แล้วทำให้เรามีวิชชา
ถ้าเราฝึกตนให้ถูกต
19/03/2023 • 25 minutes 35 seconds 25660126pm--ทำดีง่ายกว่าโชคดี
26 ม.ค. 66 - ทำดีง่ายกว่าโชคดี : เรื่องของใจนี่สำคัญมากทีเดียว ถ้าหากเราวางใจดี แม้มันจะมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้น ร้ายก็กลายเป็นดีได้ ทำงานประสบอุปสรรค ไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าเป็นความล้มเหลว ถ้าวางใจดีก็จะคิดว่า เราได้เรียนรู้อะไรมากมาย ไม่มีคำว่าล้มเหลว ไม่มีคำว่าเสีย ไม่มีคำว่าเคราะห์ มีแต่คำว่าได้ ถึงเวลาทรัพย์สมบัติถูกไฟไหม้ ถูกน้ำท่วม ก็ไม่โทษว่าเป็นเพราะปีชง ไม่โทษว่าเป็นเพราะเคราะห์หรือมองว่าซวย แต่มองว่าเขามาสอนเรานะว่า มันไม่มีอะไรที่เป็นของเราเลย ไม่มีอะไรที่เป็นของเรา หรือของที่อยู่กับเรามันก็อยู่กับเราแค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ
เหมือนกับเมื่อสองอาทิตย์ก่อน มีคนมาหาแล้วก็บอกว่า บ้านโดนไฟไหม้ แต่เขาก็บอกว่าโชคดีที่ไม่มีใครตาย ทุกคนปลอดภัย แล้วภรรยาก็บอกว่า มันได้เห็นจริงๆ เลยนะ ว่ามันไม่มีอะไรที่เป็นของเราเลย ที่เราสะสมมาทั้งชีวิต สุดท้ายมันก็หายสูญไปกับกองเพลิง ต่อไปนี้ก็คงจะไม่สะสมอีกแล้ว มันก็ช่วยคลายความยึดมั่นได้ อันนี้เรียกว่า เสียทรัพย์แต่ได้ปัญญา ได้เห็นธรรม ซึ่งก็เรียกว่ากำไร ไม่ขาดทุน แต่ถ้าเกิดเหตุแล้วไม่ได้อะไรเลย อันนี้ขาดทุนแน่นอน เอดิสันเขาได้เยอะแยะ ถึง
19/03/2023 • 25 minutes 38 seconds 25660125pm--อย่าลืมนึกถึงอนิจจังของคนที่เรารัก
25 ม.ค. 66 - อย่าลืมนึกถึงอนิจจังของคนที่เรารัก : อนิจจังเป็นคำสอนที่สำคัญในพุทธศาสนา ในแง่หนึ่งท่านก็สอนเพื่อให้เรารู้จักปล่อยวาง อะไรที่มันสูญไปแล้วเสียไปแล้ว ก็อย่าไปเศร้าโศกเสียใจหรือเป็นทุกข์มากเพราะมันไม่เที่ยง บางทีเราก็ใช้เป็นคำปลอบใจ
อนิจจาอนิจจังเป็นทั้งสิ่งที่ช่วยปลอบใจ แล้วก็ช่วยให้เราทำใจ ทำใจคือปล่อยวาง แต่ว่าอนิจจาหรืออนิจจังมีความหมายหรือมีคุณค่ามากกว่านั้น มันเป็นสิ่งที่เตือนใจให้เราอย่านิ่งนอนใจ ปลอบใจก็ดีนะ ถ้าหากว่ามันเกิดขึ้นแล้ว แต่ถ้ามันยังไม่ทันจะเกิดขึ้น ก็อย่านิ่งนอนใจ เพราะมันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
คนเราใช้อนิจจังมักจะใช้เพื่อการปลอบใจ หรือใช้เพื่ออย่างมากก็ปล่อยวาง แต่มันไม่พอ มันต้องฝึก มันต้องเตือนให้เราไม่นิ่งนอนใจด้วย ก็คือไม่ประมาท
เมื่อไม่นิ่งนอนใจก็ทำให้เกิดความกระตือรือร้นที่จะทำอะไรที่ควรทำ เช่น อยากจะขอขมาก็รีบทำเสีย อย่าประมาท หรือว่าอยากจะทำดีกับใคร อยากทำดีกับพ่อแม่ก็รีบทำเสีย อย่าผัดผ่อน เพราะถ้าผัดผ่อนแล้วก็อาจจะเสียใจ บางทีเสียใจไปตลอดชีวิตเลย เพราะว่ารู้แล้วไม่ทำ ยิ่งเสียใจเข้าไปใหญ่ ถ้าไม่รู้ ไม่คิด มันก็
13/03/2023 • 27 minutes 9 seconds 25660124pm--ลำบากก่อน สบายที่หลังดีกว่า
24 ม.ค. 66 - ลำบากก่อน สบายที่หลังดีกว่า
13/03/2023 • 25 minutes 41 seconds 25660123pm--สติฝึกง่ายกว่าที่คิด
23 ม.ค. 66 - สติฝึกง่ายกว่าที่คิด
13/03/2023 • 26 minutes 45 seconds 25660121pm--จำเป็นต้องมีศาสนาหรือไม่
21 ม.ค. 66 - จำเป็นต้องมีศาสนาหรือไม่ : "บางทีก็มีคำถามว่า “นับถือพุทธศาสนาแล้วจำเป็นต้องเข้าวัดไหม ไม่เข้าวัดนี่ได้ไหม บาปไหม” ก็มีคนถามแบบนี้ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นคนรุ่นใหม่ ที่เขาไม่ได้มีความศรัทธาหรือรู้สึกดื่มด่ำกับการเข้าวัด เขานับถือพุทธศาสนา แต่เขานับถือในความเป็นเหตุเป็นผล ก็เลยสงสัยว่าต้องเข้าวัดไหม เพราะการเข้าวัดสำหรับคนจำนวนมากมันเป็นเรื่องของพิธีกรรม
ที่จริงก็ไม่จำเป็นนะ เพราะศาสนาไม่ได้อยู่ที่วัด ศาสนาไม่ได้ผูกขาดโดยวัด ศาสนานี่อยู่ที่การปฏิบัติ หรือถ้าพูดให้ถูกต้องก็คือ ศาสนาอยู่ที่ใจ อยู่ที่กาย วาจา ใจ ทำกายวาจาให้ดี มีจิตผ่องแผ้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าวัดก็ได้ เพียงแต่การเข้าวัดสำหรับหลายคนมันช่วย เพราะวัดเป็นที่ร่มรื่น เป็นสถานรมณีย์ แล้วก็มีครูบาอาจารย์ มีกัลยาณมิตรที่ช่วยส่งเสริมการปฏิบัติ แต่ถ้าไม่มีเวลาก็ไม่เป็นไร บางคนต้องดูแลพ่อแม่ บางคนก็มีภาระที่บ้านต้องดูแลลูก
มีบางคนเขาบอกว่า ตั้งใจอยากจะมาปฏิบัติสัก 5 วัน 7 วัน แต่มาไม่ได้เลยเพราะว่าภาระเยอะ แล้วก็ถามว่า บาปไหม แบบนี้ก็มีนะ สงสัยว่าบาปไหม ตั้งใจจะมาแล้วมาไม่ได้ มันจะบาปตรงไหนนะ ในเมื่อเรามีกิจจำเป็น ท
11/03/2023 • 30 minutes 47 seconds 25660119pm--ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ก็ให้นึกถึงธรรม
19 ม.ค. 66 - ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ก็ให้นึกถึงธรรม
11/03/2023 • 29 minutes 18 seconds 25660118pm-ยิ่งถือก็ยิ่งทุกข์
18 ม.ค. 66 - ยิ่งถือก็ยิ่งทุกข์
11/03/2023 • 28 minutes 3 seconds 25660117pm--เตือนสติให้ใจด้วยฉันทะ
17 ม.ค. 66 - เตือนสติให้ใจด้วยฉันทะ
06/03/2023 • 25 minutes 57 seconds 25660116pm--ดูแลตนอย่าให้กลายเป็นคนละคน
16 ม.ค. 66 - ดูแลตนอย่าให้กลายเป็นคนละคน : ถ้าหากว่าไม่มีความไปยึดมั่นถือมั่น มันเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ทุกข์ แต่ตามนิสัยปุถุชนที่ยึดมั่นถือมั่น ไม่มากก็น้อย เพราะฉะนั้นพอเกิดความสูญเสีย เกิดความเจ็บป่วย เกิดความแก่ชรา ก็เกิดความทุกข์ใจตามมา แต่อย่างน้อยถ้าหากว่ามีการสังวรระวัง ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทตั้งแต่แรก แล้วก็ฝึกจิตฝึกใจเอาไว้ ถึงเวลามันเสื่อม มันแปรเปลี่ยนไป มันก็ไม่ทุกข์มาก แล้วยิ่งมีสติ ก็เหมือนกับมีสิ่งที่จะช่วยให้อารมณ์พวกนี้มาเปลี่ยนให้เรากลายเป็นคนละคนได้ยากขึ้น
เหมือนอย่างที่บอก มันไม่ใช่เหล้าที่เปลี่ยนนิสัยคน อารมณ์พวกนี้ก็เปลี่ยนนิสัยคนได้ ความโศกเศร้า ความโกรธ ความห่อเหี่ยว ท้อแท้ ผิดหวัง มันเปลี่ยนนิสัยคนให้กลายเป็นคนละคนได้ แต่ถ้าเรามีสติรักษาใจเอาไว้ ไม่ให้อารมณ์เหล่านี้ครอบงำ อย่างน้อยๆ มันก็ไม่ถึงกับเสียศูนย์ ก็ยังพอที่จะตั้งหลักได้
แล้วก็ทำให้สามารถระลึกนึกถึงวิชาความรู้หรือธรรมะ คำสอนของครูบาอาจารย์เพื่อนำมาแก้ไข หรือใช้สติช่วยรักษาใจให้ไม่ถึงกับเสียศูนย์ หรือช่วยทำให้ยังเป็นผู้เป็นคนได้ ไม่อย่างนั้นก็ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของอารมณ์
หากปล่อยให้ตกอยู่ภาย
06/03/2023 • 26 minutes 59 seconds 25660114pm--รู้ตัวจนไม่ยึดติดตัวตน
14 ม.ค. 66 - รู้ตัวจนไม่ยึดติดตัวตน
06/03/2023 • 26 minutes 30 seconds 25660113pm--ทำอะไรก็ไม่ลืมเป้าหมาย
13 ม.ค. 66 - ทำอะไรก็ไม่ลืมเป้าหมาย : คนที่มีสติกับงานที่ทำก็จะไม่ใจลอย หลงลืม แล้วก็จะรู้ว่าถ้าอยากจะพาแม่ไปเที่ยว พาไปเลย ไม่ต้องรอเกษียณ เดือนหน้าอาจจะช้าไปด้วยซ้ำ มันทำได้ถ้าหากว่ามีสติ มีความรู้สึกตัวในสิ่งที่ทำ แต่พอไม่มีสติอยู่ในกิจที่ทำ เรียกว่าไม่มีโคจรสัมปชัญญะ บางทีก็ลืมไปเลยว่าสิ่งที่เราทำ เราทำไปเพื่ออะ ไร
ฉะนั้นการทำความรู้สึกตัวจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่จะช่วยทำให้เราสามารถที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง แล้วทำสิ่งที่สมควรทำ มีจุดมุ่งหมายอะไรก็ไม่ลืม แล้วก็สามารถทำให้มันสำเร็จได้ในเวลาที่เหมาะสม
03/03/2023 • 27 minutes 43 seconds 25660112pm--ฝึกใจให้เป็นมิตรกับตนเอง
12 ม.ค. 66 - ฝึกใจให้เป็นมิตรกับตนเอง : เหมือนกันกับเวลารู้ทันความคิด พอรู้ทันปุ๊บมันไปกดห้ามทันที เพราะอะไร เพราะไม่ชอบ เพราะรู้สึกลบกับมัน ขืนทำอย่างนี้มันก็เท่ากับเป็นการเติมกำลัง เติมพลังให้มัน แต่ถ้าจะเอามันอยู่ก็ต้องรู้ทันแบบรู้ซื่อๆ ไม่ไปผลักไส ไม่ไปตะลุมบอนกับมัน ไม่ไปสู้กับมัน แค่ดูมันเฉยๆ
มันก็แปลกนะ พอไม่สู้กับมัน แค่ดูมันเฉยๆ มันก็กลับหมดเรี่ยวหมดแรงไปเลย แต่ถ้าไปสู้กับมัน ก็เท่ากับเป็นการเติมพลังให้มัน เหมือนกับเราเติมเชื้อเติมฟืนให้กับไฟ แทนที่มันจะมอดดับก็เลยลุกโพลงขึ่้นไปใหญ่
คนที่บอกว่า ทำไมควบคุมอารมณ์ไม่ได้สักที ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าไม่ได้รู้เฉยๆ แต่เข้าไปคลุก เข้าไปสู้กับมัน อันนี้เพราะว่าทำไม่ถูก นอกเหนือจากว่ายังไม่ค่อยทำความเพียรหรือปฏิบัติอย่างจริงจัง มีการเลือกปฏิบัติ เวลาดีใจก็ปล่อยใจจมเข้าไปกับความดีใจ แต่พอเสียใจนี่กลับอยากจะมารู้ทันมัน อยากจะควบคุมมัน ไม่ได้นะ มันต้องไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
ดีใจ เสียใจ ปลาบปลื้ม หรือโกรธเคือง ก็ต้องรู้ทันมันทั้งคู่นะ จะปล่อยใจจมไปกับเรื่องหนึ่งอารมณ์แบบหนึ่ง แล้วมารู้ทันกับอารมณ์อีกแบบหนึ่ง มันยาก
ก็เหมือน
03/03/2023 • 26 minutes 25 seconds 25660111pm--มิตรดีเป็นทั้งหมดของชีวิตดี
11 ม.ค. 66 - มิตรดีเป็นทั้งหมดของชีวิตดี : แม้ว่าคนอยู่รอบตัว คนที่อยู่รอบข้างจะล้มหายตายจากไป จิตก็ยังไม่หวั่นไหว ไม่เศร้าโศก ยังคงเป็นจิตที่เกษมศานต์ เพราะว่าเป็นจิตที่ไม ่มีความยึดติดถือมั่นกับสิ่งใด เพราะรู้เท่าทันธรรมชาติธรรมดาของชีวิต ชีวิตพรหมจรรย์จึงประเสริฐกว่าชีวิตทั้งโลก
แม้ว่ากัลยาณมิตรจะเป็นทั้งหมดของชีวิตทางโลกที่ดี แต่ว่าก็อย่าพอใจเพียงเท่านั้น ต้องพัฒนาชีวิตทางโลกให้เข้าถึงชีวิตทางธรรม คือพรหมจรรย์ พรหมจรรย์คือการดำเนินชีวิตอันประเสริฐ ไม่ใช่หมายถึงการไม่มีครอบครัว แต่หมายถึงการมีชีวิตอันประเสริฐ ประเสริฐเพราะมีธรรม เพราะเข้าถึงธรรม
03/03/2023 • 26 minutes 22 seconds 25660104pm--ทุกข์มีเพราะยึด ทุกข์หลุดเพราะปล่อย
4 ม.ค. 66 - ทุกข์มีเพราะยึด ทุกข์หลุดเพราะปล่อย : ยิ่งโลภมากก็ยิ่งมีความสุขน้อยลง ยิ่งมีความโลภเยอะก็ยิ่งมีความสุขน้อยลง สุขนี้คือความพอใจในชีวิตเป็นต้น ซึ่งอาจจะหมายความว่า ถ้าเรามองว่า ยิ่งโลภก็ยิ่งรวย ขณะเดียวกัน ยิ่งโลภก็ยิ่งมีความสุขน้อยลง แปลว่า ยิ่งรวยก็ยิ่งมีความสุขน้อยลงไปด้วย
อันนี้เขาถาม เวลาเขาถามว่าใครโลภมากหรือน้อย เขาไม่ได้ถามตรงๆ ว่าคุณโลภมากหรือน้อย แต่เขาถามว่าคุณเห็นกับข้อความนี้ไหม เช่นถ้ามีเท่าไหร่ฉันก็ยังไม่พอใจ หรือถ้ามีเท่าไหร่ฉันก็ยังอยากได้อีก คำถามทำนองนี้ก็บ่งบอกได้ว่า มีความโลภมากน้อยเพียงใด อันนี้น่าสนใจ ซึ่งถ้าจะให้ดีถ้าเขาศึกษาไปถึงขั้นที่ว่า ยิ่งมีความโลภมากสุขภาพยิ่งแย่ ยิ่งเจ็บยิ่งป่วยมาก อันนี้ก็จะสอดคล้องกับการศึกษาที่พูดเมื่อสักครู่นี้ ว่าถ้าไม่โกหกเลยก็จะมีสุขภาพดีขึ้น
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่จริงๆ เราก็รู้กันมานานแล้ว แต่ว่าไม่มีหลักฐานยืนยันเป็นรูปธรรมเป็นตัวเลข ฝรั่งเขาไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆ เขาต้องมีตัวเลขมายืนยันในรูปของสถิติ อันนี้เป็นเรื่องที่ถ้าใครอยากมีความสุข ต้องเห็นความสำคัญของการโลภให้น้อยลง แล้วก็มีศีลให้มากขึ้น
19/02/2023 • 28 minutes 25 seconds 25660103pm-เปลี่ยนใจได้ด้วยเมตตา
3 ม.ค. 66 - เปลี่ยนใจได้ด้วยเมตตา
19/02/2023 • 28 minutes 38 seconds 25660102pm--ไม่เอาสุข ไม่เอาทุกข์
2 ม.ค. 66 - ไม่เอาสุข ไม่เอาทุกข์ : ถ้าเราลองฝึกจากการสังเกตจิตใจของเรา เวลามันมีสุขเกิดขึ้นก็เห็นมัน มีความดีใจก็เห็นมัน มีความเสียใจก็เห็นมัน ไม่กระโจนเข้าไปทั้งดีใจหรือเสียใจ ฟูก็เห็นมัน ฟุบก็เห็นมัน เข้าไปยึดทั้งฟูทั้งแฟบ มันสงบก็เห็นมัน มันไม่สงบก็เห็นมัน มันสงบก็ไม่เข้าไปเป็น ไม่สงบไม่เข้าไปเป็น ต่อไปอารมณ์ภายนอกก็ เหมือนกัน หอมเหม็น มากน้อย ร้อนหนาว ชมติ ดังค่อย ก็แค่รู้มัน ไม่เพลินไปกับมัน แล้วก็ไม่ผลักมัน ก็ทำให้เราเข้าใกล้ เข้าถึงภาวะที่เหนือสุขเหนือทุกข์ และนั่นก็เรียกว่าเป็นสุขอีกมิติหนึ่ง ฝึกได้นะ จากใจของเรา จากประสบการณ์ จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
06/02/2023 • 28 minutes 33 seconds 25660101pm--สิ่งที่ป ัญญาประดิษฐ์ทำแทนไม่ได้
1 ม.ค. 66 (บ่าย) - สิ่งที่ปัญญาประดิษฐ์ทำแทนไม่ได้ : ถ้าเราเข้าใจข้อจำกัดของมัน เราก็จะใช้มันให้เกิดประโยชน์ได้ แต่ถ้าเราไม่เข้าใจข้อจำกัดของมัน ก็อาจจะปล่อยให้มันเป็นนายเรา เทคโนโลยีพวกนี้มันเป็นบ่าวที่ดี แต่เป็นนายที่เลว เพราะว่าจริงๆ มันก็ยังมีความบกพร่องอยู่ ผู้รู้ที่เขาทดสอบ เขาบอกว่าคำตอบของแชทตัวนี้ยังผิดพลาดอยู่เยอะ ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก หรืออย่างที่อาตมายกตัวอย่าง ถามว่าความรู้สึกตัวคืออะไร มันตอบไม่ได้ ตอบได้แต่ความรู้สึก หรือฟีลลิ่ง หรือเวทนา แต่ต่อไปอาจจะตอบได้ก็ได้ เพราะเขาก็มีพัฒนาการ
แต่ถามว่ามันจะช่วยเราแก้ทุกข์ได้ไหม ก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่สุดท้ายเราก็ต้องปฏิบัติด้วยตัวเอง และการที่เราจะปฏิบัติได้ด้วยตัวเองจนพึ่งตัวเองได้ ก็ยังต้องมีครูบาอาจารย์ ที่มีความเข้าใจในลูกศิษย์แต่ละคน รวมทั้งมีความเมตตากรุณา ซึ่งตรงนี้เครื่องมันทำแทนไม่ได้
31/01/2023 • 27 minutes 13 seconds 25660101am--คิดดีพูดดีทำดี รับปีใหม่
1 ม.ค. 66 - คิดดีพูดดีทำดี รับปีใหม่ : นอกจากการที่เราหาประโยชน์หรือมองเห็นประโยชน์จากสิ่งไม่ดีเพื่อที่จะได้เห็นสิ่งดีๆจากมันแล้ว เราต้องรู้จักมองเห็นสิ่งดีๆที่มีอยู่ตั้งแต่ตอนนี้ด้วย การที่จะมองเห็นสิ่งไม่ดีมีดีอย่างไรอาจจะยากสำหรับคนทั่วไปเพราะว่าเรามักจะมองอะไรชั้นเดียว แต่การที่เรารู้จักมองให้มันเลยจากปรากฏการณ์ที่เห็นอยู่ต่อหน้าว่าในร้ายมีดี มันเป็นสิ่งสำคัญ
แต่ว่าจะทำอย่างนั้นได้ เราต้องเริ่มต้นจากการที่เรารู้จักมองจากสิ่งดีๆที่มีอยู่กับเราเสียก่อน หลายคนแม้มีสิ่งดีๆอยู่รอบตัวหรือเกิดขึ้นกับตัวแต่มองไม่เห็น เพราะฉันนั้นมันก็ง่ายที่จะบ่นว่าเราโชคไม่ดี ปีนี้เป็นปีที่ไม่ดีสำหรับเราเลย เพราะเห็นแต่สิ่งที่ไม่ดี สิ่งดีที่มีอยู่ แล้วก็มากด้วย แต่เรามองไม่เห็น
มีเพื่อนคนหนึ่งเขียนคำอวยพรให้กับเพื่อนอีกคนหนึ่งเนื่องในโอกาสปีใหม่ “ขอให้เธอเห็นความสุข” เธอไม่ได้เขียนว่าขอให้เธอมีความสุข แต่ว่าขอให้เธอเห็นความสุข แปลว่าอะไร แปลว่าเธอมีความสุขอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเธอจะเห็นหรือเปล่า ขอให้เธอเห็นสิ่งดีๆที่เธอมีอยู่ ไม่ได้บอกว่าขอให้เธอพบแต่สิ่งดีๆ เพราะว่าเธอพบอยู่แล้วอยู่ที่ว่าเธอจะเ
31/01/2023 • 25 minutes 57 seconds 25651231pm--ปีใหม่ดีอยู่ที่เรา
31 ธ.ค. 65 - ปีใหม่ดีอยู่ที่เรา : เราจะไม่ต้องรอปีใหม่ ซึ่งบางทีอาจจะอีกตั้งหลายเดือนข้างหน้า แต่ถ้าเราสามารถทำให้ทุกวันเป็นวันใหม่ได้ เราก็จะมีวันดีเกิดขึ้นกับชีวิตของเราทุกวัน ก็ ฝากเอาไว้เป็นข้อคิด สำหรับการใช้ชีวิต สำหรับปีใหม่ที่จะมาถึง แล้วก็ตามธรรมเนียม ที่คนเขาปรารถนาการอวยพร
อาตมาก็ขออวยพรให้ทุกท่านมีสุขภาพร่างกายที่ดี มีพลานามัย ให้มีความมั่นคงในวิถีธรรม มีความมั่นใจในความเพียร ฝึกจิตให้ตั้งมั่น เจอทุกข์ก็ไม่ท้อ เจออะไรใจก็ไม่กระเทือน ให้มีความเจริญในธรรม รักษากายและใจ ให้มีความสุข ความสงบ และขอให้ได้พบความเกษมศานต์ ให้ห่างไกลความทุกข์ยิ่งๆ ขึ้นไป ตลอดปีใหม่ที่จะถึงนี้ ขอเจริญพร
23/01/2023 • 30 minutes 3 seconds 25651230pm--จิตบังคับไม่ได้ แต่ฝึกได้
30 ธ.ค. 65 - จิตบังคับไม่ได้ แต่ฝึกได้ : ครูบาอาจารย์ท่านบอก สงบก็รู้ไม่สงบก็รู้ มีความคิดไหลผ่านเข้ามาก็ดูจนกระทั่งมันไป คงไม่ต่างจากดูกระแสน้ำ ดูกระแสน้ำเรานั่งอยู่ริมตลิ่งแล้วก็ดูกระแสน้ำ บางทีมันก็ไหลแรง บางทีมันก็ไหลเอื่อยๆ บางทีมันก็ขุ่น บางทีมันก็ใส ไม่ใช่หน้าที่เราจะไปวิพากษ์วิจารณ์กระแสน้ำ แล้วเราก็ไม่สามารถบังคับควบคุมกระแสน้ำด้วย มันจะไหลแรงมันจะไหลเอื่อย เราก็ควบคุมไม่ได้ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องควบคุม ถึงเราควบคุมเราก็ทุกข์เปล่าๆ เพราะจะไม่มีทางสำเร็จ
หน้าที่เราคือดู หรือบางทีเราก็เปรียบเหมือนดูรถที่มันแล่นผ่าน โดยเฉพาะช่วงนี้ ถนนบางสายรถแล่นผ่านมาเป็นสาย เราก็ดู ไม่ต้องไปทำหน้าที่ห้ามรถ รถจะวิ่งก็ดูมันวิ่งไปผ่านต่อหน้า รถคันไหนไม่ชอบก็ไม่ต้องไปห้าม รถคันไหนชอบก็ไม่ต้องกระโดดขึ้น แต่ส่วนใหญ่เรามักจะทำอย่างนั้นกับความคิด ความคิดบางอย่างเราพยายามห้าม แต่ก็ไม่สำเร็จ ความคิดบางอย่างเราก็อยากจะกระโจนขึ้น เพราะมันชวนให้เพลิดเพลิน
แต่ว่าการเจริญสติ เราไม่ทำอย่างนั้น เราแค่ดูเฉยๆ รถมันจะมากหรือน้อย มันจะดี จะสวยหรือไม่สวยก็เป็นเรื่องของมัน เราก็ดูมันไป วิธีนี้แหละที่ทำให้สต
23/01/2023 • 28 minutes 42 seconds 25651229pm--ใช้ชีวิตทุกนาทีอย่างมีค่า
29 ธ.ค. 65 - ใช้ชีวิตทุกนาทีอย่างมีค่า : ในขณะที่คนที่บ่นว่าไม่มีเวลาๆ ชีวิตกลับเหนื่อยล้าแล้วก็บางทีก็ถูกกระแสสังคมพัดพาไปจนไม่รู้เนื้อรู้ตัว กว่าจะรู้ว่าเวลาเหลือน้อยก็สายไปเสียแล้ว
ฉะนั้นไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเร็วหรือผ่านไปช้า ตื่นเช้ามาก็เตือนตัวเตือนใจอยู่เสมอว่าเวลาเราเหลือน้อยลง ยิ่งปีใหม่กำลังใกล้เข้ามา นั่นก็หมายความว่าเราใกล้ความตายเข้าไปทุกที ก็ถามตัวเองว่าเวลาที่เหลือน้อยลงไปเรื่อยๆ นี้เราจะใช้อย่างไรให้มีคุณค่า
เวลานี่ถ้าหากว่าเราใช้ให้ดีก็มีประโยชน์ ถือว่ามีท่าทีมุมมองต่อเวลาอย่างเช่น ถ้าเรามองว่าเวลานี้ย่อมกลืนกินสรรพสิ่งกับทั้งตัวมันเอง เวลาแต่ละนาทีจะมีคุณค่า แล้วขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งกระตุ้นให้เราเร่งทำความดี เร่งฝึกสติเร่งทำความเพียรเพื่อให้เกิดปัญญาเข้าใจชีวิต
แต่ว่าบางคนก็มองเวลานี้เป็นศัตรู เพราะเวลาที่ผ่านไปก็หมายความว่าทำให้เราแก่ แก่เร็วขึ้นทำให้เราใกล้ความตายมากขึ้น แล้วคนจำนวนไม่น้อยมองเวลาเป็นศัตรู ถึงกับหรือบางทีก็มองเวลาว่าไม่มีคุณค่าต้องฆ่าเวลา
แต่ถ้ามองเวลานี้เขาเป็นเครื่องเตือนเรา ยิ่งเวลาเหลือน้อยยิ่งตั้งอยู่ในความไม่ประมาท แล้วยิ่งต้องเร่
17/01/2023 • 24 minutes 20 seconds 25651228pm--ความจริงเป็นสิ่งที่ต้องรู้จักวาง
28 ธ.ค. 65 - ความจริงเป็นสิ่งที่ต้องรู้จักวาง : แต่คนเราก็มักจะวางไม่เป็น เพราะว่าเราไปยึดมั่นกับสิ่งต่างๆ มาก อย่าว่าแต่อะไรเลย ความคิดความเห็น อารมณ์ความรู้สึกนี่ เราก็ยึดมั่น แต่ถ้าเรารู้จักเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง เริ่มจากความคิด ความคิดที่มันเกิดขึ้นมามากมาย แล้วเราก็ไปหลงยึดเอาจริงเอาจังกับมันทุกเรื่อง
ให้เรารู้จักปล่อยรู้จักวางบ้าง อย่างแรกที่เราจะได้คือความสงบ ใจไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ถูกความคิดรบกวน และสอง มันก็ ทำให้เรามีทักษะในการที่จะปล่อยวางสิ่งอื่นๆ ตามมา โดยเฉพาะสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา ทรัพย์สินเงินทอง ชื่อเสียงเกียรติยศ รวมทั้งความถูกความผิด สิ่งเหล่านี้ถ้าเราไม่รู้จักปล่อยรู้จักวางบ้าง เราไปยึดมั่นสถานเดียว มันก็สร้างความทุกข์ให้กับเรา
แต่ว่าเราจะปล่อยวางมันได้ เราต้องมีสติ ต้องมีประสบการณ์ เพราะหลายคนก็รู้ว่าปล่อยวางดี แต่ว่าปล่อยไม่ได้ เพราะว่ามันยึดตะพึดตะพือ ฉะนั้นการปล่อยวาง ถ้าเราไม่รู้จักฝึก มันก็ทำยากในชีวิตจริง แต่ถ้าเราฝึกเริ่มจากการฝึกปล่อยวางความคิด การเจริญสติ การสร้างความรู้สึกตัว มันก็เป็นแบบฝึกหัด ในขณะที่เราจะได้รู้จักปล่อยวางความคิด แล้วต่อไปเราก็จะปล่อ
17/01/2023 • 31 minutes 5 seconds 25651227pm--ชักชวนใจให้ใฝ่ประพฤติธรรม
27 ธ.ค. 65 - ชักชวนใจให้ใฝ่ประพฤติธรรม : มีนักปราชญ์กรีกคนหนึ่ง เขาพูดว่า ถ้าเราโกรธใครก็ตาม นั่นแปลว่าเรากำลังปล่อยให้เขาเป็นเจ้านายเรา เพราะว่าเรากำลังยอมให้เขามามีอิทธิพลรบกวนจิตใจของเรา คนที่เป็นอิสระ คนที่รักอิสระ คนที่มีความเป็นตัวของตัวเอง ย่อมไม่ปล่อยให้ความโกรธ ความเกลียด มาครอบครองใจ
พอเห็นความอิสระหรืออิสรภาพในความหมายนี้ มันก็ทำให้เห็นคุณค่าของการปฏิบัติธรรม เห็นคุณค่าของการเจริญสติ เพราะการเจริญสติช่วยทำให้สิ่งเร้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งยั่วยุหรือสิ่งเย้ายวนมามีอิทธิพลต่อจิตใจของเราได้ยาก เวลาเจอสิ่งเสพที่ให้ความเอร็ดอร่อย เราก็ไม่ปล่อยใจให้เป็นทาสของมัน ไม่หลงติดในสิ่งนั้น อันนี้ก็เรียกว่าเป็นอิสระแบบหนึ่ง หรือเวลามีอะไรมายั่วยุ แทนที่จะโกรธ ใจเรากลับสงบได้ อันนี้ก็ถือว่าเป็นอิสระที่คนเราควรจะมี
แต่ว่าคนจำนวนมากไม่ค่อยจะตระหนักเท่าไหร่ อิสระของเขากลับหมายความว่าจะทำอะไรก็ได้ตามใจ แต่ว่าการทำอย่างนั้นมันก็กลายเป็นการทำตามอำนาจของกิเลส หรือทำตามแรงผลักดันชักจูงของสิ่งภายนอก อาจจะเป็นวัตถุสิ่งเสพหรืออาจจะเป็นคนก็ได้ อย่างเช่นเวลาโกรธใครหรือเวลาเกลียดใคร คนก็ไม่ตระ
09/01/2023 • 26 minutes 7 seconds 25651226pm--หลงแค่ไหนใจก็ยังรู้สึกตัวได้
26 ธ.ค. 65 - หลงแค่ไหนใจก็ยังรู้สึกตัวได้ : เราเจริญสติบ่อยๆ พยายามทำความรู้สึกตัวอยู่เรื่อยๆ แม้ว่าเราจะอาจจะยังทำได้ไม่ดีนัก แต่ถึงเวลาที่มันเกิดความหลง มันจะหลงไม่ได้นาน มันจะเศร้า มันจะโกรธไม่ได้ต่อเนื่อง มันจะมีจังหวะที่เกิดความรู้ตัวขึ้นมา เกิดสติขึ้นมา และนั่นก็อาจจะมากพอที่จะทำให้เรากลับมาเป็นผู้เป็นคนหรือรู้เนื้อรู้ตัวได้
ฉะนั้นถ้าเกิดว่าเราทำเป็นอาจิณ ทำเป็นทุนเอาไว้ มันก็ทำให้ความหลงมันไม่สามารถจะครอบงำจนเราหมดเนื้อหมดตัว 100% ยังมีโอกาสที่จะฟื้นขึ้นมา มีโอกาสที่จะรู้สึกตัวขึ้นมาได้
09/01/2023 • 27 minutes 21 seconds 25651225pm--มองบวกด้วยปัญญา
25 ธ.ค. 65 - มองบวกด้วยปัญญา : หลวงพ่อคำเขียนชอบพูดว่า เปลี่ยนทุกข์ให้กลายเป็นความไม่ทุกข์ เปลี่ยนหลงให้กลายเป็นความไม่หลง เปลี่ยนความโกรธให้กลายเป็นความไม่โกรธ อันนี้ก็เป็นอุบายโกศลอีกอย่างหนึ่ง คือความฉลาดในการเปลี่ยนสิ่งที่เป็นลบให้กลายเป็นบวก เปลี่ยนขยะให้กลายเป็นปุ๋ย
ฉะนั้นถ้าเราเจออะไรก็ตาม แม้ว่ามันจะแย่ แต่พอเราให้ความหมายใหม่ ว่ามันเป็นสิ่งดีมีประโยชน์ได้เหมือนกัน มันก็ทำให้เราไม่เพียงแต่จะไม่ทุกข์แล้วนะ แต่ว่ายังได้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านั้นด้วย
กิเลส ความโกรธ ก็มีประโยชน์ ถ้าเรามองว่ามันเป็นแบบฝึกหัด เป็นอุปกรณ์ที่สอนให้เรามีสติ ให้เรามีความรู้สึกตัวไวๆ อันนี้ก็จัดว่าเป็นอุบายโกศล หรือว่ากุศโลบายอย่างหนึ่งที่เราควรจะมี พูดง่ายๆ ก็คือรู้จักเปลี่ยนทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาให้กลายเป็นประโยชน์ในการฝึกจิต ในการเพิ่มพูนธรรมะให้เจริญงอกงามในใจเรา
30/12/2022 • 31 minutes 54 seconds 25651218pm--ฝึกใจให้กลับมารู้ตัว
18 ธ.ค. 65 - ฝึกใจให้กลับมารู้ตัว : การรู้กายนี่สำคัญ อย่าไปดูแคลนมัน ฉะนั้นถ้าเราฝึกกายบ่อยๆ ความรู้สึกทางกายจะเป็นตัวช่วยให้จิตกลับมาได้ไว แล้วพอจิตกลับมาไวๆ หรือกลับมาได้ไวขึ้น ๆ แปลว่าสติของเราดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ทำให้เรามีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ตรงนี้แหละที่เราเรียกว่ามีความก้าวหน้าแล้ว
อย่างที่หลวงพ่อคำเขียนท่านใช้คำว่า มันเก่งเมื่อมันกลับมา ฉะนั้นถ้ามันคิดมากคิดเยอะก็ไม่เป็นไร ขอให้กลับมาไวๆ กลับมาทุกทีก็แล้วกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่ากว่ามันจะกลับมามันช้านะใหม่ๆ ก็ต้องอดทน อย่าเร่งรีบ ทำไปเรื่อยๆ แล้วเราก็จะเห็นผล เห็นว่าความรู้สึกตัวเกิดขึ้นต่อเนื่องมากขึ้น รู้เนื้อรู้ตัวได้ไวขึ้น
25/12/2022 • 27 minutes 27 seconds 25651217pm--ความรู้ที่ช่วยพาตัวให้รอดได้
17 ธ.ค. 65 - ความรู้ที่ช่วยพาตัวให้รอดได้ : เราฝึกสร้างความรู้สึกตัวจากความหลง รู้ว่าหลง แล้วพอมันหายหลงก็กลับมารู้สึกตัว ก็ให้จดจำความรู้สึกนั้นเอาไว้ จดจำบ่อยๆ มันจะรู้ตัวได้ไวขึ้นๆ แล้วมันจะหลุดจากอารมณ์ หรือถอนใจออกมาจากอารมณ์นั้นได้เร็วขึ้นๆ
แล้วเราจะพบว่าความรู้ชนิดนี้มันสำคัญมาก เพราะมันจะนำพาเราไปสู่ความรู้เกี่ยวกับกายและใจ ความรู้เกี่ยวกับตัวเราเอง รวมทั้งความรู้ว่าทุกข์เกิดจากอะไร และทำอย่างไรใจถึงจะปลอดจากความทุกข์ได้ เป็นความรู้ที่สามารถจะช่ วยเราได้ ไม่ว่าในยามสุขหรือในยามทุกข์ เป็นสิ่งที่เกื้อกูลเราอย่างแท้จริง
24/12/2022 • 29 minutes 11 seconds 25651216pm--หัดฟังเสียงของกายและใจบ้าง
16 ธ.ค. 65 - หัดฟังเสียงของกายและใจบ้าง : คนเราถ้ารู้จักฟังเสียงภายใน ต่อไปเสียงภายนอกที่เป็นเสียงที่สามารถชักนำให้เราเกิดความรู้ความเข้าใจในชีวิตได้ ก็จะได้ยินชัดขึ้น เสียงของครูบาอาจารย์ก็จะไม่ได้เป็นเสียงที่ฟังแล้วเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา เสียงธรรมะจากธรรมชาติ ก็จะชัดเจนในความรู้สึกของเรามากขึ้น คนที่รู้จักฟังเสียงภายใน เริ่มจากเสียงของร่างกาย แล้วต่อมาก็เสียงของจิตใจ ก็จะมีความสามารถในการที่จะฟังเสียงธรรมะจากสิ่งแวดล้อมภายนอก รวมทั้งจากธรรมชาติได้ แม้กระทั่งเสียงต่อว่าด่าทอ ก็สามารถจะฟังให้เป็นธรรมะได้ เพราะว่ารู้จักแยกแยะ
เพราะในใจของเราบางทีมันก็มีเสียงยุแหย่ อย่างที่เคยพูดไปแล้ว เสียงยุแหย่ เสียงเชิญชวนเกลี้ยกล่อมของกิเลส ฉะนั้นคนเราบางทีก็แยกแยะไม่ออกเหมือนกัน ถ้าหากเราไม่รู้จักฟังเสียงภายในอย่างแท้จริง บางทีก็ไปหลงเชื่อเสียงยุแหย่ เสียงหว่านล้อมของกิเลส ก็เข้ารกเข้าพงไป แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าไม่มีสติมากพอ ที่จะใคร่ครวญแยกแยะได้ว่าอะไรคือเสียงที่มันจะพาเราไปสู่หนทางที่ดีงาม หรือเสียงอะไรที่จะพาเราเข้ารกเข้าพง
แต่ถ้าหากเราหมั่นใคร่ครวญหมั่นมองตนอย่างมีสติ ก็จะเริ่มแยกแยะ
22/12/2022 • 27 minutes 34 seconds 25651210pm--อย่าหลงเชื่อเสียงยั่วยุในหัว
10 ธ.ค. 65 - อย่าหลงเชื่อเสียงยั่วยุในหัว : แต่หากว่าเรามีสติ ความหลงหรือว่าการถูกครอบงำด้วยอารมณ์ มันก็เกิดขึ้นได้ยาก แล้วพอเรามีสติมีความรู้สึกตัว มันก็ไม่มีทางที่ตัวร้ายหรือว่าเสียงยุเสียงแหย่มันจะมารบกวนจิตใจเราได้ หรือถึงแม้ว่าเราจะไม่มีสติทัน อารมณ์จึงเกิดขึ้น เกิดความยินดีร้าย เกิดความพอใจไม่พอใจ เกิดความหงุดหงิดติดใจขัดใจ แต่ก็ยังไม่สายที่เราจะมีสติ มีสติเห็นอารมณ์ มีสติรู้ทันอารมณ์ที่เกิดขึ้น หรือพอเผลอไปแล้ว หลงไปแล้ว มันมีเสียงยุเสียงแหย่ตามมา เรามีสติก็ไม่ปล่อยใจให้คล้อยตามเสียงยุเสียงแหย่ มันจะหว่านล้อมอย่างไร ใจเราก็ไม่หลงเชื่อ
มันจะยุให้เราลองเล่นยา เราก็ไม่ทำ มันจะยุให้เราทุจริต เราก็ไม่ทำ มันจะยุให้เราโดดลงหน้าผา เราก็ไม่สนใจ มันจะยุให้ไปดูคลิปโป๊ หรือว่าไปมีกิ๊ก มันก็เป็นสักแต่ว่าเสียงยุที่ไม่มีความหมายต่อจิตใจของเรา อันนี้เพราะมีสติรู้ทัน จนแม้กระทั่งมันมีเสียงด่า เสียงจ้วงจาบพระรัตนตรัย ด่าครูบาอาจารย์ เสียงตำหนิต่อว่าติเตียนพ่อแม่ เราก็เห็นมันรู้ทันมัน แต่ก่อนก็คิดแต่จะไปต่อสู้เอาชนะมัน กดข่มผลักไสมัน เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี
แต่พอเรามีสติ เรารู้จักว
20/12/2022 • 26 minutes 50 seconds 25651209pm--อย่าปล่อยใจให้อารมณ์ครอบงำ
9 ธ.ค. 65 - อย่าปล่อยใจให้อารมณ์ครอบงำ : แล้วบางทีตัวหลงหรือตัวกิเลส ถ้าพูดกับมัน ถ้าเตือนสติดีๆ นี่ก็อาจจะไม่ฟัง แต่ถ้าหากว่ามาเตือนด้วยคำพูดที่ไม่ถูกใจกิเลส มันก็ชะงักได้เหมือนกัน แล้วผลที่ตามมาคือสติกลับมาเลยนะ สองคนนี้พอเจ้านายทักแบบนี้ว่า ใครที่ขี้เหร่พูดก่อน ได้สติขึ้นมาเลย แล้วพอได้สติก็รู้เลย ที่ทำไปเมื่อกี้นี่มันแย่ แต่ตอนที่จมอยู่ในอารมณ์ ไม่คิดที่จะเรียกสติกลับมาเลย มีแต่จะปล่อยใจให้ทำตามอารมณ์ หรือจมดิ่งอยู่ในอารมณ์นั้น ใครเตือนยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ หรือยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ แต่ว่าพอเจอคำพูดแบบนี้ ได้สติกลับมาเลย แล้วพอได้สติก็รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรควรอะไรไม่ควร
แต่ว่าคนเราถ้าจะรอให้มีสติเมื่อมีใครมาทัก เมื่อมีใครมาบอก มันคงไม่พอ มันต้องรู้จักเรียกสติกลับมาด้วยตัวเอง ใหม่ๆ กว่าจะมีสติ มันก็หลงจมเข้าไปในอารมณ์อยู่พักใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความเศร้า ทั้งที่เตือนตนว่าถ้าฉันโกรธเมื่อไหร่ ฉันจะกลับมามีสตินะ อย่างบางคนรู้ว่าเป็นคนเจ้าอารมณ์ ก็ตั้งใจว่าถ้าโกรธเมื่อไหร่จะกลับมาตามลมหายใจ หรือกลับมาอยู่กับพุทโธ แต่พอถึงเวลาโกรธจริงๆ มันลืมไปหมดเลยที่ตั้งใจจะทำอะไร พุทโธก็
13/12/2022 • 28 minutes 34 seconds 25651208pm--จากผิดเป็นถูก
8 ธ.ค. 65 - จากผิดเป็นถูก : บางทีสิ่งที่เกิดขึ้น คือเลขหนึ่งนี่เราห้ามไม่ได้ คุมไม่ได้ แต่เลขสองนี่เราสามารถจะเลือกได้ สามารถจะคุมหรือกำกับได้ ทีแรกหลงแต่ต่อมาก็รู้ ทีแรกฟุ้งแต่ต่อมาก็รู้ทัน ทีแรกทุกข์แต่ต่อมาก็เห็นประโยขน์จากทุกข์ ทีแรกล้มแต่ต่อมาก็เรียนรู้ที่จะลุกและทรงตัวโดยที่ไม่ล้มง่ายๆ ต่อไป ทีแรกล้มเหลวแต่ต่อมาเราก็เรียนรู้จากความล้มเหลว
จะเห็นได้ว่า สิ่งที่เราทำหลังจากมีความทุกข์ มีความล้มเหลว มีความฟุ้ง มีความหลง มีความเผลอพลาด อาจจะสำคัญกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งแรก แต่ถ้าเราไม่ให้ความสำคัญตรงนี้ พอเราทุกข์ เริ่มต้นด้วยทุกข์ ต่อมาก็ทุกข์หนักขึ้น ทีแรกล้มเหลวแต่ต่อมาก็ล้มเหลวหนักขึ้น ทีแรกก็หลงแต่ต่อมาก็หลงหนักขึ้น ทีแรกก็ทำผิดแต่ต่อมาก็ทำผิดหนักขึ้น
เพราะฉะนั้น บางครั้งมันไม่ใช่เลขหนึ่งนะที่สำคัญ เลขสองน่ะสำคัญกว่า อย่าปล่อยให้เลขหนึ่งมันมากำหนดการกระทำของเราในลำดับถัดไป แต่เราต้องรู้จักเลือกที่จะทำให้มันดีขึ้น และนั่นก็จะเป็นหนทางสู่ความเจริญงอกงามและการเพิ่มพูนปัญญา ให้เราสามารถอยู่ในโลกที่มันผันผวนแปรปรวนได้ ด้วยใจที่สงบและจิตที่เป็นปกติ
11/12/2022 • 25 minutes 29 seconds 25651207pm--ธรรมที่มีอุปการะมาก
7 ธ.ค. 65 - ธรรมที่มีอุปการะมาก : ถ้าเราเข้าใจการทำงานของสัมมาสติ หรือคุณสมบัติของสัมมาสติ เราจะพบว่ามันมีความสำคัญต่อชีวิตของเรามากที่เดียว เพียงแค่ไม่สลบไสล ไม่ละเมอ อันนั้นยังไ ม่พอ อันนั้นยังไม่ใช่เป็นเพราะอานุภาพของสติ แต่ถ้าหากว่าเราสามารถจะดำรงชีวิตอย่างสงบเย็น ไม่ถูกกิเลสครอบงำ อีกทั้งยังดำเนินชีวิตโดยที่ไม่ยึดมั่นถือมั่นว่ามีตัวกูของกู ไม่ยึดในความสำคัญมั่นหมายว่าตัวกู มันก็ทำให้ชีวิตนี้โปร่งเบา สงบเย็นได้ เพราะฉะนั้นที่ว่าสติเป็นธรรมที่มีอุปการะมาก มันจึงเป็นคำที่มีความหมายตามตัวอักษรเลยทีเดียว ไม่ใช่เป็นแค่การพูดชนิดที่เป็นการให้ความสำคัญเกินเลยของสติ แต่ที่จริงแล้วเป็นธรรมที่มีอุปการะมากจริงๆ
10/12/2022 • 28 minutes 38 seconds 25651206pm--เอาชนะขีดจำกัดของตัวเอง
6 ธ.ค. 65 - เอาชนะขีดจำกัดของตัวเอง : พวกนักวิ่งหลายคนพอเขาสามารถจะก้าวข้ามหรือเอาชนะขีดจำกัดของตัวเองได้ หลายคนพบว่ามีความสุขได้ง่าย ไม่ต้องแสวงหาเงินทองชื่อเสียง อยู่ง่ายๆ ก็มีความสุข เพราะว่าความสุขจากการเอาชนะขีดจำกัดของตัวเองได้ ก็สามารถจะมาหล่อเลี้ยงชดเชยความสุขจากสิ่งเสพ ถึงตอนนั้นก็ไม่ต้องไปวิ่งไล่ล่าเพื่อให้ไปถึงเพดานแห่งความสุขก็ได้ แต่คนเราถึงไม่ใช่นักวิ่ง ถ้าเราปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนา
ถ้าเราได้พบความสงบซึ่งเกิดจากสติ จากความรู้สึกตัว ก็สามารถจะมาหล่อเลี้ยงจิตใจเรา ทำให้จิตใจเราไม่ต้องไปแสวงหาความสุขจากสิ่งเสพ และมาพบกับความเบื่อที่เพดานแห่งความสุขเขยิบขึ้นไปเรื่อยๆ จนไม่รู้จักพอใจในสิ่งที่มี ยินดีในสิ่งที่ได้ ปัญหานี้จะหมดไป ถ้าหากว่าเราสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้ในเรื่องของสมาธิภาวนา
07/12/2022 • 28 minutes 20 seconds 25651202pm-ฝึกใจให้รู้ทันความคิด
2 ธ.ค. 65 - ฝึกใจให้รู้ทันความคิด : หลายคนบอกว่าปฏิบัติแล้วยาก ส่วนหนึ่งเป็นพราะมันง่วง ส่วนหนึ่งเพราะมันน่าเบื่อ แต่ถ้าหากเราอดทนทำไปเรื่อยๆ มันก็จะระลึกนึกขึ้นมาได้ไว แล้วจะพบเลยว่าความระลึกนึกขึ้นมาได้แบบนี้ มันทำให้ใจสงบได้เร็ว มันเป็นความสงบไม่ใช่เพราะไม่คิดนะ แต่สงบเพราะรู้ทันความคิด ซึ่งอันนี้เป็นงานของสติ
แล้วถ้าเราทำบ่อยๆ สติเราจะมีกำลัง จนกระทั่งเราสามารถที่จะปล่อยวางความคิดนึกและอารณ์ต่างๆ ได้เร็วขึ้น แล้วช่องว่างที่ปราศจากอารมณ์หรือไม่ถูกอารมณ์รบกวน ที่เราเรียกว่าความสงบ มันก็จะต่อเนื่อง แล้วเราก็จะรู้สึกได้ถึงความสงบ ไม่ใช่สงบเพราะไม่คิด แต่สงบเพราะรู้ทันความคิด อันนี้แหละคือสิ่งที่เราพึงคาดหวังจากการมาปฏิบัติที่นี่ รวมทั้งจากการปฏิบัติในชีวิตประจำวันของเราด้วย
06/12/2022 • 30 minutes 33 seconds 25651201pm--อยู่ง่ายเพราะรู้จักตนเอง
1 ธ.ค. 65 - อยู่ง่ายเพราะรู้จักตนเอง : เวลาพูดถึงความสงบ หลายคนนึกถึงสมาธิ แต่อย่าไปมองข้ามสติเด็ดขาดเลยนะ เพราะสติมันสำคัญมาก มันทำให้เราสามารถที่จะรับมือกับอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ เราอาจจะห้ามความคิดไม่ได้ และเราห้ามได้ยากด้วย แต่เราสามารถที่จะทำให้ความคิดนั้นไม่มารบกวนจิตใจได้ ก็เพราะเรามีสติ รู้ทันความคิด รู้จักปล่อยรู้จักวาง
แล้วถ้าทำอย่างนี้ได้ชีวิตมันจะอยู่ง่ายขึ้น ในด้านหนึ่งเราจะไม่เป็นทาสของความสะดวกสบาย เราจะไม่ยอมทุ่มเทอะไรต่ออะไรหลายอย่าง เพื่อแลกความสะดวกสบาย ทั้งที่สิ่งที่เสียไปนั้นมันมีค่า เราจะไม่เป็นทาสของความสะดวกสบาย และขณะเดียวกัน เราก็จะพบกับความสบายที่ใจด้วย ไม่ใช่แค่สบายกายอย่างเดียว ใจก็สบายด้วย สบายเพราะเบา สบายเพราะสงบ สบายเพราะว่ามันไม่มีอะไรมารบกวน ไม่มีอะไรที่ต้องแบกต้องยึด มารู้จักกับความสบายแบบนี้บ้าง อันนี้มันจะช่วยทำให้การอยู่ในโลกนี้มันง่ายขึ้น มันจะไม่ยากเหมือนเดิม
04/12/2022 • 28 minutes 13 seconds 25651130pm--หลุดจากทุกข์เมื่อใจยอมรับ
30 พ.ย. 65 - หลุดจากทุกข์เมื่อใจยอมรับ : ที่จริงการยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี่ มันเป็นเคล็ดลับที่เราควรจะมีนะ เพราะบ่อยครั้งความทุกข์ของคนเรามันเกิดขึ้นจากการที่เรายอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเจอสิ่งที่ไม่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง หรือเหตุการณ์ รวมทั้งทุกขเวทนาที่เกิดขึ้น พอเจอเข้าแล้วยอมรับไม่ได้ ก็เลยผลักไส ไอ้การผลักไสนี่เป็นตัวที่สร้างความทุกข์
แต่ทันทีที่เรายอมรับได้ความทุกข์ก็จะลดลง เช่นเสียงดังหลายคนก็ไม่ชอบ พอไม่ชอบแล้วเป็นยังไง ใจมันก็เกิดอาการต่อสู้ผลักไส แต่ถ้าเสียงไม่หายก็ยิ่งทุกข์ ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ จนกระทั่งเกิดความโกรธ แล้วส่วนใหญ่ก็ไม่รู้ว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นก้อนใหญ่เลย คือ การที่ผลักไส ไม่ยอมรับ ไม่ใช่เกิดจากเสียงนะ แต่เกิดจากใจของเราที่ไม่ยอมรับ แต่ทันทีที่ใจยอมรับได้ ความทุกข์มันลดลงไปเยอะเลย
อันนี้ก็รวมถึงความหนาวความร้อน หรือทุกขเวทนาที่เกิดขึ้น เช่น ความเจ็บ ความปวด ความเมื่อย แม้กระทั่งอารมณ์ที่เกิดขึ้นในใจ เช่น ความเครียด ความหงุดหงิด พวกนี้ก็ไม่มีใครชอบนะ แต่เพราะไม่ชอบจึงผลักไส และยิ่งผลักไสมันก็ยิ่งทุกข์ แต่พอยอมรับมันได้
02/12/2022 • 29 minutes 56 seconds 25651129pm--เผชิญทุกข์ด้วยภูมิคุ้มใจ
29 พ.ย. 65 - เผชิญทุกข์ด้วยภูมิคุ้มใจ : ระยะห่างจากผู้คนที่อาจจะติดเชื้อเพื่อ Social distancing
การวางระยะห่างทางด้านความสัมพันธ์ คือไม่เข้าใกล้เกินไป ทำให้ไม่ติดเชื้อ ทำนองเดียวกันสติทำให้เกิดระยะห่างภายใน ที่ทำให้ความทุกข์เข้ามาครอบงำใจไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราตระหนักชัดแล้วว่า ในเมื่อเราหนีไม่มีทุกข์ไม่พ้น โดยเฉพาะทุกข์ที่เป็นโลกธรรมฝ่ายลบ ที่เป็นอนิฏฐารมณ์ ที่เกิดจากความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ประสบกับสิ่งที่ไม่รัก เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับทุกข์ ไม่ใช่หนีมัน แต่อยู่กับทุกข์ด้วยใจที่ไม่ทุกข์ เพราะว่าใจมีเครื่องรักษาเรียกว่าคุ้มใจ สิ่งนั้นคือขันติ สิ่งนั้นคือสติ
และที่สำคัญคือปัญญา ปัญญาที่เห็นว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง เห็นว่ามันเป็นธรรมดาเช่นนั้นเอง เช่นนั้นเอง หรือเห็นว่ามันไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน มันไม่เที่ยงที่จะยึดมั่นถือมั่นได้ หรือว่ามีปัญญาเพียงแค่รู้ว่า มีกับหมด ได้กับเสีย พบกับพราก เจอกับจากเป็นของคู่กัน เวลามีก็ไม่ดีใจ
เพราะฉะนั้นเวลาหมดก็ไม่เสียใจ เวลาได้ก็ไม่ได้ดีใจ เพราะเวลาเสียก็ไม่เสียใจ เวลาพบก็ไม่ลิงโลด เวลาพรากก็จะไม่เศร้าโศก เวลาใครชมก็ไม่หลงใหลปราบปลื้ม เว
01/12/2022 • 27 minutes 50 seconds 25651124pm--เก่งตรงที่กลับมาได้ไว
24 พ.ย. 65 - เก่งตรงที่กลับมาได้ไว : ถ้าเราคิดว่า เราจะสงบเพราะไม่มีความโกรธ ไม่มีความเศร้า ไม่มีความเครียด ไม่มีความวิตกกังวลเลย มันยากนะ ปุถุชนเนี่ย มันก็ต้องมีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น แต่พอมีแล้วเรารู้ทันได้เร็ว ใจที่เผลอจมเข้าไปในอารมณ์นั้นหลุดออกมาได้เร็ว พอหลุดออกมาได้เร็ว ไอ้พวกนี้มันก็ตั้งอยู่ไม่ได้ เพราะมันเกิดขึ้นเพราะความหลงหรือมีตัวหลง หรือความหลงนี่เป็นอาหารบำรุงเลี้ยงมัน พอจิตกลับมาอยู่กับความรู้สึกตัว ความหลงหายไป ไอ้ความทุกข์เหล่านั้นมันก็หายไปด้วย
แต่ต่อไปมันจะไม่ใช่แค่รู้สึกตัว มันจะรู้ความจริงว่า ‘ไม่มีอะไรที่ยึดมั่นถือมั่นได้’ พอไม่ยึดมั่นถือมั่นกับอะไรเลย มันก็ไม่มีที่ตั้งแห่งความทุกข์ มันมีแต่ทุกข์ แต่ไม่มีผู้ทุกข์ ถ้าไม่มีผู้ทุกข์แล้วใครจะทุกข์ละนะ แล้วที่ไม่มีผู้ทุกข์เพราะมันเห็น มันรู้ความจริงว่า ไม่มีอะไรที่ยึดว่าเป็นเรา-เป็นของเราได้
ทั้งหมดนี้ก็เริ่มจากการที่มารู้ตัว แล้วรู้ตัวได้เพราะกลับมาได้ไว รู้ทันได้เร็ว แล้วที่รู้ทันได้เร็วกลับมาได้ไว เพราะยอมให้มันไป แล้วก็ได้อาศัยการที่ใจมันไปนี่แหละ เพื่อฝึกให้กลับมาได้ไวๆ ลองทำความเข้าใจให้ดีนะ ที่หลวงพ่อค
30/11/2022 • 29 minutes 7 seconds 25651123pm--ทุกข์แก้ได้ถ้าหาเหตุเจอ
23 พ.ย. 65 - ทุกข์แก้ได้ถ้าหาเหตุเจอ : การหมั่นมองตัวอยู่เสมอมันจะช่วยทำให้เราเจอสมุทัย หรือเหตุแห่งทุกข์ที่แท้จริง โดยเฉพาะเมื่อมันมีความทุกข์ใจขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นความเศร้า ความโกรธ ความหงุดหงิด ความเบื่อหน่าย ความคับแค้น กลับมาดูใจของเราอยู่เสมอ แล้วก็แก้ที่ใจของเรา มันก็จะช่วยทำให้ทุกข์บรรเทาเบาบาง
29/11/2022 • 27 minutes 28 seconds 25651122pm--คำถามง่ายๆแต่สำคัญ
22 พ.ย. 65 - คำถามง่ายๆแต่สำคัญ : ฝึกเอาไว้ ด้วยการที่เร าหมั่นถามตัวเราเอง เริ่มต้นจากการถามตัวเอง หรือระลึกอยู่เสมอว่าฉันทำอะไรอยู่ ต่อไปก็ฉันคิดอะไรอยู่ ฉันรู้สึกอะไรอยู่ แล้วก็จะนำไปสู่การเห็น การยอมรับความคิด อารมณ์ และความรู้สึก โดยที่ไม่ไปตกอยู่ในการครอบงำของมัน
28/11/2022 • 24 minutes 53 seconds 25651121pm--มารู้ตัวดีกว่า
21 พ.ย. 65 - มารู้ตัวดีกว่า : จากความรู้ตัวก็จะกลายเป็นความรู้ความจริง เห็นความจริงของโลก มันก็จะรู้ลึกและรู้กว้าง และมันช่วยทำให้เราสามารถที่จะดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ ด้วยความรู้ทัน ใช้กายและใจให้เป็นประโยชน์ โดยที่ไม่ตกเป็นทาสของกายและใจ หรือไปยึดมั่นสำคัญหมายว่ามันเป็นเรา เป็นของเรา เพราะถ้าเราไปยึดมั่นว่ามันเป็นเราเป็นของเราเมื่อไหร่ เราก็กลายเป็นของมันในทันที เพราะฉะนั้นให้หมั่นรู้ตัวบ่อยๆ เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมารู้งี้ในภายหลัง ซึ่งมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
26/11/2022 • 28 minutes 15 seconds 25651113pm--ฝึกใจให้รู้ตัว
13 พ.ย. 65 - ฝึกใจให้รู้ตัว ท่ามกลางความเป็นไปของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง มีการเคลื่อนไหวหรือมีความแปรปรวน คือความสงบที่แท้จริง” ซึ่งสงบแบบนี้ได้มันต้องมีสติ มีความรู้สึกตัว ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นมาจากการฟังธรรมเยอะๆ บ่อยๆ แต่เกิดจากการปฏิบัติ ซึ่งต้องอาศัยการลงแรง ต้องเจอกับความเมื่อย ต้องเจอกับความง่วง ต้องเจอกับความเบื่อ แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันก็จะสอนให้เรามีสติ รวมทั้งความคิดฟุ้งปรุงแต่งต่างๆ ถ้าเราไม่ไปกด ไม่ไปห้ามมัน มันก็จะสอนให้เรามีสติรู้ทันความคิดได้เร็ว
แต่ก่อนที่จะไปรู้ทันความคิด ก็ให้มารู้กายก่อน เวลาเดินก็ให้รู้ตัวว่าเดิน เวลายกมือก็ให้รู้ตัวว่ายกมือ ตอนนั้นมันจะรู้สึกว่ามือยก กายขยับ เท้าเขยื้อน อันนี้เรียกว่ารู้กาย เป็นความรู้ตัวแบบหนึ่ง ต่อไปมันก็จะรู้ความคิด รู้อารมณ์ ก็เป็นการรู้ตัวอีกระดับหนึ่ง
25/11/2022 • 28 minutes 2 seconds 25651112pm--อย่าปล่อยให้ความจำเป็นนายเรา
12 พ.ย. 65 - อย่าปล่อยให้ความจำเป็นนายเรา : อย่าให้ความจำเป็นนายเรา ถ้าความจำเป็นนายเรานี่แย่นะ เพราะบางครั้งคนเราก็มีความจำที่เจ็บปวด บางครั้งก็มีความจำที่มันทำให้ขมขื่น บางครั้งก็ทำให้อาจจะรู้สึกเจ็บปวดกับเหตุการณ์บางอย่าง
การที่เราจำเหตุการณ์นั้นได้ มันก็ดี มีประโยชน์ แต่ว่าถ้าปล่อยให้เป็นนายเรา มันก็เหมือนกับโซ่ที่ตรึงเราเอาไว้ เพราะว่ามันก็จะทำให้เราจมอยู่ในกับอดีต บางคนที่ไม่สามารถที่จะอยู่กับปัจจุบันหรือเดินไปข้างหน้าได้เลยเพราะว่าจมอยู่กับอดีต เพราะว่าถูกความทรงจำที่เจ็บปวดมันล่ามเอาไว้
บางทีก็ไม่ใช่ความทรงจำที่เจ็บปวด มันอาจจะเป็นอดีตที่รุ่งเรืองหรืออาจจะเป็นวันวานอันหวานชื่นก็ได้ แต่ว่ามันกลายเป็นอดีตไปแล้ว ก็เสียดายอาลัย ก็ยังจมอยู่กับอดีตที่เคยสวยงาม หรือบางคนอาจจะเคยประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงเป็นนักกีฬาเหรียญทอง แต่ตอนนี้ไม่มีคนรู้จักแล้ว ก็ยอมรับกับปัจจุบันไม่ได้ ก็จมอยู่กับเรื่องราวในอดีต กับเรื่องที่มันเป็นความรุ่งเรืองเรืองโรจน์หอมหวาน แต่มันเป็นอดีตไปแล้ว
ถ้าปล่อยให้อดีตมาเป็นนายเราหรือปล่อยให้ความทรงจำเป็นนายเรา เราก็ไม่สามารถที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า
25/11/2022 • 26 minutes 56 seconds 25651111pm--อย่าเอายาพิษของคนอื่นมาใส่ปากเรา
11 พ.ย. 65 - อย่าเอายาพิษของคนอื่นมาใส่ปากเรา : พระพุทธเจ้าให้ข้อคิดเตือนใจได้ดีนะ มีพราหมณ์คนหนึ่งมาตามด่าท่าน พระองค์กำลังเดินกลับเชตวัน พราหมณ์ก็เดินตามมาด่า พระองค์ก็ไม่ตอบโต้ จนกระทั่งถึงเชตวันแล้ว พระองค์ก็เลยนั่งสนทนากับเขาว่า “เคยมีคนมาหาท่านที่บ้านไหม” พราหมณ์ก็บอกว่า “มีสิ ข้าพเจ้าไม่ใช่เป็นคนขาดเพื่อน ไม่ใช่เป็นคนสิ้นไร้ไม้ตอก มีคนมาหาข้าพเจ้าที่บ้านอยู่เนืองๆ” “แล้วท่านทำอย่างไร” “ข้าพเจ้าก็เอาของมาต้อนรับ” พระพุทธเจ้าก็เลยถามว่า “ถ้าเขาไม่รับของของท่าน ของนั้นจะเป็นของใคร” พราหมณ์ก็ตอบว่า “ก็เป็นของข้าพเจ้าน่ะสิ” พระพุทธเจ้าก็เลยตอบว่า “ท่านด่าเรา แต่เราไม่รับคำด่าของท่าน คำด่าทั้งหมดก็เป็นของท่านน่ะสิ” พราหมณ์นี่อึ้งเลยนะ พูดง่ายๆ คือคำด่านี่มันจะมีผลก็ต่อเมื่อเรารับ ถ้าเราไม่รับหรือไม่ใส่ใจ มันก็ไม่มีความหมาย ไม่มีพิษสง
นี่เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างของสุมาอี้กับคนอื่น สุมาอี้ถูกขงเบ้งด่ายังไง สุมาอี้ก็ไม่รับ ไม่สนใจ แถมหัวเราะ ไม่เอามาเป็นอารมณ์ แต่คนอื่นนี่เอาจริงเอาจังมาก เขาด่าว่าเป็นหมา ก็ไปรับสมอ้างว่า “เออ ฉันเป็นหมาจริงๆ” ก็เลยกระอักเลือดตายหร
25/11/2022 • 26 minutes 49 seconds 25651110pm--ฝึกตนจนพ้นขีดจำกัดของตัวเอง
10 พ.ย. 65 - ฝึกตนจนพ้นขีดจำกัดของตัวเอง : มันก็ธรรมดานะ เพราะคนเราพอเจอความยากลำบากมันก็ต้องมันความอดทน ต้องมีใจที่ฮึดสู้ถึงจะผ่านจุดนั้นมาได้ แต่สิ่งที่หลายคนพบว่ามันเกิดความเปลี่ยนแปลงภายในก็คือ เป็นคนที่สุขง่าย อยู่กับตัวเองง่าย แต่ก่อนก็ติดสุขนะ อยากเที่ยว อยากกิน อยากดื่ม อยากช้อป แต่พอผ่านประสบการณ์การซ้อมการวิ่งมานานๆ มันกลายเป็นคนสุขง่าย อยู่ง่าย มีความพึงพอใจในชีวิตอย่างง่ายๆ ชีวิตไม่ต้องการอะไรมาก อาจเป็นเพราะได้พบความสุขจากการวิ่ง คนเราพอมีความสุขจากการวิ่ง หรือความสุขจากการที่ได้เห็นตัวเองในมุมที่ทำให้เกิดความภาคภูมิใจ พอภูมิใจในตัวเอง มันก็เป็นความสุขที่ทำให้ไม่ต้องไปพึ่งพาความสุขจากสิ่งอื่นหรือความสุขจากภายนอก
แล้วหลายคนก็ตั้งข้อสังเกตนะ คนที่ผ่านประสบการณจากการวิ่งมามากๆ เขาจะเป็นคนที่อ่อนน้อมถ่อมตัว ไม่ขี้อวด และบ่นน้อย อันนี้ก็เป็นการตั้งข้อสังเกตของหลายคน ที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของคนที่ผ่านการวิ่งมานานๆ ผ่านการซ้อมมาเยอะๆ ซึ่งอันนี้ก็เหมือนกับการปฏิบัติธรรมนะ เพราะคนที่ปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง สุดท้ายก็เป็นคนที่สุขง่ายอยูง่าย เป็นคนที่มีอัตตาตัวตนเบาบาง ไม่โอ้อ
25/11/2022 • 29 minutes 41 seconds 25651109pm--ความดีที่ทำเป็นนิจย่อมไม่สูญเปล่า
9 พ.ย. 65 - ความดีที่ทำเป็นนิจย่อมไม่สูญเปล่า : สิ่งที่เราทำซ้ำๆ ถ้าเป็นสิ่งที่ดี มีคุณค่า มีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นการปลูกศรัทธาในพระรัตนตรัย หรือการมีศรัทธาในการทำวัตรสวดมนต์ หรือการรู้สึกดื่มด่ำผูกพันกับการร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า หรือการระลึกนึกถึงครูบาอาจารย์อยู่เนืองๆ รวมทั้งการสวดมนต์อยู่บ่อยๆ สิ่งเหล่านี้มันไม่สูญเปล่านะ จิตมันจำได้ แล้วถึงเวลาสิ่งที่เราทำนี่จะออกมาทำงาน ช่วยน้อมใจให้เป็นกุศล ชนิดที่ว่ากายนี่ก็ยอม ‘จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว’ กายแม้มันจะไม่ไหว แต่พอเจอจิตที่เป็นกุศลขึ้นมา มันก็ยอมน้อมตามไปด้วย ที่เคยปวดก็หายปวด ที่เคยพูดไม่ได้ก็ดันร้องเพลงได้ หรือที่เคยหัวใจเต้นเร็ว หายใจเหนื่อยหอบ มันก็สงบขึ้นมา หายใจเป็นปกติ หัวใจก็เต้นเป็นปกติ แม้จะชั่วคราวก็ตาม
ฉะนั้น สิ่งที่เราทำซ้ำๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำวัตรสวดมนต์ ไม่ว่าจะเป็นการเจริญสติ การแผ่เมตตา การระลึกถึงครูบาอาจารย์บ่อยๆ การน้อมระลึกถึงพระรัตนตรัยอยู่เนืองๆ เป็นอาจิณ พวกนี้มันไม่สูญเปล่าเลย ในยามวิกฤติจะมาช่วยกู้ใจเราออกจากความทุกข์ ออกจากความอกุศลได้ ถึงเวลาจะตายก็สงบ แล้วก็ไปดี ไม่มีความหวาดวิตกอะไร
23/11/2022 • 30 minutes 37 seconds 25651108pm--ดูจันทรุปราคา แล้วย้อนดูตน
8 พ.ย. 65 - ดูจันทรุปราคา แล้วย้อนดูตน : คืนนี้เป็นคืนพิเศษสำหรับหลายคน เพราะนอกจากตั้งหน้าตั้งตารอที่จะลอยกระทงแล้ว ก็ยังหวังที่จะได้ดูเหตุการณ์ที่สำคัญที่นานๆ จะเกิดสักครั้งหนึ่งคือจันทรุปราคา เป็นเหตุการณ์ที่นานๆ จะเกิดขึ้นสักครั้งโดยเฉพาะการมีจันทรุปราคากับพระจันทร์เต็มดวง
จันทรุปราคาก็มีหลายชื่อ เช่น จันทรคราส แล้วก็ชื่อโบราณชื่อ ราหูอมจันทร์ สมัยก่อนเขาเชื่อเลยว่ามีราหูจริงๆ มาอมจันทร์ เพราะฉะนั้นพอเกิดเหตุการณ์นี้ ทุกคนก็จะพากันตีกราะเคาะไม้ ส่งเสียงดัง จุดประทัด เพื่ออะไร เพื่อไล่ราหูให้คายดวงจันทร์ ดวงจันทร์จะได้สว่างเหมือนเดิม เราก็เชื่ออย่างนี้มานานว่า ดวงจันทร์อับแสงเพราะว่ามีราหูอมดวงจันทร์
จนกระทั่งเรามารู้ในช่วงเวลาไม่กี่สิบปีมานี้ ว่าที่ดวงจันทร์ดับหรือว่าหมอง มันไม่ใช่เพราะราหูจากที่ไหนหรอก แต่เป็นเพราะเงาของโลกเรา เงาของโลกเรานี่แหละที่ไปทำให้ดวงจันทร์อับแสง ไม่ใช่ราหูที่ไหน เราก็เพิ่งมารู้ว่าที่ดวงจันทร์อับแสง ไม่ใช่เพราะใครที่ไหนเลย แต่เป็นเพราะโลกเรานี่เอง หลงไปโทษราหูกันเป็นหลายศตวรรษทีเดียว แต่ตัวการที่แท้คือโลกเรานี่แหละ ซึ่งเราก็เป็นส่วนหนึ่งของโลกใ
23/11/2022 • 29 minutes 21 seconds 25651031pm--ทำตัวให้ดีแล้ว ทำใจให้ดีด้วย
31 ต.ค. 65 - ทำตัวให้ดีแล้ว ทำใจให้ดีด้วย : ที่จริงถ้าพระพุทธศาสนาสอนแต่เรื่องทำความดี คำสอนในพระพุทธศาสนาก็มีแค่ศีลก็พอ ส่วนสมาธิ ปัญญาก็ไม่จำเป็น ไตรสิกขาก็ไม่จำเป็น สอนแค่ศีลก็พอ แต่พระพุทธศาสนาท่านสอนเรื่องไตรสิกขา มีศีล สมาธิ และปัญญา สมาธิ ปัญญาเป็นเรื่องที่มากไปกว่าการทำความดี หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือว่ามันเป็นเรื่องของการทำใจให้ดี
ทำดี ถ้าหากว่าจำกัดอยู่แค่ศีล มันก็ไม่พอน่ะที่จะช่วยทำให้คนเราพ้นทุกข์ได้ ทำดีแล้วมันต้องมีอีกประการหนึ่งก็คือทำใจให้ดีด้วย ถ้ามีแต่ทำดีไม่ต้องมีศีล ไม่ต้องมีไตรสิกขา หรือมีแค่ศีลก็พอ สมาธิภาวนาก็ตัดทิ้งไปนั้น หรือว่าพระพุทธศาสนาสอนแต่เรื่องทำดีละชั่ว โอวาทปาติโมกข์ก็มีแค่ 2 ประการก็พอ ไม่ต้องมีข้อที่ 3 คือว่าทำจิตใจให้ผ่องใส หรือบุญกิริยาวัตถุก็มีแค่สองคือทาน ศีล ไม่ต้องมีภาวนา
แต่เราก็ทราบน่ะว่านอกจากทาน ศีลแล้ว ก็ต้องมีภาวนาด้วย นอกจากศีลก็ต้องมีสมาธิและปัญญาด้วยน่ะ ถึงจะเป็นพระพุทธศาสนา หรือเป็นพุทธธรรมที่ครบถ้วน นอกจากทำดีละชั่วหรือเว้นชั่วแล้ว ก็ต้องทำจิตให้ผ่องใสบริสุทธิ์ด้วย มันจึงจะเป็นพระพุทธศาสนาที่ครบถ้วน
23/11/2022 • 30 minutes 48 seconds 25651030pm--ไตร่ตรองมองใจอยู่เสมอ
30 ต.ค. 65 - ไตร่ตรองมองใจอยู่เสมอ : ถ้าเราไม่รู้จักมอง มันก็ไม่เห็น แล้วก็ง่ายที่จะไปโทษสิ่งภายนอก แต่ถ้าเรารู้จักมองก็จะเห็นว่า ใจนี่เป็นตัวการที่สำคัญของทุกเรื่องในชีวิตเราเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับรู้โลกรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นความสุข ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ อย่าว่าแต่ทุกข์ใจหรือสุขใจเลย แม้กระทั่งทุกข์กายหรือสุขกายมันก็มีใจเป็นองค์ประกอบร่วมที่สำคัญ แล้วยิ่งความทุกข์ใจด้วยแล้ว ใจนี่เป็นตัวการล้วนๆ เลยก็ว่าได้
พอปรับที่ใจมันก็หายทุกข์ อย่างพ่อคนที่ว่า พอเข้าใจว่าตัวเองทุกข์เพราะอะไร หรือพอลดความคาดหวังหรือปรับความคาดหวังในตัวลูก ยอมรับว่าลูกเขาก็เลือกหนทางที่ดีสำหรับเขา หรือยอมรับว่าเราก็โชคดีกว่าพี่ชาย พี่ชายเรายังเคราะห์หนักกว่าเราเยอะเลยนะ เรานี่โชคดีกว่าพี่ชายเยอะ แค่นี้ก็น่าจะพอใจแล้ว
แต่เป็นเพราะเราต้องการอะไรที่มันมากไปกว่านั้น แล้วก็ไม่พอใจสิ่งที่มี ได้สิ่งดีๆ แล้วก็ยังไม่พอใจ อยากจะได้มากไปกว่านั้น มันก็เลยทุกข์ “สิ่งที่ได้มามันก็ดีอยู่แล้ว แต่เป็นเพราะอยากจะได้มากกว่านั้น” พอยอมรับหรือพอใจในสิ่งที่มี ยินดีในสิ่งที่ได้ มันก็หายทุกข์เลยนะ
นี่ก็เป็นเรื่องของใจที่ร
23/11/2022 • 27 minutes 38 seconds 25651029pm--ทำงานไปด้วยปล่อยวางไปด้วย
29 ต.ค. 65 - ทำงานไปด้วยปล่อยวางไปด้วย : นี่ก็คือการทำงานแบบปล่อยวางอย่างหนึ่ง คือปล่อยวางในผล สร้างเหตุสร้างปัจจัยให้ดี ส่วนผลมันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เราคุมไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้คือรอ แล้วพอผลสำเร็จเกิดขึ้น ก็ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นว่านี่เป็นความสำเร็จของกูๆ แต่คนส่วนใหญ่พอทำงานสำเร็จ มันจะยึดว่าเป็นของกูๆ เวลาใครมาแตะ เวลาใครมาวิพากษ์วิจารณ์ ก็จะไม่พอใจ หรือบางทีก็กลัวว่าเขาจะมาแย่งผลงานของฉันไป มีความหวงแหนในผลงาน
แต่สิ่งที่ย่าทำ มันเป็นอุปมาเลยนะ ว่าเมื่อทำสำเร็จแล้วไม่ยึดว่าเป็นของเรา จับหนูได้ก็ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ เวลาเราทำงาน ถ้าเราทำงานแบบนี้บ้าง มันจะไม่เครียด ก็คือว่าสร้างเหตุสร้างปัจจัยให้ดี ส่วนผลสำเร็จจะเกิดขึ้นหรือไม่ หรือเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่ต้องไปวิตก ไม่ต้องไปกังวล ก็เพียงแต่คอย ว่าผลมันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
แต่คนเดี๋ยวนี้มีความเครียดมาก เครียดกับผล เครียดกับความสำเร็จ ว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ทั้งที่มันเป็นเรื่องของอนาคต และก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในอำนาจที่เราจะควบคุมบังคับบัญชาได้ ไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานอะไรก็ตาม จะเป็นการปลูกต้นไม้ ทำสวน จะเป็นงานที่ใช้ความค
07/11/2022 • 27 minutes 40 seconds 25651028pm--สมดุลที่ชีวิตต้องมี
28 ต.ค. 65 - สมดุลที่ชีวิตต้องมี : ถ้ามีปัญญาเข้าใจเรื่องของอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ต้องระดับพระอรหันต์หรอกนะ ถ้าเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องของฟ้าดิน อันนี้เป็นภาษาของคนจีนสมัยก่อน เข้าใจว่าเป็นเรื่องของฟ้าดิน มันไม่อยู่ในวิสัยที่เราจะควบคุมอะไรได้ ยอมรับ ปราชญ์จีนหลายคน พอเขายอมรับความจริงได้ เขาก็ไม่ไปต่อสู้กับโชคชะตา ไม่ต่อสู้กับฟ้าดิน ก็กลับมาใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ สมถะ เพราะว่านี่คือสิ่งเดียวที่จะทำได้
เพราะฉะนั้นปัญญาในการเข้าใจความจริงของชีวิตและโลก เป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้เลย เราจะมีแต่ปัญญาในการแก้ปัญหาอย่างเดียวไม่พอ มีปัญญาในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับส่วนรวม หรือแม้กระทั่งกับตัวเอง ไม่พอ มันต้องมีปัญญาในการเข้าใจชีวิตและโลกด้วย ไม่อย่างนั้นความรู้แม้จะมากเพียงใด ความสามารถจะประหนึ่งเทพยดาเพียงใด สุดท้ายก็เอาตัวไม่รอด อย่างที่เขาเรียกว่า ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด เพราะว่าเจอความผันผวนปรวนแปร ที่มันทำให้สิ่งต่างๆ ไม่เป็นดั่งใจ หรือสิ่งที่หมายมั่นปั้นมือไม่เป็นไปดั่งใจ
คนเราถ้าหากว่าสามารถจะยอมรับว่าโลกและชีวิตนี่มันไม่สามารถจะเป็นไปดั่งใจเราได้ทุกอย่าง ก็จะสามารถทรง
06/11/2022 • 27 minutes 21 seconds 25651027pm--สงบอย่าลืมสติ
27 ต.ค. 65 - สงบอย่าลืมสติ : แต่ถ้ามีสติ มีความรู้สึกตัว มันมีความคิดเกิดขึ้น มันก็ไม่หลงเข้าไปในความคิดง่ายๆ หรือไม่ถลำจมเข้าไปในอารมณ์ง่ายๆ เพราะสติทำให้เห็นความคิด ทำให้รู้ทันความคิด ทำให้เห็นอารมณ์ ไม่ถลำเข้าไปในความคิด ไม่ถลำเข้าไปในอารมณ์
ไม่ใช่ว่าปฏิบัติแล้วมันไม่เกิดความคิด หรือมีความคิดเกิดขึ้นไม่ได้ แต่ถ้าเราไปคิดว่าปฏิบัติแล้วมันต้องไม่ให้มีความคิด แล้วก็ทำอะไรเพื่อให้มันไม่มีความคิด อันนี้อาจจะเรียกว่าตั้งเป้าผิดแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดามากนะ จิตนี่มันง่ายที่จะปรุงความคิด สิ่งสำคัญน่าจะอยู่ที่ว่า ให้เรารู้ทันความคิด อย่างที่หลวงปู่ดุลย์ท่านบอกว่า ความคิดมันเกิดขึ้นได้เสมอ เหมือนกับลมหายใจ เราไม่ได้ปฏิบัติเพื่อดับความคิด เอาแค่ว่าให้รู้ทันเมื่อจิตคิดนึกไป แค่นี้ก็พอ อย่าฝันทั้งๆ ที่ตื่น หมายถึงอย่าหลงคิดไปโดยไม่รู้ตัว
อันนี้คือสิ่งที่นักปฏิบัติมักจะมองข้าม หรือไม่ค่อยตระหนักเท่าไหร่ เพราะไปเข้าใจว่า ถ้าเราจะภาวนาให้ได้ผลมันต้องไม่มีความคิด หรือสงบโดยที่ปราศจากความคิด ที่จริงถ้าสงบแล้วปราศจากความคิด แต่ว่ามีสติหรือมีความสึกรู้สึกตัว ก็ยังดีนะ
ถ้าเราเอ
06/11/2022 • 26 minutes 42 seconds 25651026pm--เตรียมใจให้พร้อมตาย
26 ต.ค. 65 - เตรียมใจให้พร้อมตาย : ที่เรากลัวตายเพราะมันยังมีความรู้สึกว่ากูจะตายๆ มันมีความสำคัญหมั่นหมายว่ากูที่กำลังจะตาย รู้สึกทรมานมากถ้ามีความสำคัญมั่นหมายแบบนั้น แต่ถ้าหากว่าเจริญสติมีปัญญา จนกระทั่งมันละความหลงผิดว่ามีกู มันก็มีแต่ความตาย แต่ไม่มีผู้ตาย และสุดท้ายแม้แต่ความตายก็ไม่มีด้วย มีแต่การเปลี่ยนสภาพ
ความตายจะว่าไปก็เป็นสมมติอย่างหนึ่ง สมมติเวลาชีวิตเราสิ้นสุด เราก็เรียกว่านั่นแหละคือความตาย แต่จริงๆ ชีวิตมันไม่ได้สิ้นสุด มันยังไปต่อ รูปก็ยังคืนสู่ดิน น้ำ ไฟ ลม น้ำก็ยังมีความสืบเนื่องต่อไป มันไม่มีอะไรที่สิ้นสุด มันยังมีความสืบเนื่องต่อไปเรื่อยๆ
แม่น้ำเจ้าพระยา เราก็เรียนมาว่ามันสิ้นสุดที่อ่าวไทย แต่จริงๆ แล้ว ที่สิ้นสุดนี่คือชื่อเท่านั้นแหละ เพราะว่าตัวน้ำ มันก็ไม่ได้จบตรงที่อ่าวไทย น้ำก็ยังไหลต่อ เพียงแต่ไหลจากแม่น้ำสู่ทะเล มันยังมีความสืบเนื่องของน้ำ สิ่งที่สิ้นสุดก็คือชื่อนั่นแหละ แต่ว่าน้ำไม่ได้สิ้นสุด มันก็ยังไปต่อ
เพราะฉะนั้นเวลาระลึกถึงความตาย เราหมายถึงความสิ้นสุดของชีวิต ที่จริงมันไม่ได้สิ้นสุดหรอก มันไปต่อ มีความสืบเนื่อง ถ้าเราเข้าใจแบบนี้ มัน
06/11/2022 • 28 minutes 33 seconds 25651025pm--ใช้กายให้ถูก ดูแลใจให้เป็น
25 ต.ค. 65 - ใช้กายให้ถูก ดูแลใจให้เป็น : ถ้าเรามีสติเห็น ก็จะเห็นเลยนะ กายทำอะไรมันก็เป็นรูปที่ทำ ไม่ใช่เราทำ กายเดินไม่ใช่เราเดิน ใจมันคิด ไม่ใช่เราคิด ความคิดก็ไม่ใช่เรา ความโกรธก็ไม่ใช่เรา ถ้าเรามีสติเลย กายไม่ใช่เรา ใจไม่ใช่เรา
ตรงนี้แหละคือความจริงของกายและใจ ที่เราควรจะรู้จัก แล้วมันจะช่วยทำให้เราเกี่ยวข้องกับกายและใจได้อย่างถูกต้อง ไม่ตกเป็นทาสของกายและใจ หรือว่าไม่ตกเป็นทุกข์ ไม่ถูกบีบคั้นด้วยความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับกายและใจ คือกายทุกข์ มันไม่ใช่เราทุกข์ เช่นเดียวกันใจทุกข์ ก็ไม่ใช่เราทุกข์ ความโกรธเกิดขึ้น ก็ไม่ใช่เราโกรธ
อันนี้คือการปฏิบัติธรรมในขั้นที่ลึกลงไป หรือขั้นที่สูงขึ้นไป รู้กายรู้ใจ รวมทั้งรู้ถึงความจริงของกายและใจ มันไม่ใช่เพียงแค่ว่าใช้กายและใจให้ถูกต้องอย่างเดียว มันไม่ใช่แค่ดูแลกายและใจให้ดี ทั้งหมดนี้มันต้องทำควบคู่กับการที่รู้กายรู้ใจด้วย จนเห็นความจริงของกายและใจ จึงจะใช้กายและใจอย่างถูกต้อง จึงจะเรียกว่าดูแลกายและใจอย่างเหมาะสม
การปฏิบัติธรรมหลักๆ ก็มีเท่านี้แหละ ที่เหลือก็เป็นการขยายความ เพื่อทำให้เกิดความเข้าใจที่ลึกซึ้ง หรือการรู้กายและใจท
06/11/2022 • 30 minutes 16 seconds 25651024pm--ฝึกสติไม่ใช่เรื่องยาก
24 ส.ค. 65 - ฝึกสติไม่ใช่เรื่องยาก : หน้าที่ของเราคือรู้ทันมัน อย่าทำผิดหน้าที ที่จริงหน้าที่ของเราคือเปิดโอกาสให้ตัวรู้มันทำงาน ให้สติมันทำงาน เปิดโอกาสให้เขาได้ทำงาน ซึ่งใหม่ๆ ก็เชื่องช้า แต่ว่าเราต้องให้โอกาสเขา ถ้าเขาทำบ่อยๆ ทำบ่อยๆ เขาจะทำได้เร็วขึ้น
ถ้าเราวางใจแบบนี้ มันจะทำให้การปฏิบัติเป็นเรื่องง่าย มันจะง่ายกว่าสิ่งที่เราพาตัวเองมาถึงนี่ มันไม่ได้ยากกว่าเลยนะ การปฏิบัติจริงๆ มันไม่ได้ยากกว่าการพาตัวเองมาถึงนี่ ถ้าเราปฏิบัติถูกมันง่าย หลวงพ่อเทียนถึงกับบอกว่าให้ทำเล่นๆ ทำเล่นๆ จะมีอะไรที่ง่ายกว่าการทำเล่นๆ อย่าไปหวังผล อย่าไปเน้นคุณภาพ ใหม่ๆ ก็ต้องเน้นปริมาณก่อน แล้วที่เหลือสติมันทำงานเอง
ความรู้สึกตัวมันทำงานเอง ถ้าเราวางใจแบบนี้ได้ การปฏิบัติมันจะกลายเป็นเรื่องง่าย สิ่งที่ยากก็คงมีแต่ว่าพยายามเคี่ยวเข็ญตัวเองให้มันเดินบ่อยๆ เดินทั้งวัน หรือว่าปฏิบัติยกมือสลับกับเดินทั้งวัน ตรงนี้มันยาก ที่เหลือเรื่องการวางใจกลายเป็นเรื่องง่าย จะไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่เราเข้าใจ
02/11/2022 • 29 minutes 34 seconds 25651015pm--สุขเปี่ยมจิตเมื่อเป็นมิตรกับตัวเอง
15 ต.ค. 65 - สุขเปี่ยมจิตเมื่อเป็นมิตรกับตัวเอง : แต่ถ้าคนเราสามารถเข้าถึงความสุขภายใน ไม่ต้องมีทรัพย์มาก แต่ให้มีความรู้สึกตัว มีสติ เท่านี้ก็เพียงพอที่จะอยู่ได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องพรั่งพร้อมด้วยวัตถุสิ่งเสพ ไม่ต้องมีบริษัทบริวารเยอะก็สามารถที่จะอยู่คนเดียวได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องถึงกับบรรลุธรรมอย่างพระภัททิยะก็ได้
แต่ถ้าหากว่าเรารู้จักเข้าถึงความสุขภายใน เริ่มต้นจากการมีความรู้สึกตัว การรักตัวเอง การอยู่กับตัวเองได้ มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก แล้วพออยู่กับตัวเองได้ มันก็ไม่ต้องไปดิ้นรนหาความสุขอะไรต่างๆ มาปรนเปรอ
ในทางตรงข้ามถ้าไม่พบตัวเอง ไม่รู้จักความรู้สึกตัวแล้ว แม้จะได้ทุกอย่างที่ต้องการที่ใฝ่ฝัน มีชื่อเสียง มีเงินทอง มีอำนาจ แต่ข้างในกลับว่างเปล่า เคว้งคว้าง ทำให้ต้องดิ้นรนแสวงหา แต่ยิ่งดิ้นรนแสวงหามากเท่าไหร่ก็ไม่พบ
02/11/2022 • 39 minutes 39 seconds 25651015pm--มีตนเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง
15 ต.ค. 65 - มีตนเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง : เมื่อพระพุทธเจ้าใกล้จะปรินิพพาน พระพุทธเจ้าก็ตรัสกับพระอานนท์ เมื่อได้ทราบว่ามีพระสงฆ์จำนวนมาก เศร้าโศกเสียใจที่พระพุทธองค์จะปรินิพพาน พระองค์ก็ตรัสว่า “ภิกษุสงฆ์ทั้งหลายจะหวังอะไรจากพระองค์อีก เพราะพระองค์แสดงธรรมจนหมดสิ้นแล้ว ไม่มีนอกไม่มีใน ฉะนั้นอย่าหวังอะไรจากพระองค์อีกเลย ถ้าจะหวังพึ่งก็หวังพึ่งตนเอง”
แล้วพระองค์ก็ตรัสว่า “จงมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง” เกาะในที่นี้หมายถึงว่าที่ๆ น้ำท่วมไม่ถึง ก็หมายถึงกิเลสหรือความทุกข์ท่วมไม่ถึง แผ้วพานไม่ถูก จงมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง และพระองค์ก็ตรัสว่าให้มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง อย่าหวังพึ่งสิ่งใดเลย
อันนี้ก็เป็นข้อคิดที่ชาวพุทธทั้งหลายก็ควรจะระลึกไว้ว่า เมื่อเรามาได้มีโอกาสมารู้จักพุทธศาสนา ได้มีโอกาสมาปฏิบัติธรรม เราต้องทำตนให้เป็นเกาะ หรือมีธรรมะเป็นที่พึ่งให้ได้ เปรียบเหมือนกับว่ามีเครื่องรักษาจิตที่มั่นคงแน่นหนา ถึงตอนนั้นไม่ว่าฝนจะกระหน่ำอย่างไร หรือเปรียบเหมือนกับทุกข์ภัย ที่ไม่ว่าจะมาอย่างไร ก็ไม่ทำให้จิตใจเป็นทุกข์ หรือว่าสั่นสะเทือนได้
อันนี้แหละคือความหมายข
02/11/2022 • 28 minutes 57 seconds 25651014pm--น้อมธรรมนำชีวิต
14 ต.ค. 65 - น้อมธรรมนำชีวิต : ถ้าเราไม่ลืมธรรมะ ธรรมะก็จะไม่ทิ้งเราในยามที่ชีวิตมันพลิกผัน สุขมันกลายเป็นทุกข์ ต้องนอนติดเตียงหรือต้องสูญเสียคนรัก พลัดพรากจากสิ่งที่เคยมี สิ่งที่เคยให ้ความสุขกับเรา ธรรมะจะไม่ทิ้งเรา ธรรมะจะช่วยกอบกู้จิตใจของเราให้ออกจากทุกข์ได้
ต้องนึกถึงธรรมะเอาไว้ในยามสุขเอาไว้นะ ในยามที่ประสบความสำเร็จ ในยามที่ชีวิตอยู่ในช่วงขาขึ้นไม่ว่าในทางสุขภาพ ในทางการงาน พูดง่ายๆว่าในทางโลก ใจไม่ทิ้งธรรม นึกถึงธรรมแล้วก็ปฏิบัติธรรมเอาไว้ แล้วในยามทุกข์ ธรรมะก็จะพาเรา อาจจะออกจากทุกข์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ แต่ทำให้เราอยู่กับทุกข์ได้โดยใจไม่ทุกข์
02/11/2022 • 27 minutes 44 seconds 25651010pm--เจริญในธรรมเพราะยอมให้ว่ากล่าว
10 ต.ค. 65 - เจริญในธรรมเพราะยอมให้ว่ากล่าว : อย่างที่บอกการที่คนเราจะน้อมรับคำวิจารณ์ หรือคำว่ากล่าวตักเตือนได้ ต้องมีคุณธรรมหลายอย่าง หรือมีหลักคิดหลายประการ ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ชี้วัดถึงความก้าวหน้าของการปฏิบัติ แต่มองในแง่หนึ่งถ้ามีตรงนี้ หรือถ้าหากว่าสามารถน้อมรับคำว่ากล่าวตักเตือนได้ด้วยใจที่ปกติ และก็รู้จักเอาไปปรับปรุงแก้ไขตัวเอง การที่คนเราจะก้าวหน้าในทางธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปมันก็จะมี
จะว่าไปแล้วมันก็เป็นตัวชี้วัดเลยว่าคนเราจะก้าวหน้าในทางธรรมได้หรือไม่ ก็ดูตรงนี้แหละ ดูตรงท ี่ว่าเมื่อถูกว่ากล่าวตักเตือนแล้วทำอย่างไร ถ้าโกรธโมโห การที่จะก้าวหน้าไปยิ่งกว่านั้นมันก็ยาก
30/10/2022 • 33 minutes 3 seconds 25651009pm--สอนตนจนพ้นทุกข์
9 ต.ค. 65 - สอนตนจนพ้นทุกข์ : อย่างในสมัยพุทธกาลก็มีพระรูปหนึ่ง ท่านเดินผ่านบ้านของคหบดีคนหนึ่ง แล้วก็นางทาสีก็กำลังร้องเพลง เป็นเพลงที่เกี่ยวกับความผิดหวัง ผิดหวังในความรัก ความรักมันแปรเปลี่ยนไป แล้วก็โยงไปถึงว่าความไม่เที่ยงของชีวิต ชีวิตนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอน มีรักก็มีเลิก
ท่านพิจารณาท่านก็เห็นชัดเลย อนิจจัง ปรากฏว่าเกิดปัญญาเลย เกิดปัญญาเข้าใจพระไตรลักษณ์ จิตหลุดพ้นเลย เป็นพระอรหันต์เลย เป็นพระอรหันต์เพราะได้ยินเสียงร้องเพลงของนาทาสี ครูบาอาจารย์สอนแต่ว่าท่านฟังแล้วไม่บรรลุธรรม แต่พอนางทาสีร้องเพลง เป็นเพลงเกี่ยวกับความรัก ความผิดหวังในความรัก แต่ท่านฟังแล้วเอามาสอนใจตัวเอง บรรลุธรรมเลย เป็นพระอรหันต์
แล้วก็มีเรื่องเล่าในประเทศจีนว่าพระหนุ่มเดินผ่านโรงเตี๊ยม ตอนนั้นก็กลางคืน ก็กำลังมีการร้องเพลงเกี้ยวพาราสี ตอบโต้กันภายในโรงเตี๊ยม แล้วก็มีตอนหนึ่งที่ผู้หญิงก็พูดขึ้นมาว่า ถ้าเธอไม่มีใจให้ฉัน ก็ขาดกัน
พระหนุ่มนี่ได้ยินพอดี ท่านบรรลุธรรมเลย เพราะว่าท่านเห็นเลยว่า เมื่อมีความผูกพันยึดติดถือมั่น มันก็มีแต่ทุกข์ แต่ถ้าหากว่าละทิ้งหรือตัดความยึดติดถือมั่นได้ ทุกข์ก็ดับไป ผ
30/10/2022 • 27 minutes 30 seconds 25651008pm--วิชาที่ต้องเรียน
8 ต.ค. 65 - วิชาที่ต้องเรียน : เราก็ควรจะมีความฉลาดในการเรียนรู้แบบนี้บ้าง ก็คือว่าเรียนรู้จากทุกประสบการณ์ โดยเฉพาะอนิฏฐารมณ์ คือเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนา ที่ไม่เป็นไปดั่งใจ รวมทั้ง ถือเอาคนที่เขาทำตัวหรือพูดไม่ถูกหูเรา เอามาเป็นครูสอนเรา ให้เราได้รู้จักตัวเอง หรือเอามาเป็นครูที่สอนให้เรารู้ว่ามีอะไรที่เราจะต้องฝึกฝนให้ดีขึ้นไปกว่านี้
เพราะอย่าลืมว่าวิชาชีวิตนี่ คือสิ่งที่เป็นวิชาที่เราต้องเรียนไปจนตาย ตราบใดที่เรายังไม่ได้บรรลุอรหัตผล เพราะถ้าเราไม่เรียนรู้วิชาชีวิต เมื่อเจอความผันผวนแปรปรวน เราก็จะเอาตัวไม่รอด ฉะนั้นถ้าเราอยากจะเอาตัวให้รอด และสามารถที่จะฟันฝ่าความทุกข์ได้ วิชาชีวิตคือวิชาหนึ่งที่เราต้องเรียน หรือเรียกว่าเป็นวิชาเดียวก็ได้ที่เราต้องรู้
30/10/2022 • 27 minutes 46 seconds 25651007pm--มองตนจนว่างจากกู
7 ต.ค. 65 - มองตนจนว่างจากกู : การที่เราทำอะไรด้วยสติ ก็จะเห็นเลยว่ามันไม่ใช่เราที่ทำ แต่เป็นรูปที่ทำหรือเป็นกายที่ทำ เวลาเดินจงกรมก็ไม่ใช่เราเดิน แต่เป็นรูปที่เดินหรือเป็นกายที่เดิน มันไม่ยึดว่าเป็นเราเดิน เวลาคิดก็เห็นว่ามันมีความคิดเกิดขึ้น ไม่ใช่เราคิด เวลาปวดก็เป็นความปวดที่เกิดขึ้นกับกายแต่ไม่ใช่เราปวด คือไม่มีผู้ปวด พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ มันมีความทุกข์แต่ไม่มีผู้ทุกข์
นอกจากเกิดความสงบ เกิดการวางจากทุกข์แล้ว ก็ยังทำให้เกิดปัญญาที่เห็นความจริงด้วย ในมหาสติปัฏฐานสูตร ท่านก็แนะนำการปฏิบัติว่า ให้เห็นกายในกาย เห็นจิตในจิต เห็นเวทนาในเวทนา ความหมายหนึ่งก็คือ เห็นกายว่าเป็นกาย-ไม่ใช่เรา เห็นเวทนาว่าเป็นเวทนา-ไม่ใช่เรา เห็นจิตหรือารมณ์ความคิดว่าเป็นจิต-ไม่ใช่เรา
มันคือการเห็นความจริงนั่นเอง เป็นเพราะเราหลง เป็นเพราะเราไม่มีสติ เราก็เลยหลงไม่เห็นความจริง ไปมองว่ากายคือเรา ไปมองว่าเวทนาคือเรา ไปมองว่าจิตคือเรา แต่ที่จริงแล้วสติทำให้เราเห็นความจริงที่ซื่อตรงๆ เลยว่า เห็นกายว่าเป็นกาย-ไม่ใช่เรา เห็นเวทนาว่าเป็นเวทนา-ไม่ใช่เรา เห็นจิตว่าเป็นจิต-ไม่ใช่เรา
มันเป็นความจริงที่ซื
30/10/2022 • 26 minutes 30 seconds 25651006pm--เปิดโอกาสให้สติทำงาน
6 ต.ค. 65 - เปิดโอกาสให้สติทำงาน : สติของเราก็มีความสามารถในการจำ เพราะมันเป็นหน้าที่ของสติอยู่แล้ว และสิ่งที่เราอยากให้สติจำได้คือ ความโกรธเป็นอย่างไร ความหงุดหงิดเป็นอย่างไร ความดีใจเป็นอย่างไร ความรู้สึกตัวเป็นอย่างไร พอมันไม่รู้สึกตัวเพราะความหลง สติจะจำได้ แล้วความรู้ทันก็จะเกิดขึ้น เมื่อรู้ทันความหลง ความหลงหายไป ความรู้สึกตัวก็มาแทน
ทั้งหมดนี้ก็มาสรุปตรงที่ว่า ให้ทำบ่อยๆ ทำซ้ำๆ ทำเรื่อยๆ โดยที่เราไม่ไปทำแทนสติ แต่เราให้สติทำงาน แล้วต่อไปเราจะสบาย เหมือนกับเวลามีน้ำสกปรกน้ำเน่าขัง เราไม่ต้องไปขุดหรือไปวิดน้ำให้เหนื่อยเสียเวลา เราปล่อยน้ำดีเข้าไป น้ำดีมันก็ไปไล่น้ำเสียเอง
ฉันใดก็ฉันนั้น เวลามีความหลงมีความทุกข์ เราไม่ต้องไปทำอะไรกับความหลงความทุกข์นั้นหรอก ปล่อยให้สติทำงาน สติก็จะไปจัดการกับความหลงความทุกข์นั้นเอง มันทำได้ถ้าเราเปิดโอกาสให้มันทำบ่อย ๆ
22/10/2022 • 26 minutes 45 seconds 25651005pm--ความคิดมีไว้ให้เรารู้ทัน
5 ต.ค. 65 - ความคิดมีไว้ให้เรารู้ทัน : หลวงพ่อเทียนท่านเน้นเสมอว่าอย่าไปห้ามความคิด ท่านบอกว่ายิ่งคิดก็ยิ่งรู้ ปล่อยให้มันคิดไป พอคิดหรือหลงคิด มันก็เป็นแบบฝึกหัดให้สติรู้ทัน ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้ ใหม่ๆมันรู้ได้แค่ 10% แต่ต่อไปมันก็จะรู้ 20% แล้วก็รู้ 30% มันจะรู้ได้มากขึ้นเรื่อยๆเพราะว่ายอมให้หลง หรือว่ายอมเผลอ ยอมให้มีความคิดต่างๆเกิดขึ้น
ครูบาอาจารย์ บอกว่าอย่าไปส่งจิตออกนอก อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ควรทำแต่ก็พึงระลึกว่าเราไม่สามารถบังคับจิตไม่ให้ส่งออกนอกได้ แต่ถ้ามันส่งไปเมื่อไหร่ก็ให้มีสติรู้ทัน ใหม่ๆ มันจะรู้ทันช้า เราก็ต้องอดทน แล้วก็ต้องรู้จักคอย ทำไปเรื่อยๆมันก็จะรู้ทันได้ไวขึ้น สัมมาสติก็จะทำงานได้ไวขึ้น สัมมาสติก็จะทำได้เร็วขึ้น
เพราะฉะนั้นเราต้องเตือนใจตัวเองว่าเรายอม อนุญาตให้ทุกความคิดมันเกิดขึ้นได้ เพราะว่าเราไม่สามารถบังคับให้มีแต่ความคิดที่ต้องการหรืออารมณ์ที่พึงปรารถนา แล้วจริงๆมันก็เป็นธรรมชาติของจิตที่จะคิดสารพัด นั่นเป็นหน้าที่ของมัน แต่หน้าที่ของเราคือรู้ทันมัน
เหมือนกับเราดูถนน แล้วก็มีรถผ่านไปผ่านมา หน้าที่ของเราคือดูรถที่ผ่านไปผ่านมา แต่ว่าไม่ใช่ไปห้ามรถ
22/10/2022 • 25 minutes 49 seconds 4 ต.ค. 65 - เติมสติให้ใจ : แล้วพอเราสติของเราไว มันก็ทำให้เรารู้กายได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ต่อเนื่อง และพอรู้กายได้ดี ต่อไปมันจะรู้ใจ เวลาคิดนึกอะไรมันก็จะรู้ได้ไว แต่ว่าใหม่ๆ อย่าเพิ่งไปสนใจว่าเราจะรู้ทันความคิดหรือเปล่า อย่าเพิ่งไปสนใจ เพราะถ้าไปสนใจเราจะอดไม่ได้ที่จะไปดักจ้องความคิด พอเราไปดักจ้องความคิด เราก็หลงเข้าไปในความคิดเลย เพราะความคิดนี่มันมีแรงดึงดูด หรือมีอุบายที่จะดูดใจของเราให้หลงเข้าไป จากเรื่องนั้นไปเรื่องนี้ จากเรื่องนี้ไปเรื่องนั้น 10 เรื่องกว่าจะมารู้ตัวว่าถูกความคิดมันหลอก ความคิดแบบนี้เราเรียกว่าลักคิด หลวงพ่อคำเขียนเรียกว่าลักคิด
เหมือนลักพาจิตของเราไปเลย เพราะว่าจิตของเราสติยังอ่อน แต่พอสติของเราไวขึ้นๆ มันจะมีกำลัง แล้วมันก็จะรู้ทัน ไม่ปล่อยให้ความคิดมันหลอกลวง หรือลักพาจิตของเราไป มันจะกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวได้ไวขึ้น
22/10/2022 • 27 minutes 25 seconds 25651003pm--สงบดีแต่อย่าติด
3 ต.ค. 65 - สงบดีแต่อย่าติด : แม้ความสงบเป็นของดี มันช่วยทำให้เราไม่ติดสุขที่หยาบๆ เป็นอิสระจากกามสุข แต่ความสงบนี่ ติดเมื่อไหร่ก็เป็นทุกข์เมื่อนั้น ของดีถ้าหากว่าเรายึดมันเมื่อไหร่ ดีมันก็กลายเป็นเสียไปเลย ความคิดที่ถูก ถ้ายึดเข้าไว้ ก็กลายเป็นความคิดที่ผิดไปเลย
อย่างที่หลวงพ่อเฟื่อง โชติโกท่านบอก ความเห็นของเราแม้จะถูก แต่ถ้ายึดเข้าไว้มันก็ผิด คนไม่ค่อยเข้าใจนะ สิ่งดีๆ ถ้าปฏิบัติไม่ถูก มันกลายเป็นโทษไปเลย อันนี้เขาเรียกว่าทำผิดในสิ่งที่ถูก สิ่งที่ถูกถ้าไปปฏิบัติไม่ถูก ก็กลายเป็นผิดไปเลย
ต้องระวังทำผิดในสิ่งที่ถูก ก็คือยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ดี แม้ความสงบจะเป็นสิ่งที่ดี ช่วยทำให้เป็นอิสระจากกามสุข สุขที่หยาบได้ แต่พอไปยึดเข้าไว้ มันก็ผิดไปเลย เพราะมันสามารถจะทำให้เกิดทุกข์ได้
22/10/2022 • 27 minutes 59 seconds 25650930pm--มีสุขแต่ไม่ติดสุข
30 ก.ย. 65 - มีสุขแต่ไม่ติดสุข : ความสุขเป็นสิ่งที่ผู้คนปรารถนา ตรงข้ามกับความทุกข์ซึ่งไม่มีใครต้องการ ในเมื่อความทุกข์เป็นสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้ เราจึงควรเกี่ยวข้องกับมันอย่างถูกต้อง หาไม่แล้วเราก็จะลงเอยด้วยการซ้ำเติมตนเอง อันที่จริงแม้กระทั่งความสุข เราก็ควรปฏิบัติให้ถูกต้องด้วย หาไม่ความสุขก็จะกลายเป็นโทษ ใช่หรือไม่ว่าความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับผู้คนทั้งหลายล้วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขมาก่อน
ตรงกันข้ามกับความเข้าใจของหลายคน พระพุทธองค์ไม่ได้สอนให้ปฏิเสธความสุข แท้จริงทรงแนะนำว่าเราไม่ควรละทิ้งความสุขที่ชอบธรรม แต่ก็อย่าหลงใหลมัวเมาหรือยึดติดความสุขเหล่านั้น ทั้งนี้เพราะมันไม่เที่ยง ไม่จิรังยั่งยืน ส่วนความทุกข์ ในเมื่อเราไม่ชอบ ก็อย่าเอาทุกข์มาทับถมตน แทนที่จะจมอยู่ในความทุกข์หรือ “เป็น”ทุกข์ ก็ควรรู้จักมันหรือ “เห็น”มัน ด้วยการวางใจอย่างถูกต้อง ความสุขหรือความทุกข์ย่อมไม่อาจครอบงำจิตใจเราจนเรากลายเป็นทาสของมัน
17/10/2022 • 25 minutes 23 seconds 25650928pm--แก้ที่ตนก่อนเปลี่ยนคนอื่น
28 ก.ย. 65 - แก้ที่ตนก่อนเปลี่ยนคนอื่น : เป็นเพราะลืมมองตน ผู้คนจึงมักสร้างปัญหาหรือมีส่วนทำให้ปัญหาลุกลามขึ้นโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเมื่อใดที่คิดจะแก้ปัญหา ควรหันมาสำรวจตนเองก่อนที่จะเรียกร้องหรือจัดการคนอื่น แม้แต่การช่วยคนอื่นก็เช่นกัน เพียงแค่ดูแลตนเองให้ดีก็สามารถช่วยคนอื่นได้มาก
17/10/2022 • 27 minutes 37 seconds 25650927pm--รู้ทันจิต อย่าให้ความคิดหลอก
27 ก.ย. 65 - รู้ทันจิต อย่าให้ความคิดหลอก : การที่เรามาเจริญสติ เป็นการฝึกให้เราได้มาหันมาดูใจของเรา หันมาสำรวจความรู้สึกนึกคิดของเรา แล้วก็เห็นมันอย่างที่มันเป็น เริ่มต้นจากการเห็นอย่างที่มันเป็นก่อน แม้ว่าสิ่งที่เห็นมันจะเป็นเรื่องภายใน แต่เมื่อเราเริ่มที่จะเห็นความรู้สึกนึกคิดอย่างที่มันเป็น ไม่ใช่อย่างที่อยากเห็น การที่เราจะเห็นโลกตามความเป็นจริงในระดับหนึ่ง มันก็เป็นไปได้
การเห็นความรู้สึกนึกคิดตามความเป็นจริง ก็คือการดูมันโดยไม่วิพากษ์วิจารณ์ อย่างที่ครูบาอาจารย์ท่านใช้คำว่ารู้ซื่อๆ รู้ซื่อๆ ก็คือแค่รู้โดยที่ไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ไปตัดสินว่าดี ไม่ดี
อารมณ์บางอย่างเราเคยคิดว่ามันไม่ดี แล้วพอมันเกิดขึ้นก็พยายามจะกำจัดมัน เช่น ความโกรธ ความกลัว ความเศร้า ความเกลียด ความอิจฉา มันไม่ดี ต้องกำจัดมัน ต้องข่มมัน อันนั้นก็อาจจะมีประโยชน์ในระดับหนึ่ง แต่ว่าสิ่งที่เราควรทำขั้นต่อไป ก็คือรู้เท่าทันมัน และก็เห็นมันอย่างที่มันเป็น เรียกว่าเห็นโดยที่ไม่ตัดสินว่าดีหรือไม่ดี
การที่เราเห็นมันอย่างที่มันเป็น หรือการที่เรารู้ซื่อๆ มันเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ใจเราไม่ถูกอารมณ์พวกนี้ครอบง
17/10/2022 • 26 minutes 8 seconds 25650926pm--ทำความดี เห็นความจริง
26 ก.ย. 65 - ทำความดี เห็นความจริง : ตอนที่ยังเริ่มมาสนใจพุทธศาสนาใหม่ๆ ท่านก็สอนว่าให้รู้จักคิดดี อย่าคิดร้ายคิดชั่ว แต่พอมาภาวนา ยอมรับหรืออนุญาตให้ความคิดชั่วมันเกิดขึ้นได้ แต่ว่าไม่เข้าไปยึดมัน อย่างที่หลวงพ่อคำเขียนท่านว่า คิดดีก็ช่าง คิดไม่ดีก็ช่าง อย่าไปสนใจ ก็แค่ดูมัน เห็นมัน มันจะมีความอิจฉา มันจะมีเสียงด่าพ่อแม่ จ้วงจาบครูบาอาจารย์ ก็แค่เห็นมัน ดูมัน ตอนที่ยังไม่ปฏิบัติ ก็ทนไม่ได้กับความคิดแบบนี้ เพราะมันเป็นความคิดที่ไม่ดี แต่พอเรามาปฏิบัติ เราเริ่มที่จะเห็นว่ามันเป็นธรรมดา ที่จะมีความคิดแบบนั้นในหัว
เพราะว่าจิตของเรามันก็เหมือนกับเรือนว่าง เรือนว่างริมถนน ที่จะมีใครมาใช้มาพักก็ได้ คนดีมาพักก็ได้ คนชั่วมาพักก็ได้ ผู้ร้ายมาพักก็ได้ ใจเราก็เป็นอย่างนั้นแหละ หน้าที่ของเราก็คือดูมัน แล้วก็เห็นมัน แต่ว่าไม่เข้าไปยึด แล้วก็ไม่ทำตามมัน
ต่อไปจะเห็นว่าที่คิดนี่ไม่ใช่เรา ความคิดมันเกิดขึ้น แต่ไม่ใช่เราคิด คิดดีก็ไม่ใช่เรา คิดชั่วก็ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา แล้วจะไปทุกข์ร้อนทำไม ต่อไปก็จะเห็นอารมณ์นี่ก็ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ความโกรธก็ไม่ใช่เรา เห็นความโกรธจึงไม่มีผู้โกรธ เห็
17/10/2022 • 23 minutes 46 seconds 25650925pm--ขัดใจให้งดงาม
25 ก.ย. 65 - ขัดใจให้งดงาม : การฝึกด้วยการทำให้เกิดความผิดหวัง ทำให้เกิดการขัดใจ เพราะว่าจิตใจคนเราถ้ามันถูกขัดเมื่อไหร่ มันก็มีโอกาสที่จะงดงามได้ ที่จริงเราไม่ต้องรอให้ครูบาอาจารย์มาขัดใจเรา หรือมาก่อกวนเพื่อทำให้เราเกิดการเรียนรู้ ที่จริงสิ่งที่ขัดใจเรามันมีตลอดเวลา มันมีอยู่ทุกวัน ไม่ใช่แต่ครูบาอาจารย์ อาจจากสิ่งแวดล้อม อาจจะเป็นดินฟ้าอากาศ แล้วก็จากผู้คนรอบข้าง คนในวัด คนในบ้าน คนใกล้ตัว ส่วนใหญ่พอเจอใครขัดใจนี่เราจะไม่ชอบ เกิดความโกรธ เกิดความโมโห แบบนี้เรียกว่าขาดทุน ถ้าเป็นนักปฏิบัติธรรมก็เรียกว่าสอบตก
แต่ถ้ามองว่าเขามาช่วยขัดใจเราให้สะอาด เขามาช่วยเป็นแบบฝึกหัดให้เรามีสติรู้ทัน หรือช่วยลบเหลี่ยมลบมุมให้จิตใจเราประณีตงดงาม ถ้าเราคิดแบบนี้ก็แปลว่าคนที่อยู่รอบข้างเรา คนที่ขัดใจเรา เขาก็เป็นครูบาอาจารย์เราได้เหมือนกัน ไม่ต้องรอให้ครูบาอาจารย์มาขัดใจเรา เพราะว่าคนที่อยู่รอบตัวเราก็พร้อมที่จะขัดใจเราได้อยู่เสมอ แต่สมัยนี้ก็ไม่แน่นะ บางทีครูบาอาจารย์ขัดใจ กลับไม่ชอบ กลับโมโห กลับต่อว่าครูบาอาจารย์ก็มี เพราะเดี๋ยวนี้เราปรารถนาการตามใจ ปรารถนาการทำอะไรที่มันถูกต้อง บางทีครูบาอาจ
16/10/2022 • 28 minutes 44 seconds 25650924pm--ฉลาดแต่ขาดเฉลียว
24 ก.ย. 65 - ฉลาดแต่ขาดเฉลียว : คนทุกวันนี้ใช้ชีวิตอย่างผิดทิศผิดทาง ก็เพราะว่าลืมจุดหมายไป ว่าเราต้องการอะไรอย่างแท้จริง ไปสนใจจดใจกับวิธีการ บางทีเลยไม่ต่างจากคนที่พยายามผลักประตู ดันอยู่นั่นแหละ ผลักประตูอยู่นั่นแหละ มันไม่เปิดสักที ถ้าฉุกคิดสักหน่อยก็จะบอกว่า เป็นเพราะว่าประตูนี้มันไม่ได้ต้องดัน มันแค่ดึง แต่หลายคนไม่คิดจะดึงเลยนะ จะดันอย่างเดียวเลย จะผลักอย่างเดียวเลย ถ้าฉุกคิดสักหน่อยว่าประตูนี้เขาอาจจะใช้ดึงก็ได้ ไม่ใช่ผลักเอา แต่เป็นเพราะความลืมตัว หรือความมุ่งมั่นจะเอาให้ได้ๆ
ฉะนั้นการที่เรามาเจริญสติ มาฝึกความรู้สึกตัว มันถึงเป็นเรื่องสำคัญ มันไม่ใช่เป็นความฟุ่มเฟือย หรือไม่ใช่เป็นส่วนเกินของชีวิต แต่เป็นสิ่งสำคัญเลยทีเดียว เป็นเพราะเราหลง ไม่รู้สึกตัว เราจึงพาชีวิตผิดทิศผิดทาง อาจจะมีความสามารถในการแก้ปัญหา มีความสามารถในการหาเงินหาทอง แต่ก็ลงเอยด้วยความเครียดความทุกข์ ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องเป็นอย่างนั้นเลย
ถ้าหากเราเฉลียวใจสักหน่อยว่าทำเพื่ออะไร ถ้าเราทำเพื่อความสุข แต่มาลงเอยแบบนี้ มันคุ้มไหม มันถูกทางหรือยัง หรือว่าเราอาจจะฉลาดเหมือนกับกาตัวนั้น แต่มองภาพรวมแล้วม
16/10/2022 • 24 minutes 9 seconds 25650923pm--ถึงพร้อมด้วยประโยชน์ตน และประโยชน์ท่าน
23 ก.ย. 65 - ถึงพร้อมด้วยประโยชน์ตน และประโยชน์ท่าน : ถ้าหากเราเข้าใจจุดสาระสำคัญของพุทธศาสนา เราก็สามารถจะปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ได้อย่างครบถ้วน ในขณะที่อยู่ในโลกก็อยู่อย่างมีคุณค่า ขณะเดียวกันก็ไม่เป็นทุกข์ เพราะความผันผวนปรวนแปรของโลก ก็ยังสามารถที่จะเข้าถึงความสงบเย็นในจิตใจด้วย และรู้จักทำประโยชน์ เรียกว่ามีทั้งความสงบเย็นและก็เป็นประโยชน์
อยู่ในใจ เหนือเกื้อโลก อาจจะสรุปเหลือแค่ 2 ก็ได้ สงบเย็น และเป็นประโยชน์ สงบเย็นเพราะว่าจิตใจเป็นอิสระจากโลกธรรม 8 เป็นอิสระจากความยึดติดถือมั่นในสิ่งทั้งปวง ก็สงบเย็น เมื่อสงบเย็นแล้ว ก็ไม่ได้พึงพอใจเท่านั้น ก็ยังออกไปทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น แต่ถ้าไม่ค่อยเข้าใจพุทธศาสนาอย่างครบถ้วนแล้ว ก็จะไปจับอยู่แค่บางจุด หรือแค่จุดใดจุดหนึ่ง เช่น เน้นเรื่องความสงบเย็น แต่ลืมเรื่องการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น เป็นต้น เพราะฉะนั้นในการศึกษาพุทธศาสนานี้ ต้องอาศัยการศึกษาที่รอบด้าน ที่สำคัญต้องปฏิบัติด้วย ถ้าเราศึกษาไม่ถี่ถ้วน การปฏิบัติก็จะบกพร่องได้
16/10/2022 • 28 minutes 35 seconds 25650922pm--เรียนรู้โดยไม่ต้องพึ่งถ้อยคำ
22 ก.ย. 65 - เรียนรู้โดยไม่ต้องพึ่งถ้อยคำ : ความรู้สึกตัวเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราสามารถที่จะถอดรหัสจากรูปกับนาม รวมทั้งที่อยู่รอบตัว เช่น รูปที่กระทบตา เสียงที่กระทบหู เมื่อก ่อนมองไม่ออกว่ามันบอกอะไรเรา แต่พอเรามีความรู้สึกตัวแล้วรู้จักวางความคิดลง มันก็จะเห็น ได้ยินสิ่งที่ธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นรูป นาม หรืออารมณ์ภายนอกนั้นบอกกับเรา
ต้องหมั่นฝึกเอาไว้นะ อย่าไปสนใจแต่การเรียนรู้ผ่านถ้อยคำหรือคำพูด มันจะทำให้เราขาดโอกาส เพราะอย่างที่ผู้รู้เขาบอกว่า ข้อมูลนี่มันส่งผ่านภาษาพูดแค่ 7 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือนั้นไม่ได้ผ่านภาษาพูด บางทีเขาก็ใช้สิ่งที่เรียกว่าอวจนภาษา แต่ที่จริงมันมากกว่านั้น
16/10/2022 • 26 minutes 44 seconds 25650921pm--ทำเหตุให้ดี ผลย่อมเกิดขึ้น
21 ก.ย. 65 - ทำเหตุให้ดี ผลย่อมเกิดขึ้น : เวลาเราทำอะไรก็ตาม อย่าว่าแต่การภาวนาเลย แม้กระทั่งการทำงาน สิ่งสำคัญคือการสร้างเหตุสร้างปัจจัย หรือเขาเรียกว่าประกอบเหตุให้ถึงพร้อม และถ้าประกอบเหตุให้ถึงพร้อม ผลมันย่อมทนอยู่ไม่ได้ ผลมันย่อมแสดงตัวออกมา
เหมือนกับต้นไม้ ถ้าหากว่าได้น้ำ ได้ปุ๋ย เมื่อถึงเวลามันก็ออกดอกออกผล จะรู้ตัวหรือไม่รู้ก็ตาม หมายถึงคนปลูกนะ ต้นไม้มันก็ออกดอกออกผลในที่สุด มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความอยากของเรา เพราะฉะนั้นจึงควรประกอบเหตุให้ถึงพร้อม
และในบางกรณี จะเรียกว่าส่วนใหญ่ก็ได้ ต้องวางความอยาก โดยเฉพาะอยากได้ลงเสีย เพราะว่าความอยากได้นี่แหละ ซึ่งก็คือตัณหานี่แหละ มักจะเป็นอุปสรรคขัดขวาง ให้การประกอบเหตุไม่ถึงพร้อม โดยเฉพาะถ้าทำเรื่องที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เช่นเรื่องการบำเพ็ญทางจิต เรื่องการบำเพ็ญทางจิตมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพียงแค่มีตัณหา และเกี่ยวข้องกับตัณหาไม่ถูก ปล่อยให้มันรบกวนจิตใจ มันก็ทำให้การประกอบเหตุที่จะนำไปสู่ผล เกิดขึ้นได้ยาก
14/10/2022 • 24 minutes 10 seconds 25650920pm--เปลี่ยนขยะเป็นปุ๋ย
20 ก.ย. 65 - เปลี่ยนขยะเป็นปุ๋ย : ส่วนใหญ่เราไปสนใจแต่ว่า “อะไร” มากกว่า “อย่างไร” ขอให้มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับเรา ขอให้สิ่งแย่ๆ อย่าได้เกิดขึ้นกับเรา ถ้าสิ่งแย่ๆ เช่น ทุกข์ เกิดขึ้นกับเร าเมื่อไรนี่ ฉันแย่แน่ๆ มันยังไม่ทันแย่หรอกนะ เพราะว่าแม้มันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งสำคัญคือว่าเราจะใช้มันอย่างไร
อะไร” ไม่สำคัญเท่ากับว่า “อย่างไร” เจออะไร ไม่สำคัญเท่ากับว่าเรารู้สึกกับมันอย่างไร หรือเห็นประโยชน์ของมัน หรือหาประโยชน์จากมันได้อย่างไร อันนี้สำคัญกว่า เพราะฉะนั้นเวลามีอะไรเกิดขึ้นกับเรานี่ โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นลบ ความทุกข์ก็ดี อารมณ์อกุศลก็ดี ลองมองดีๆ นะ ถ้าเรารู้จักใช้มัน มันก็เกิดประโยชน์ได้
14/10/2022 • 25 minutes 15 seconds 25650919pm--รู้สึกตัว อย่าด่วนสรุป
19 ก.ย. 65 - รู้สึกตัว อย่าด่วนสรุป : อย่าเชื่อเพียงเพราะการอนุมาน อย่าเชื่อเพียงเพราะรูปลักษณะมันน่าจะเป็นไปได้ เพราะว่าบทเรียนจากผู้คนมากมาย มันบอกว่าการสรุปของคน ถ้าด่วนสรุปก็อาจจะผิดได้ ทั้งๆ ที่ดูมีเหตุผล แต่ถึงแม้ว่าเราไม่มีความสามารถในการคิดเผื่อได้ แต่อย่างน้อยถ้ามีสติ มันรู้ทันความคิด มันก็ไม่หลงเชื่อความคิด ก็ดูมัน แล้วก็สุดท้ายความจริง ที่ปรากฏก็อาจจะตรงข้ามกับความคิดที่เกิดขึ้นก็ได้
ฉะนั้นเราต้องรู้จักทักท้วงความคิด อย่าไปหลงเชื่อมัน และสิ่งที่จะช่วยทำให้เราเป็นนาย เป็นอิสระจากความคิดได้ ไม่ตกเป็นทาส คือการที่เราเห็นมัน ไม่เข้าไปเป็น ถ้าเราทำอย่างนี้ได้ เราก็จะเป็นนายมัน เราก็จะใช้ความคิด แต่ถ้าไม่เช่นนั้น ความคิดมันก็ใช้เรา ความคิดนี่เป็นบ่าวที่ดี แต่เป็นนายที่เลว ถ้าเราใช้มัน มีประโยชน์นะ แต่ถ้ามันใช้เรานี่ เราแย่เลย พาเราเข้ารกเข้าพงไปได้ง่ายๆ
13/10/2022 • 26 minutes 20 seconds 25650918pm--กระทบกาย แต่ใจไม่กระเทือน
18 ก.ย. 65 - กระทบกาย แต่ใจไม่กระเทือน : แต่ฝนไม่ว่าจะตกหนักแค่ไหน เราทุกคนในที่นี้ก็ไม่มีใครที่เปียกปอน เพราะอะไร ก็เพราะว่ามีหลังคาคอยป้องกัน ฝนตกหนักแค่ไหน จะกระทบหลังคาดังเพียงใด แต่ว่าเราไม่เปียก เราห้ามฝนไม่ให้ตกไม่ได้ เหตุปัจจัย พร้อมฝนก็ตก เราห้ามไม่ได้
แต่สิ่งที่เราทำได้คือว่าตกแล้วตัวเราไม่เปียก ก็เหมือนกับชีวิตของเรา จะห้ามไม่ให้มีเหตุร้าย จะห้ามไม่ให้มีอะไรมากระทบกับชีวิตของเรา มันทำไม่ได้ อาจจะทำได้เพียงแค่ช่วยบรรเทาไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรง แต่ว่าในที่สุดมันก็เกิดขึ้นจนได้
มีเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเรา กับบ้านของเรา กับรถยนต์ของเรา ข้าวของเครื่องใช้ของเรา แม้กระทั่งกับร่างกายของเรา ตลอดจนคนที่เรารัก อันนี้เป็นสิ่งที่ห้ามได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แต่ว่าเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ไม่ให้มันกระเทือนไปถึงใจ ทำได้นะ พูดง่ายๆ คือว่าแม้จะเสียทรัพย์ แต่ว่าใจไม่เสีย แม้ว่าจะป่วยกาย แต่ว่าใจไม่ป่วย อันนี้ทำได้ แล้วก็เป็นสิ่งที่ควรทำด้วย
13/10/2022 • 22 minutes 2 seconds 25650917pm--รู้ตัวเมื่อใด ใจเบาเมื่อนั้น
17 ก.ย. 65 - รู้ตัวเมื่อใด ใจเบาเมื่อนั้น : จริงอยู่คนเราอาจไม่ได้กำอะไรที่มือ แต่ใจนั้นกำไว้แน่น พอกำไว้แน่น ความทุกข์จึงตามมา ที่จริงเพียงแค่คลายหรือปล่อย เราก็เป็นอิสระจากทุกข์ได้ แต่คนเราส่วนใหญ่เหมือนกับลิง คือ ไม่ยอมปล่อย ไม่ยอมคลาย กำไว้อย่างนั้น ไม่ได้กำที่มือ แต่กำที่ใจ เรียกว่ายึดติด
ความทุกข์ของคนเราเมื่อถึงที่สุดแล้วก็เกิดจากความยึดติด เป็นเพราะใจเรากำไว้ไม่ยอมปล่อย ทุกข์กายนั้นเกิดจากหลายสาเหตุ สารพัด เช่น อากาศร้อน อากาศหนาว เชื้อโรค อาหารเป็นพิษ มลภาวะ หรือภัยธรรมชาติ หรือมีคนมาทำร้าย แต่ถ้าเป็นทุกข์ใจแล้ว สาเหตุมีอยู่ประการเดียว ถ้าสาวไปให้ถึงที่สุด ก็คือความยึดติด
13/10/2022 • 26 minutes 30 seconds 25650916pm--อย่าละเลยงานภายใน
16 ก.ย. 65 - อย่าละเลยงานภายใน : ที่รู้ทันเพราะอะไร เพราะว่ามีความคิดเป็นแบบฝึกหัด เหมือนกับเป็นการบ้าน และยิ่งรู้ทันความคิด มันก็ยิ่งเกิดความรู้สึกตัวตามมา อันนี้คือสิ่งสำคัญที่คนขยันทำงาน ทำงานด้วยความมุ่งมั่นนี่ จะทำใจลำบาก เพราะเขาจะพยายามมุ่งให้ได้ความสำเร็จ ความสำเร็จคือจิตที่สงบ พอมีเพราะหวังผลสัมฤทธิ์แบบนี้ เขาจะพยายามควบคุมทุกตัวแปรเพื่อให้จิตสงบ ซึ่งรวมไปถึงการควบคุมความคิด สุดท้ายจิตก็ยิ่งเครียดยิ่งฟุ้ง ทำไปก็ยิ่งทุกข์
เพราะฉะนั้น ต้องยอมนะ อนุญาตให้ทุกอาร มณ์มันเกิดขึ้นได้ แล้วมันก็จะเป็นตัวที่ค่อยๆ ฝึกจิตของเราให้มีสติ มีความรู้สึกตัวมากขึ้น อันนี้เป็นการบ้านอย่างแรกที่เราควรจะฝึกหรือทำให้ได้ แล้วมันก็จะนำไปสู่ความก้าวหน้าในการปฏิบัติในลำดับต่อๆไป
13/10/2022 • 26 minutes 54 seconds 25650915pm--อุบายคลายหลงในสมมติ
15 ก.ย. 65 - อุบายคลายหลงในสมมติ : เห็นอารมณ์ เห็นความคิด เห็นความโกรธ แต่ไม่เป็นผู้โกรธ ไม่เป็นผู้คิด แต่ก็ต้องตระหนักว่ามันยังมีผู้เห็นอยู่ แล้วผู้เห็นคือเราเห็น ในความเข้าใจ ต่อเมื่อไถ่ถอนความยึดมั่นในตัวตนในเรา จนกระทั่งมันมีแต่การเห็น แต่ไม่มีผู้เห็น
ตรงนี้แหละที่จะทำให้เข้าใจเรื่องอนัตตา เข้าถึงอนัตตา แล้วก็สามารถที่จะเข้าถึงปรมัตถสัจจะ โดยที่ไม่ติดสมมติสัจจะได้ อันนี้ก็ถือว่าเป็นอุบาย เป็นขั้นตอนในการที่จะช่วยให้เราไม่หลงติดในสมมติ ไม่ว่าจะเป็นสมมติบัญญัติ หรือสมมติสัจจะได้
21/09/2022 • 28 minutes 40 seconds 25650914pm--เข้าถึงความจริง ไม่ติดสมมติ
14 ก.ย. 65 - เข้าถึงความจริง ไม่ติดสมมติ : เวลามันมีความโกรธ มันก็ไม่ใช่เราโกรธ แต่เป็นแค่ความโกรธที่เกิดขึ้นกับใจ ถ้าเราเห็นไปว่ามันมีแต่ความโกรธ แต่ไม่มีผู้โกรธ มันมีแต่ความคิด แต่ไม่มีผู้คิด อันนี้เรียกว่าเริ่มไถ่ถอนออกจากความยึดมั่นในตัวตน เริ่มที่จะถอนออกมาจากสมมติสัจจะ เริ่มที่จะเข้าใกล้ปรมัตถสัจจะ
การเจริญสติ ก็เป็นวิธีการที่จะทำให้แยกตัวคนหรือตัวเราออกไป จนเห็นเป็นรูปและนาม อย่างที่เขาเรียกว่าแยกรูปแยกนาม ก็คือแยกคนที่เป็นสมมติออกมาเป็นรูปกับนาม แต่ก่อนนี่เห็นแต่คน เห็นแต่เราๆ แต่พอเราเจริญสติ มันก็ชำแรก หลวงพ่อคำเขียนใช้คำว่าถลุง ถลุงคือแยก คือย่อย จากเดิมที่เป็นเราๆ ก็แยกออกมาเป็นรูปกับนาม แล้วบางทีก็เรียกว่าแยกรูปแยกนาม
ที่จริงรูปกับนามมันแยกกันอยู่แล้ว แต่เราไม่เห็นเป็นรูปเป็นนาม เราเห็นเป็นคน เป็นเรา แต่พอเราเจริญสติ มันก็เริ่มที่จะเห็นว่ามันไม่มีเรา มันมีแต่รูปกับนาม อันนี้แหละเป็นขั้นต้นของการที่จะเข้าใจเรื่องสมมติสัจจะ เข้าใจคือว่าไม่ยึดติด แต่ว่าใช้มันตามควรตามโอกาส แต่ว่าได้รู้ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นแค่สมมติ เป็นเรื่องของการยอมรับ เป็นเรื่องของการสมมติขึ้นมาเ
21/09/2022 • 27 minutes 33 seconds 25650912pm--ไม่เป็นทุกข์เพราะรู้ทุกข์
12 ก.ย. 65 - ไม่เป็นทุกข์เพราะรู้ทุกข์ : อารมณ์ที่เป็นอกุศลก็เหมือนกัน แม้มันจะแย่อย่างไร เช่น ความโกรธ ความเศร้า ความอิจฉา พยาบาท แต่ถ้าเรารู้ทัน มันก็ทำให้เราทุกข์ไม่ได้ เหมือนกับกองไฟ ถ้าหากว่าเราอยู่ห่างจากกองไฟมากเท่าไหร่ ความทุกข์เพราะกองไฟมันก็น้อยลง แต่ที่เราทุกข์เพราะอะไร เพราะว่าเราเผลอปล่อยตัวเข้าไปในกองไฟนั้น ปล่อยให้ไฟมันเผา
หรือว่าเวลามีความหนักอกหนักใจ ความหนักอกหนักใจไม่ได้สร้างปัญหา แต่ที่เป็นปัญหาเพราะเราไปแบกมันเอาไว้ เหมือนกับหิน ถ้ากองอยู่บนพื้น มันไม่สร้างปัญหาให้กับเรา แต่เป็นเพราะเราไปแบกมันเอาไว้ หนามมันแหลมอย่างไร ถ้าเราไม่เดินไปทิ่มมัน เดินไปเหยียบมัน หรือเอามือไปทิ่มมัน มันก็ไม่เจ็บ ถ่านมันจะร้อนอย่างไร ถ้าเราไม่จับมัน มันก็ไม่ลวกมือ ไม่เผามือ
ศิลปะของการดำเนินชีวิตก็คือว่า เมื่อเจอถ่านร้อนก็ไม่ไปถือ เมื่อเจอหินหนักก็ไม่ไปแบก เมื่อเจอหนามแหลมก็ไม่ไปเหยียบหรือว่าไปยื่นมือให้มันทิ่มเอา ก็คือวางระยะห่างจากมัน ก็คือรู้ทันมัน เช่นเดียวกันความทุกข์ อารมณ์ และความคิดที่เป็นอกุศล มันเกิดขึ้นแต่ว่าพอเรารู้ทัน ก็ไม่เข้าไปแบกเข้าไปยึด ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวด้ว
25650911pm--การค้นพบตัวเองที่สำคัญ
11 ก.ย. 65 - การค้นพบตัวเองที่สำคัญ : คนเราถ้าไม่รู้ทันความคิด ไม่รู้ทันอารมณ์ มันก็สามารถสร้างทุกข์ให้กับตัวเองได้ และสิ่งที่ต้องการคือความสงบนี่มันก็จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย การภาวนานี่คนส่วนใหญ่ก็ปรารถนาแต่ความสงบ สงบที่เขาเข้าใจคือไม่คิดอะไร แล้วก็ไปห้ามความคิดหรือไปกดข่มอารมณ์ด้วย มันมีความคิดก็กดมันเอาไว้ มันมีอารมณ์เกิดขึ้นก็กดมันเอาไว้ เพราะคิดว่านี่มันจะทำให้ตัวเองสงบ
แต่ที่จริงแล้ว สิ่งที่ดีกว่าก็คือ”การเห็น” เห็นความคิดและอารมณ์ ซึ่งจะเห็น หรือรู้ทันมันได้ ก็ต้องยอมให้มันเกิดขึ้น อนุญาตให้มันเกิดขึ้น ไม่กดข่มมัน ใหม่ๆ ก็ไม่เห็นนะ พอมันเกิดขึ้นทีไร มันก็ครองใจเราทันที เรียกว่า “เข้าไปเป็น”
แต่ต่อไปนี่เราฝึกการเห็นบ่อยๆ ฝึกเห็นบ่อยๆ มันก็จะเห็นได้เร็วขึ้น แล้วมันก็จะเข้าไปเป็นน้อยลง พอเห็นเมื่อไรนะ มันก็จะครองใจเราไม่ได้ และนี่ก็คือการค้นพบที่สำคัญเลย เพราะมันหมายถึงการที่เราสามารถจะเป็นอิสระจากความคิดและอารมณ์ได้
21/09/2022 • 23 minutes 39 seconds 25650910pm--วางใจอย่างไรเมื่อเจอทุกข์
10 ก.ย. 65 - วางใจอย่างไรเมื่อเจอทุกข์ : ถ้าเรารู้จักหาประโยชน์จากอนิฏฐารมณ์ หรือจากความทุกข์ มันได้กำไร ฉะนั้นท่าทีที่ควรทำเวลาเราเจอทุกข์ มันก็มีแค่ 2 อย่างเท่านั้นแหละนะ อัน ที่ 1 คือรักษาใจไม่ให้ทุกข์ โดยเฉพาะถ้าเราเป็นคนที่รักตัวเอง เมื่อเจอทุกข์กับทรัพย์สิน กับเงินทอง กับร่างกาย กับงานการ กับความสัมพันธ์ แค่นี้มันก็พอแรงอยู่แล้ว อย่าปล่อยให้ใจทุกข์ไปด้วย ให้ความทุกข์มันถูกจำกัดอยู่แค่ทุกข์กาย หรือว่าทุกข์ในทรัพย์ แต่รักษาใจไม่ให้ทุกข์ และดีกว่านั้นก็คือว่าหาประโยชน์จากทุกข์ให้ได้ หรือประโยชน์ในทางธรรม ก็จะช่วยทำให้ได้กำไรจากสิ่งที่เกิดขึ้น
19/09/2022 • 26 minutes 33 seconds